พบก้อนนูนๆ ที่ข้อมือหรือข้อเท้าอาจไม่ใช่แค่ก้อนธรรมดาแต่เป็น Ganglion Cyst หรือก้อนถุงน้ำที่เกิดจากของเหลวในข้อหรือตามเอ็นสะสมมากเกินไป ไปเจาะลึกสาเหตุ อาการ พร้อมแนวทางการรักษาที่โรงพยาบาลวิภาวดี พร้อมด้วยการตรวจวินิจฉัยด้วย Ultrasound หรือ MRI รักษาแบบเจาะดูดน้ำหรือผ่าตัดเอาก้อนออก โดยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านออร์โธปิดิกส์
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Sep%2011%20(ganglion%20cyst)%20(2).jpg)
Carpal Ganglion Cyst คือ Ganglion Cyst ที่เกิดบริเวณข้อมือโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่พบบ่อยที่สุด Ganglion Cyst คือก้อนถุงน้ำที่เกิดจากการสะสมของของเหลวภายในข้อหรือปลอกหุ้มเอ็นภายในถุงจะบรรจุของเหลวใสข้นคล้ายเจลลี่ ไม่ใช่เนื้อร้ายหรือมะเร็ง ก้อนนี้มักเกิดขึ้นบริเวณข้อมือมือ นิ้ว หรอบข้อเท้าลักษณะของก้อนจะเป็นรูปวงกลมหรือวงรี ผิวเรียบ เคลื่อนไหวได้เมื่อจับ และมักไม่เจ็บปวด แต่ในบางรายอาจมีอาการปวดตื้อๆ หรือรู้สึกไม่สบาย โดยเฉพาะเมื่อขยับข้อมือบ่อยหรือมีแรงกดบริเวณนั้น
ถุงน้ำ Ganglion Cyst พบบ่อยในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะในช่วงอายุ 20-40 ปี และมักเกิดในผู้ที่ต้องใช้ข้อมือหรือมือในการทำงานซ้ำๆ เช่น พิมพ์งาน จับเมาส์ ใช้เครื่องมือช่าง หรือนักกีฬาที่ใช้มือบ่อย และสามารถเกิดได้จากการบาดเจ็บเล็กน้อยของข้อต่อหรือเอ็น ทำให้เยื่อหุ้มข้อมีการโป่งพองจนเกิดเป็นถุงน้ำขึ้นมาในที่สุด
Ganglion Cyst มักไม่เจ็บปวดในระยะแรก แต่ในบางรายอาจมีอาการปวดตื้อๆ หรือรู้สึกแน่นเมื่อก้อนโตขึ้น หรือเมื่อขยับข้อมือบ่อยๆ ถุงน้ำอาจขยายใหญ่ขึ้นหรือลดขนาดลงตามกิจกรรมที่ทำ และในบางกรณีอาจกดเบียดเส้นประสาทจนทำให้เกิดอาการชา หรืออ่อนแรงบริเวณใกล้เคียงได้
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Sep%2011%20(ganglion%20cyst)%20(3).jpg)
สาเหตุการเกิดก้อนถุงน้ำข้อเท้า ข้อมือยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่เชื่อว่าเกิดจากการที่ของเหลวภายในข้อหรือปลอกหุ้มเอ็นรั่วซึมออกมาสะสมจนเกิดเป็นถุงน้ำใต้ผิวหนัง ปัจจัยหลายอย่างสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะนี้ได้ ดังนี้
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Sep%2011%20(ganglion%20cyst)%20(4).jpg)
โดยทั่วไป Ganglion Cyst ไม่เป็นอันตรายและอาจหายได้เอง แต่หากมีอาการผิดปกติบางอย่าง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม เพราะอาการบางอย่างอาจบ่งชี้ถึงการกดทับเส้นประสาทหรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Sep%2011%20(ganglion%20cyst)%20(6).jpg)
การรักษา Ganglion Cyst หรือเมื่อถุงน้ำข้อเท้าอักเสบขึ้นอยู่กับขนาด ตำแหน่ง และอาการของผู้ป่วย ในบางรายก้อนอาจยุบหายได้เองโดยไม่ต้องรักษา แต่หากก้อนมีขนาดใหญ่ เจ็บ หรือรบกวนการใช้งาน ควรได้รับการดูแลจากแพทย์เพื่อเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสม โดยมีแนวทางหลักดังนี้
การรักษาโดยไม่ผ่าตัดเหมาะสำหรับผู้ที่มีก้อนขนาดเล็กและไม่มีอาการปวด แพทย์อาจแนะนำให้เฝ้าสังเกตอาการไปก่อน เนื่องจากถุงน้ำบางก้อนสามารถยุบหายได้เอง ควรหลีกเลี่ยงการกด บีบ หรือเจาะก้อนด้วยตนเอง เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรืออักเสบได้ นอกจากนี้อาจใช้การพันผ้ายืด หรือ ใส่อุปกรณ์พยุงข้อ ช่วยลดแรงกดและการเคลื่อนไหวของข้อ เพื่อลดอาการปวดและให้ก้อนค่อยๆ ยุบลง
แพทย์จะใช้เข็มเจาะเข้าไปในก้อนเพื่อดูดของเหลวออก ซึ่งช่วยลดขนาดของถุงน้ำและบรรเทาอาการปวดได้ทันที บางครั้งแพทย์อาจฉีดยาสเตียรอยด์ร่วมด้วยเพื่อลดการอักเสบและป้องกันการกลับมาเกิดซ้ำ อย่างไรก็ตาม วิธีนี้อาจไม่หายขาด เพราะถุงน้ำสามารถกลับมาได้อีก โดยเฉพาะหากยังมีแรงกดหรือการใช้งานข้อซ้ำๆ
รักษาโดยการผ่าตัดใช้ในกรณีที่ก้อนมีขนาดใหญ่ เจ็บปวดมาก หรือกลับมาเกิดซ้ำบ่อย แพทย์จะทำการผ่าตัดนำถุงน้ำและรากที่เชื่อมต่อกับข้อต่อหรือปลอกหุ้มเอ็นออกทั้งหมด เพื่อลดโอกาสการเกิดซ้ำการผ่าตัดทำได้ทั้งแบบเปิด หรือส่องกล้อง ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของก้อน หลังผ่าตัดอาจต้องพักการใช้งานบริเวณนั้นชั่วคราว และทำกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูการเคลื่อนไหวของข้อให้กลับมาเป็นปกติ
หลังจากการรักษาไม่ว่าจะเป็นการเจาะดูดน้ำหรือการผ่าตัดควรดูแลและฟื้นฟูข้อต่ออย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันการอักเสบ การกลับมาเกิดซ้ำ และช่วยให้การเคลื่อนไหวของข้อกลับมาเป็นปกติ การดูแลตนเองมีแนวทางดังนี้
แม้ว่ายังไม่สามารถป้องกันการเกิด Ganglion Cyst ได้ทั้งหมด เพราะสาเหตุที่แท้จริงยังไม่แน่ชัด แต่สามารถลดความเสี่ยงและป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำได้ด้วยการดูแลข้อต่อและเอ็นให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงแรงกดหรือการใช้งานข้อที่มากเกินไป โดยแนวทางการป้องกันมีดังนี้
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Sep%2011%20(ganglion%20cyst)%20(5).jpg)
แม้ว่า Ganglion Cyst จะไม่ใช่เนื้องอกร้ายแรงแต่หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษาอาจทำให้ก้อนโตขึ้นจนกดทับเส้นประสาท เกิดอาการปวด ชา หรืออ่อนแรงบริเวณมือ นิ้ว หรือข้อเท้าได้ อีกทั้งยังอาจรบกวนการเคลื่อนไหวและการใช้งานข้อต่อในชีวิตประจำวัน หากก้อนแตกหรือพยายามเจาะเองก็อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อและอักเสบตามมา โรงพยาบาลวิภาวดีมีแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกและข้อ (Orthopedics) ให้บริการตรวจวินิจฉัยด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น Ultrasound หรือ MRI เพื่อประเมินลักษณะของก้อนอย่างละเอียด ก่อนวางแผนการรักษาที่เหมาะสม ทั้งการเจาะดูดของเหลวเพื่อบรรเทาอาการ และการผ่าตัดเอาก้อนออก เพื่อป้องกันการกลับมาเกิดซ้ำ พร้อมได้รับการดูแลอย่างปลอดภัยภายใต้การรักษาของแพทย์เฉพาะทาง พร้อมบริการฟื้นฟูและกายภาพบำบัดหลังการรักษา เพื่อให้สามารถกลับมาเคลื่อนไหวและใช้งานข้อต่อได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง
Ganglion Cyst คือก้อนน้ำที่เกิดจากการสะสมของของเหลวภายในข้อหรือปลอกหุ้มเอ็น มักพบที่ข้อมือหรือข้อเท้า แม้จะไม่เป็นอันตราย แต่ก็อาจสร้างความรำคาญหรือปวดเมื่อกดทับเส้นประสาทได้ การวินิจฉัยทำได้โดยแพทย์เฉพาะทางด้วยการตรวจร่างกายและอาจใช้การ Ultrasound หรือ MRI เพื่อยืนยันผล การรักษามีทั้งแบบไม่ผ่าตัด การเจาะดูดน้ำ และการผ่าตัดเอาก้อนออก ทั้งนี้การดูแลหลังการรักษาและการป้องกันก็สำคัญ เช่น การพักข้อ ออกกำลังกายเสริมความแข็งแรง และปรับพฤติกรรมการใช้งานข้อ หากมีก้อนผิดปกติหรืออาการเจ็บเรื้อรัง ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการประเมินอย่างถูกต้องและรักษาอย่างเหมาะสม เพื่อให้กลับมาใช้งานข้อได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง
หากมีก้อนถุงน้ำ Ganglion Cyst อย่าปล่อยทิ้งไว้! เข้ารับการตรวจและรักษาอย่างเหมาะสมที่โรงพยาบาลวิภาวดี พร้อมด้วยบริการวินิจฉัยด้วย Ultrasound หรือ MRI และรักษาโดยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ผู้ชำนาญการ ทั้งการเจาะดูดน้ำหรือผ่าตัดเอาก้อนออกอย่างปลอดภัย เพื่อให้คุณกลับมาใช้มือหรือข้อเท้าได้อย่างมั่นใจ และลดโอกาสการเกิดซ้ำในอนาคต!
ผู้ที่มีก้อน Ganglion Cyst มักสังเกตเห็นก้อนนูนใต้ผิวหนังบริเวณข้อมือ ฝ่ามือ หรือข้อเท้า ก้อนจะมีลักษณะกลมหรือรี ผิวเรียบ ขยับได้เมื่อจับ และมักไม่เจ็บปวด ในบางรายอาจรู้สึกปวดตื้อๆ หรือแน่นเวลาใช้งานข้อ หากไม่แน่ใจ แนะนำให้พบแพทย์เพื่อตรวจยืนยันด้วยอัลตราซาวนด์หรือ MRI
ในบางกรณี Ganglion Cyst สามารถยุบหายได้เอง โดยเฉพาะก้อนขนาดเล็กที่ไม่เจ็บและไม่ได้กดทับเส้นประสาท แพทย์อาจแนะนำให้เฝ้าสังเกตอาการไปก่อน แต่หากก้อนโตขึ้น เจ็บ หรือรบกวนการใช้งาน ควรเข้ารับการรักษาเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน
ถุงน้ำ Ganglion Cyst มีโอกาสกลับมาเกิดซ้ำได้แม้จะได้รับการรักษาแล้วหากยังมีแรงกดหรือใช้งานข้อมือซ้ำๆ การผ่าตัดเอาถุงน้ำและรากที่เชื่อมกับข้อออกทั้งหมดจะช่วยลดโอกาสการกลับเป็นซ้ำได้ดี
ไม่ควรนวดหรือบีบก้อนถุงน้ำด้วยตนเอง เพราะอาจทำให้ถุงแตก ของเหลวรั่ว และเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อได้ แม้บางครั้งก้อนอาจยุบลงชั่วคราว แต่มีโอกาสกลับมาเกิดใหม่อีก ควรให้แพทย์ประเมินและรักษาอย่างถูกวิธีเพื่อความปลอดภัย
นโยบายความเป็นส่วนตัว | นโยบาย คุกกี้
Copyright © Vibhavadi Hospital. All right reserved