รู้ไหมว่าอาการปวด ตึง หรือขยับร่างกายติดขัด อาจไม่ใช่แค่เมื่อยธรรมดา แต่อาจเป็นสัญญาณของ ‘พังผืด’ ที่เกิดจากการสะสมของเนื้อเยื่อผิดปกติ ส่งผลให้เกิดอาการปวด ตึง และเคลื่อนไหวติดขัด โดยเฉพาะบริเวณข้อต่อ เช่น ไหล่ เข่า หรือมือ หากปล่อยไว้อาจทำให้ข้อติดและเคลื่อนไหวลำบากมากขึ้น เข้ารับการตรวจและรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกและข้อ ที่โรงพยาบาลวิภาวดี พร้อมด้วยทีมเวชศาสตร์ฟื้นฟู คอยดูแลร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยบรรเทาอาการ ฟื้นฟูการเคลื่อนไหวและคุณภาพชีวิตของคุณ!
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Sep%2012%20(%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%B7%E0%B8%94%20%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%94%20%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%20%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3)%20(2).jpg)
พังผืดคือเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อซ่อมแซมหรือปกป้องบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บ เช่น จากการอักเสบ การผ่าตัด หรือการบาดเจ็บเรื้อรัง โดยปกติเนื้อเยื่อเกี่ยวพันจะช่วยยึดอวัยวะและกล้ามเนื้อให้ทำงานประสานกัน เมื่อเกิด “พังผืด” เนื้อเยื่อเหล่านี้จะหนา แข็ง และยึดติดผิดปกติ ทำให้การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อหรือข้อต่อลดลงต่างจากเนื้อเยื่อปกติที่มีความยืดหยุ่นและสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
หากเกิดพังผืดอาจทำให้รู้สึกตึง เจ็บ หรือเคลื่อนไหวลำบากในบริเวณที่เกิดขึ้น ปล่อยไว้นานอาจส่งผลต่อการใช้งานของอวัยวะหรือข้อต่อ และบางกรณีอาจต้องได้รับการรักษาจากแพทย์เฉพาะทาง เช่น การทำกายภาพบำบัด หรือการผ่าตัดแก้พังผืด เพื่อฟื้นฟูการเคลื่อนไหวและลดอาการเจ็บปวดให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Sep%2012%20(%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%B7%E0%B8%94%20%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%94%20%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%20%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3)%20(3).jpg)
อาการของพังผืดแตกต่างกันไปตามตำแหน่งที่เกิด แต่โดยทั่วไปจะมีอาการที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวหรือความรู้สึกในบริเวณนั้น ดังนี้
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Sep%2012%20(%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%B7%E0%B8%94%20%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%94%20%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%20%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3)%20(4).jpg)
หลายคนที่เป็นพังผืดอยู่แล้วเกิดความสงสัยว่าพังผืดเกิดจากอะไร? สาเหตุที่แท้มาจากไหน? พังผืดเกิดจากการซ่อมแซมเนื้อเยื่อของร่างกายที่ทำงานผิดปกติ ทำให้มีการสร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพันมากเกินไป จนเกิดการยึดรั้งกล้ามเนื้อ ข้อต่อ หรืออวัยวะต่างๆ ทำให้เคลื่อนไหวลำบากและมีอาการปวดตามมา ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดพังผืดมีหลายสาเหตุ ดังนี้
หลังการผ่าตัดหรือเกิดบาดแผล ร่างกายจะกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ โดยสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใหม่เข้ามาทดแทนส่วนที่เสียหาย หากกระบวนการนี้ทำงานมากเกินไป หรือเกิดการอักเสบในระหว่างฟื้นตัวจะทำให้เกิดพังผืดสะสมบริเวณแผลผ่าตัด เช่น บริเวณช่องท้อง ข้อไหล่ หรือข้อมือ ส่งผลให้เกิดอาการเจ็บและเคลื่อนไหวได้ไม่สะดวก
ภาวะการอักเสบที่เป็นต่อเนื่อง เช่น เส้นเอ็นอักเสบ ข้ออักเสบ หรือกล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง จะทำให้ร่างกายสร้างพังผืดขึ้นเพื่อปกป้องและซ่อมแซม แต่เมื่อเกิดบ่อยหรือไม่หายขาด พังผืดจะหนา แข็ง และยึดเกาะกับเนื้อเยื่อรอบข้าง ทำให้บริเวณนั้นแข็งตึง เคลื่อนไหวได้ยาก และมีอาการปวดเรื้อรัง
เมื่อกล้ามเนื้อหรือเอ็นฉีกขาดจากการใช้งานหนัก อุบัติเหตุ หรือการออกกำลังกายที่ผิดท่า ร่างกายจะสร้างพังผืดขึ้นเพื่อซ่อมแซมบริเวณที่บาดเจ็บหากไม่ได้รับการฟื้นฟูหรือยืดกล้ามเนื้ออย่างเหมาะสม พังผืดจะสะสมจนเกิดการยึดรั้ง ทำให้ข้อติด ขยับลำบาก และปวดเมื่อเคลื่อนไหว โดยเฉพาะบริเวณหัวไหล่ หลัง หรือเอ็นร้อยหวาย
พังผืดในอวัยวะภายในอาจเกิดจากการอักเสบ การติดเชื้อ หรือหลังผ่าตัดในช่องท้อง เช่น การผ่าตัดไส้ติ่ง มดลูก หรือลำไส้ พังผืดอาจยึดอวัยวะต่างๆ เข้าด้วยกัน เช่น ลำไส้ติดกับผนังช่องท้อง ส่งผลให้เกิดอาการแน่นท้อง ปวดท้องเรื้อรัง ท้องอืด หรือแม้แต่ลำไส้อุดตันในกรณีรุนแรง พังผืดในอุ้งเชิงกรานยังอาจทำให้มีบุตรยากในผู้หญิงได้
บางคนมีความผิดปกติทางพันธุกรรมหรือระบบซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ทำงานมากเกินไป เช่น โรค Dupuytren’s contracture ที่ทำให้เกิดพังผืดหนาใต้ผิวหนังฝ่ามือ ส่งผลให้นิ้วค่อยๆ งอเข้าหาฝ่ามือ หรือโรคพังผืดในปอดที่ทำให้หายใจติดขัด ทั้งที่ไม่ได้เกิดจากการบาดเจ็บหรืออักเสบโดยตรง
ผู้ที่ได้รับการฉายรังสีรักษา เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง อาจเกิดพังผืดบริเวณที่ได้รับรังสี เนื่องจากรังสีทำลายเซลล์และกระตุ้นการอักเสบของเนื้อเยื่อ ทำให้ร่างกายซ่อมแซมมากเกินไป นอกจากนี้การสัมผัสสารเคมีบางชนิดในระยะยาว เช่น สารพิษจากอุตสาหกรรม ก็อาจกระตุ้นให้เกิดพังผืดในอวัยวะต่างๆ ได้เช่นกัน
พังผืดไม่ได้ส่งผลเพียงแค่ความรู้สึกปวดหรือตึงเท่านั้น แต่ยังอาจกระทบต่อการทำงานของร่างกายในหลายส่วน ทั้งภายนอกและภายใน หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจทำให้การเคลื่อนไหวติดขัด หรือเกิดความผิดปกติของอวัยวะได้ ดังนี้
หากมีอาการปวดตึง เคลื่อนไหวติดขัด หรือปวดเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุควรเข้ารับการตรวจและรักษาโดยแพทย์เฉพาะทาง เพื่อวินิจฉัยและฟื้นฟูอย่างเหมาะสมก่อนที่พังผืดจะลุกลามหรือส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Sep%2012%20(%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%B7%E0%B8%94%20%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%94%20%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%20%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3)%20(7).jpg)
การตรวจวินิจฉัยพังผืดเป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อระบุว่ามีการเกิดพังผืดจริงหรือไม่ และอยู่ในตำแหน่งใดของร่างกาย ซึ่งจะช่วยให้แพทย์วางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้อง โดยทั่วไปมีขั้นตอนดังนี้
วิธีสลายพังผืดกล้ามเนื้อ สลายพังผืดข้อมือ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและตำแหน่งที่เกิดพังผืด โดยแพทย์จะประเมินว่าควรรักษาแบบอนุรักษ์หรือจำเป็นต้องผ่าตัด ทั้งนี้เป้าหมายของการรักษาคือ ลดอาการปวด ฟื้นฟูการเคลื่อนไหว และป้องกันไม่ให้พังผืดกลับมาเกิดซ้ำอีก
เป็นวิธีแรกที่แพทย์มักเลือกใช้ เหมาะกับผู้ป่วยที่มีพังผืดไม่รุนแรง หรืออยู่ในระยะเริ่มต้น เพื่อช่วยลดอาการและฟื้นฟูการเคลื่อนไหวของร่างกาย
ใช้ในกรณีที่พังผืดหนาแน่นหรือมีการอักเสบร่วมด้วย เพื่อลดอาการและทำให้ขยับได้สะดวกขึ้น
หากพังผืดหนา ยึดรั้งรุนแรง หรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบไม่ผ่าตัด แพทย์อาจแนะนำให้ผ่าตัด
หลังผ่าตัด ผู้ป่วยมักต้องทำกายภาพบำบัดร่วมด้วย เพื่อป้องกันการเกิดพังผืดซ้ำและฟื้นฟูการเคลื่อนไหวให้กลับมาเป็นปกติเร็วขึ้น
การฟื้นฟูหลังการรักษาพังผืดเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้เนื้อเยื่อกลับมาทำงานได้ปกติ ลดความเสี่ยงของการเกิดพังผืดซ้ำ และช่วยให้การเคลื่อนไหวดีขึ้น โดยควรทำอย่างต่อเนื่องภายใต้คำแนะนำของแพทย์และนักกายภาพบำบัด ดังนี้
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Sep%2012%20(%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%B7%E0%B8%94%20%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%94%20%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%20%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3)%20(5).jpg)
วิธีนวดสลายพังผืดเป็นหนึ่งในเทคนิคการฟื้นฟูที่ช่วยคลายการยึดรั้งของเนื้อเยื่อ เพิ่มความยืดหยุ่น ลดความตึง และส่งเสริมการไหลเวียนของเลือด ทำให้บริเวณที่เกิดพังผืดฟื้นตัวได้ดีขึ้น ก่อนเริ่มนวด ควรอุ่นบริเวณที่มีพังผืดด้วยผ้าร้อนหรือประคบร้อน 5-10 นาที เพื่อช่วยคลายกล้ามเนื้อและเพิ่มการไหลเวียนเลือด ซึ่งการอุ่นเนื้อเยื่อช่วยให้เนื้อเยื่อพังผืดนุ่มลงและลดความเจ็บระหว่างนวด โดยวิธีนวดมีหลักการดังนี้
ควรเริ่มปรับแรงกดและความถี่ตามอาการ เริ่มจากแรงกดเบาๆ แล้วเพิ่มตามความทนของร่างกาย ทำสม่ำเสมอ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือปรับตามคำแนะนำของนักกายภาพบำบัด หลังนวดอาจประคบร้อนเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อเพิ่มเติม หรือประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมและอักเสบ
การป้องกันพังผืดเป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดพังผืดซ้ำ หรือทำให้พังผืดใหม่เกิดขึ้น การดูแลร่างกายอย่างเหมาะสมร่วมกับการปรับพฤติกรรมสามารถช่วยให้เนื้อเยื่อมีความยืดหยุ่น แข็งแรง และทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Sep%2012%20(%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%B7%E0%B8%94%20%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%94%20%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%20%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3)%20(6).jpg)
พังผืดหากปล่อยทิ้งไว้อาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวและคุณภาพชีวิต ทำให้เกิดความเจ็บปวด ตึง หรือจำกัดการทำกิจกรรมประจำวัน การเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงทีจึงสำคัญ โรงพยาบาลวิภาวดีมีแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกและข้อ ร่วมกับทีมเวชศาสตร์ฟื้นฟู ให้การดูแลแบบครบวงจร ทั้งการทำกายภาพบำบัด ฉีดยา หรือผ่าตัดแก้ไขตามความเหมาะสม เพื่อฟื้นฟูการเคลื่อนไหวและคุณภาพชีวิตของคุณ
พังผืดคือเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่เกิดขึ้นผิดปกติในร่างกาย ทำให้เกิดอาการปวด ตึง และเคลื่อนไหวติดขัด หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันและฟังก์ชันของกล้ามเนื้อ ข้อต่อ หรืออวัยวะภายใน เข้ารับการตรวจวินิจฉัยอย่างแม่นยำด้วยการตรวจร่างกาย เพื่อให้แพทย์วางแผนการรักษาได้เหมาะสม ตั้งแต่การทำกายภาพบำบัด การนวด การฉีดยา ไปจนถึงการผ่าตัด
สำหรับผู้ที่เคยมีพังผืดควรฟื้นฟูหลังการรักษาอย่างต่อเนื่อง การป้องกันไม่ให้พังผืดกลับมาเกิดซ้ำ เช่น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การยืดเหยียด และปรับท่าทางการทำงาน เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ร่างกายกลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างปกติและคุณภาพชีวิตดีขึ้น การใส่ใจตั้งแต่เนิ่นๆ ทำให้พังผืดไม่กลายเป็นอุปสรรคต่อร่างกายในระยะยาว ที่โรงพยาบาลวิภาวดี ทีมแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกและข้อ ร่วมกับทีมเวชศาสตร์ฟื้นฟู ให้การรักษาพังผืดอย่างครบวงจร ด้วยวิธีต่างๆ เช่น การทำกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูการเคลื่อนไหว การฉีดยาเพื่อลดอาการปวดและตึง การผ่าตัดแก้ไขในกรณีจำเป็น ซึ่งในทุกๆ ขั้นตอนมุ่งเน้นฟื้นฟูคุณภาพชีวิตและให้ผู้ป่วยกลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างเต็มที่!
พังผืดส่วนใหญ่ไม่สามารถหายเองได้อย่างสมบูรณ์ เพราะเป็นการสะสมของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่ยึดรั้งกล้ามเนื้อหรือข้อ การปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้อาการปวด ตึง หรือข้อจำกัดในการเคลื่อนไหวรุนแรงขึ้น การรักษาและฟื้นฟูอย่างเหมาะสมจึงจำเป็นเพื่อป้องกันผลกระทบระยะยาว
ควรพบแพทย์ทันทีหากมีอาการปวดรุนแรง เช่น เคลื่อนไหวข้อหรือกล้ามเนื้อไม่ได้ คลำเจอก้อนแข็งใต้ผิวหนัง หรือมีอาการชาและเจ็บแปลบเรื้อรัง อาการเหล่านี้อาจบ่งบอกว่าพังผืดกำลังยึดรั้งเนื้อเยื่อและข้อต่อจนรบกวนการทำงานของร่างกาย
ระยะเวลาพักฟื้นขึ้นอยู่กับตำแหน่งและความรุนแรงของพังผืด หากใช้วิธีผ่าตัดใช้เวลาประมาณ 2-6 สัปดาห์สำหรับพังผืดบริเวณผิวหนังหรือข้อต่อเล็ก ส่วนกรณีที่ลึกหรือกว้างมากอาจใช้เวลา 2-3 เดือน แพทย์จะกำหนดโปรแกรมกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูการเคลื่อนไหวร่วมด้วย
การนวดสลายพังผืดกล้ามเนื้อด้วยตัวเองสามารถช่วยคลายความตึง ลดอาการปวด และเพิ่มความยืดหยุ่นของเนื้อเยื่อ ได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถทำให้พังผืดหายขาดได้โดยสมบูรณ์ ถ้าพังผืดหนาหรือยึดรั้งลึกควรรักษาแบบด้วยการกายภาพบำบัด การฉีด หรือบางกรณีอาจต้องผ่าตัด ร่วมกับการนวด จะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและป้องกันการเกิดซ้ำ
นโยบายความเป็นส่วนตัว | นโยบาย คุกกี้
Copyright © Vibhavadi Hospital. All right reserved