Key Takeaway
- น้ำตาเทียม คือสารละลายที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและบรรเทาอาการระคายเคืองของดวงตา เหมาะสำหรับผู้ที่ตาแห้งหรือต้องการป้องกันความเสียหายต่อกระจกตา
- น้ำตาเทียมเหมาะกับผู้ที่มีอาการตาแห้ง ตาแดง ผู้สูงอายุ ใส่คอนแท็กต์เลนส์ หรือทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์และสมาร์ตโฟนเป็นเวลานาน รวมถึงผู้ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมแห้งหรือมีฝุ่น
- การเลือกผลิตภัณฑ์น้ำตาเทียมควรพิจารณาความรุนแรงของอาการ ความไวต่อสารกันเสีย และสภาพแวดล้อม เช่น ใช้แบบน้ำสำหรับอาการเล็กน้อย แบบเจลหรือขี้ผึ้งสำหรับตาแห้งรุนแรง และเลือกสูตรไม่มีสารกันเสียหากดวงตาไวต่อสารเคมี
น้ำตาเทียมคือตัวช่วยสำคัญในการบรรเทาอาการตาแห้ง แสบ คัน หรือระคายเคืองดวงตา แต่การเลือกใช้ให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลก็สำคัญไม่แพ้กัน โรงพยาบาลภาวดีมีจักษุแพทย์มากประสบการณ์พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับประเภทน้ำตาเทียม วิธีใช้ และข้อควรระวัง เพื่อให้คุณเลือกใช้ได้อย่างปลอดภัยและเหมาะกับสภาพดวงตาของตัวเอง!
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Aug%209%20(%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1)%20(2).jpg)
ทำความรู้จักก่อนใช้ น้ำตาเทียมคืออะไร?
น้ำตาเทียม (Artificial Tears) คือสารละลายที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อทดแทนหรือลดความแห้งของดวงตา ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดอาการระคายเคืองที่เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การใช้สายตามากๆ การจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน การใส่คอนแท็กต์เลนส์ หรือแม้แต่สภาพอากาศที่แห้งและมีฝุ่นละออง น้ำตาเทียมช่วยให้ดวงตามีความชุ่มชื้นเพียงพอ ส่งเสริมสุขภาพของเยื่อบุตาและกระจกตา และช่วยให้การมองเห็นชัดเจน
น้ำตาเทียมมักมีส่วนประกอบหลักดังนี้
- น้ำบริสุทธิ์ (Purified Water) เป็นตัวละลายและให้ความชุ่มชื้นหลัก
- สารเพิ่มความหนืด (Viscosity Agents) เช่น ไฮยาลูโรเนต (Sodium Hyaluronate), คาร์โบเมอร์ (Carbomer) ช่วยให้สารอยู่บนตานานขึ้น
- เกลือแร่ อิเล็กโทรไลต์ (Electrolytes) เช่น โซเดียม คลอไรด์ โพแทสเซียม ช่วยให้ดวงตารู้สึกสบายและสมดุลกับน้ำตาธรรมชาติ
- สารกันเสีย (Preservatives) หรือแบบปราศจากสารกันเสีย เพื่อป้องกันเชื้อแบคทีเรียในขวดน้ำตาเทียมแบบใช้หลายครั้ง
- สารอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น สารลดการระคายเคืองหรือสารปรับค่า pH ให้ใกล้เคียงกับน้ำตาธรรมชาติ
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Aug%209%20(%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1)%20(3).jpg)
ประโยชน์ของน้ำตาเทียมมีอะไรบ้าง?
น้ำตาเทียมช่วยบำรุงและปกป้องดวงตาให้ชุ่มชื้น ลดอาการไม่สบาย และป้องกันความเสียหายจากปัจจัยต่างๆ ที่กระทบต่อสายตา ไปดูกันว่าน้ำตาเทียมมีประโยชน์อย่างไร!
- บรรเทาอาการตาแห้ง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา ลดความแห้งและแสบตา
- ลดอาการระคายเคือง บรรเทาอาการเคืองตา แสบตา หรือรู้สึกทรมานจากสิ่งกระตุ้นภายนอก
- ชะล้างสิ่งแปลกปลอม ช่วยล้างฝุ่นละอองหรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้าตา
- ดูแลดวงตาหลังการผ่าตัด ใช้หลังผ่าตัดดวงตาหรือเลสิก เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและป้องกันการระคายเคือง
- เพิ่มความสบายในการใส่คอนแท็กต์เลนส์ ลดความแห้งและความไม่สบายขณะใส่คอนแท็กต์เลนส์
- ป้องกันความเสียหายต่อดวงตาจากการใช้คอมพิวเตอร์หรือหน้าจอนานๆ ช่วยชะลออาการตาล้าและแห้งจากการใช้คอมพิวเตอร์หรือมือถือเป็นเวลานาน
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Aug%209%20(%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1)%20(4).jpg)
ใครควรใช้น้ำตาเทียม
น้ำตาเทียมเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงและปกป้องดวงตาให้ชุ่มชื้น ลดอาการระคายเคือง และป้องกันความเสียหายจากปัจจัยต่างๆ
- มีภาวะตาแห้ง (Dry Eye Syndrome) ดวงตาแห้ง แสบ หรือเคืองตาเรื้อรัง
- ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ตโฟนเป็นเวลานาน ลดอาการตาล้าและแห้งจากการใช้สายตาติดต่อกัน
- ผู้ที่ใส่คอนแท็กต์เลนส์ เพิ่มความสบาย ลดความแห้งและระคายเคือง
- อยู่ในสภาพแวดล้อมอากาศแห้ง ช่วยให้ความชุ่มชื้นและป้องกันการระคายเคือง
- ต้องเผชิญกับมลภาวะ ล้างฝุ่นละอองหรือสิ่งแปลกปลอมในดวงตา
- ผู้สูงอายุ ป้องกันอาการตาแห้งตามวัย
- มีอาการระคายเคืองตา ลดอาการแสบหรือคันตา
- ผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดตา เพิ่มความชุ่มชื้นและช่วยฟื้นฟูหลังการผ่าตัด
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Aug%209%20(%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1)%20(5).jpg)
น้ำตาเทียมมีกี่ประเภท?
น้ำตาเทียมมีหลายประเภท แต่ละประเภทออกแบบมาเพื่อความสะดวกและตอบโจทย์อาการตาแห้งต่างกัน ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกตามความเหมาะสมและความรุนแรงของอาการ
น้ำตาเทียมแบบน้ำ (Artificial Tear Drops)
น้ำตาเทียมแบบน้ำเป็นสารละลายใส มีความหนืดต่ำ ทำให้หล่อลื่นตาได้ทันทีและรู้สึกสบาย ใช้ง่าย เหมาะสำหรับหยดระหว่างวันโดยไม่ทำให้ตาพร่าหรือเหนียวตา
เหมาะกับผู้ที่มีอาการ ดังนี้
- มีอาการตาแห้งเล็กน้อยถึงปานกลาง
- ใช้บ่อยระหว่างวันเพื่อลดความแห้งและระคายเคือง
น้ำตาเทียมแบบเจลหรือขี้ผึ้ง (Gel Drops/Gel Ointment)
น้ำตาเทียมแบบเจลหรือขี้ผึ้งมีความหนืดสูงกว่าน้ำตาเทียมแบบน้ำ ทำหน้าที่เคลือบตาได้นาน ลดการระเหยของน้ำตา และเพิ่มความชุ่มชื้นอย่างต่อเนื่อง
เหมาะกับผู้ที่มีอาการ ดังนี้
- มีอาการตาแห้งรุนแรงหรือเรื้อรัง
- เหมาะกับการใช้ก่อนนอนเพื่อลดอาการตาแห้งตอนเช้า
- มีปัญหาตาแห้งจากสภาพแวดล้อมหรือโรคบางชนิด เช่น เบาหวาน หรือโรคตาแห้งเฉพาะด้าน
น้ำตาเทียมแบบไม่มีสารกันเสีย
น้ำตาเทียมแบบไม่มีสารกันเสียมักบรรจุในหลอดรายวัน เพื่อป้องกันการปนเปื้อน ทำให้เหมาะกับผู้ที่ตาไวต่อสารกันเสียหรือผู้ที่ต้องใช้บ่อย
เหมาะกับผู้ที่มีอาการ ดังนี้
- มีอาการตาแห้งเรื้อรังและต้องหยดบ่อย
- มีอาการระคายเคืองง่ายจากสารกันเสียในน้ำตาเทียมแบบขวด
- ใช้ได้ปลอดภัยในระยะยาวโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการปนเปื้อน
น้ำตาเทียมแบบมีสารกันเสีย
น้ำตาเทียมแบบมีสารกันเสียมักบรรจุในขวดใช้หลายครั้งหลังเปิดขวด ทำให้สะดวกและเก็บได้นาน
เหมาะกับผู้ที่มีอาการ ดังนี้
- มีอาการตาแห้งเล็กน้อยถึงปานกลาง
- ผู้ที่ไม่ต้องการเปลี่ยนขวดบ่อย
- ไม่เหมาะกับผู้ที่ตาไวต่อสารกันเสีย เพราะอาจทำให้เกิดระคายเคืองหรือแพ้
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Aug%209%20(%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1)%20(6).jpg)
เลือกน้ำตาเทียมอย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง
การเลือกน้ำตาเทียมให้เหมาะสมกับตัวเองสำคัญต่อการบรรเทาอาการตาแห้งและป้องกันความระคายเคืองอย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกที่ถูกต้องขึ้นอยู่กับ ความรุนแรงของอาการ ความไวต่อสารกันเสีย และสภาพแวดล้อมที่ใช้งาน
- ประเมินความรุนแรงของอาการตาแห้ง
- ตาแห้งเล็กน้อย ใช้น้ำตาเทียมแบบน้ำ (Artificial Tear Drops) หยดระหว่างวันเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นทันที
- ตาแห้งปานกลางถึงรุนแรง ใช้น้ำตาเทียมแบบเจลหรือขี้ผึ้ง (Gel Drops/Ointment) เพื่อเคลือบตาและบำรุงนานขึ้น โดยเฉพาะก่อนนอน
- พิจารณาความไวต่อสารกันเสีย
- ตาไวต่อสารกันเสีย ควรเลือกน้ำตาเทียมแบบไม่มีสารกันเสีย (หลอดรายวัน) เพื่อป้องกันอาการระคายเคืองหรือแพ้
- ตาปกติไม่ไวต่อสารกันเสีย สามารถใช้น้ำตาเทียมแบบมีสารกันเสีย (ขวดใช้หลายครั้ง) ได้สะดวกและเก็บได้นาน
- พิจารณาสภาพแวดล้อมและกิจกรรม
- อยู่ในสภาพอากาศแห้งหรือมีฝุ่น เลือกน้ำตาเทียมที่มีความหนืดปานกลางถึงสูง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและลดการระเหยของน้ำตา
- ใช้คอนแท็กต์เลนส์ เลือกสูตรที่ปลอดภัยสำหรับคอนแท็กต์เลนส์และไม่ทำให้เลนส์ขุ่น
- ทำงานหน้าจอนานๆ เลือกน้ำตาเทียมหยดง่าย ใช้ได้บ่อย เพื่อลดอาการตาล้าและแห้ง
- ปรึกษาแพทย์หรือนักจักษุวิทยา
- หากมีอาการตาแห้งรุนแรงเรื้อรัง หรือมีโรคตาอื่นร่วมด้วย การปรึกษาแพทย์จะช่วยเลือกน้ำตาเทียมสูตรเฉพาะและระบุวิธีใช้ให้เหมาะสม
วิธีใช้น้ำตาเทียมที่ถูกต้อง
การวิธีใช้น้ำตาเทียมให้ถูกต้องจะช่วยให้ดวงตาได้รับความชุ่มชื้นเต็มที่ ลดอาการระคายเคือง และป้องกันการติดเชื้อหรือผลข้างเคียงจากการใช้ไม่ถูกวิธี
- ล้างมือให้สะอาด ก่อนหยอดตาเสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่อาจมาจากมือ
- ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ อ่านฉลากและคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์อย่างละเอียด เพื่อทำความเข้าใจวิธีการใช้ ปริมาณที่เหมาะสม และวันหมดอายุ
- เงยหน้าขึ้น จัดท่าให้สบาย โดยเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย
- ดึงเปลือกตาล่างลง ใช้นิ้วมือข้างที่ไม่ถนัดค่อยๆ ดึงเปลือกตาล่างลงเบาๆ ให้เกิดช่องว่าง
- หยอดน้ำตาเทียม ใช้มือข้างที่ถนัดถือขวดหรือหลอดน้ำตาเทียม หยอดลงไปในช่องว่างที่ดึงเปลือกตาล่างไว้ โดยระวังไม่ให้ปลายขวดสัมผัสกับดวงตา ขนตา หรือผิวหนัง เพื่อป้องกันการปนเปื้อน
- หยอดเพียง 1 หยด โดยทั่วไปแล้วการหยอดเพียง 1 หยดก็เพียงพอ เพราะดวงตาของเราสามารถกักเก็บของเหลวได้ในปริมาณจำกัด
- หลับตาเบาๆ หลับตาลงประมาณ 1-2 นาที ไม่ควรหรี่ตาหรือกะพริบตาถี่ๆ เพราะจะทำให้น้ำตาเทียมไหลออกนอกดวงตาเร็วเกินไป
- นวดเบาๆ ที่หัวตา ใช้นิ้วมือกดและนวดเบาๆ บริเวณหัวตา เพื่อช่วยให้น้ำตาเทียมอยู่ในดวงตาได้นานขึ้น
- เช็ดส่วนเกิน ใช้ผ้าสะอาดหรือกระดาษทิชชูซับน้ำตาเทียมส่วนที่ไหลออกมา
- รอ 5-10 นาที หากต้องใช้ยาหยอดตาชนิดอื่นร่วมด้วย ควรรอประมาณ 5-10 นาที เพื่อให้ยาแต่ละชนิดออกฤทธิ์ได้เต็มที่ ควรหยอดยาชนิดเหลวก่อนชนิดขี้ผึ้ง
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Aug%209%20(%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1)%20(7).jpg)
ข้อควรระวังในการใช้น้ำตาเทียม
การใช้น้ำตาเทียมอย่างระมัดระวังช่วยป้องกันอาการระคายเคืองหรือปัญหาสุขภาพตาเพิ่มเติม และทำให้การรักษาอาการตาแห้งมีประสิทธิภาพสูงสุด
- ความถี่ในการใช้ หลีกเลี่ยงการหยดบ่อยเกินไปตามคำแนะนำของฉลากหรือแพทย์
- การเก็บรักษา เก็บในที่เย็นและห่างจากแสงแดด ป้องกันการเสื่อมสภาพ
- การเปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์ หากน้ำตาเทียมมีสี กลิ่น หรือความขุ่นผิดปกติ ไม่ควรใช้
- การใช้ร่วมกับคอนแท็กต์เลนส์ อ่านฉลากว่าสามารถใช้กับคอนแท็กต์เลนส์ได้หรือไม่
- การปนเปื้อนของเชื้อโรค หลีกเลี่ยงการสัมผัสปลายหลอดกับตาหรือผิวรอบดวงตา
- วันหมดอายุและระยะเวลาหลังเปิดใช้ ตรวจสอบวันหมดอายุและใช้ให้หมดภายในระยะเวลาที่กำหนดหลังเปิดขวด
- พบแพทย์หากอาการตาแห้งไม่ดีขึ้น หากตาแห้งหรือระคายเคืองต่อเนื่อง ควรปรึกษาแพทย์
- สัญญาณอันตรายที่ควรหยุดใช้และปรึกษาแพทย์ ปวดตา ตาแดงรุนแรง ตาพร่ามัว หรือมีน้ำตาไหลมาก ควรหยุดใช้และปรึกษาแพทย์ทันที
สัญญาณที่บ่งชี้ ต้องพบแพทย์ด่วนมีอะไรบ้าง?
หากคุณสังเกตเห็นอาการตาแดงรุนแรงหรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วควรรีบพบแพทย์ทันที เพราะอาจบ่งบอกถึงการอักเสบหรือการติดเชื้อที่รุนแรง นอกจากนี้ หากมีอาการตาพร่ามัวหรือเห็นไม่ชัด สิ่งเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของปัญหาที่กระจกตาหรือจอตา
ในกรณีที่มีหนองหรือตาแฉะมากผิดปกติ แสดงถึงการติดเชื้อรุนแรงที่ต้องได้รับการรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางอย่างเร่งด่วน รวมถึงอาการปวดตาหรือรอบดวงตาอย่างรุนแรง ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของโรคตาอักเสบหรือความดันในลูกตาที่สูง การไปพบแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเมื่ออาการไม่ดีขึ้นแม้จะใช้น้ำตาเทียมหลายวัน เพราะการดูแลด้วยตนเองเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอและอาจทำให้อาการแย่ลง
ตรวจสุขภาพตาที่โรงพยาบาลวิภาวดี
โรงพยาบาลวิภาวดี มีจักษุแพทย์มากประสบการณ์ ตรวจสุขภาพตา หรือการรักษาโรคตาต่างๆ พร้อมให้คำปรึกษาและวินิจฉัยปัญหาดวงตาอย่างครบถ้วน สำหรับผู้ที่มีอาการตาแห้ง ตาแดง อื่นๆ สามารถเข้าพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกใช้น้ำตาเทียม หรือผลิตภัณฑ์บำรุงดวงตาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลอย่างตรงจุด ช่วยให้การบำรุงรักษาดวงตาและการป้องกันภาวะแทรกซ้อนเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
สรุป
น้ำตาเทียมคือสารละลายที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น บรรเทาอาการตาแห้งและระคายเคือง เหมาะกับผู้ที่ตาแห้ง ตาแดง ใส่คอนแท็กต์เลนส์ หรือทำงานหน้าจอเป็นเวลานาน น้ำตาเทียมแบ่งเป็นหลายประเภท เช่น แบบน้ำ แบบเจลหรือขี้ผึ้ง แบบไม่มีสารกันเสีย และแบบมีสารกันเสีย การเลือกน้ำตาเทียมควรพิจารณาความรุนแรงของอาการ ความไวต่อสารกันเสีย และสภาพแวดล้อมการใช้งาน พร้อมใช้อย่างถูกวิธี ตรวจสอบวันหมดอายุ และสังเกตอาการผิดปกติ หากตาแดงรุนแรง ตาพร่ามัว หรือมีหนอง ควรไปพบแพทย์ทันที
โรงพยาบาลวิภาวดีมีจักษุแพทย์มากประสบการณ์ให้คำปรึกษา ตรวจสุขภาพตา และแนะนำผลิตภัณฑ์น้ำตาเทียมที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล สนใจตรวจสุขภาพตาหรือประเมินความเสี่ยงโรคตาแดง ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย! ที่ โรงพยาบาลวิภาวดี หรือติดต่อได้ที่ โทร. 02-561-1111
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
เพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์น้ำตาเทียมที่เหมาะกับแต่ละคนมากขึ้น มาดูคำถามที่หลายคนมักสงสัยพร้อมคำตอบกัน
น้ำตาเทียมกับยาหยอดตาแตกต่างกันอย่างไร?
น้ำตาเทียมมีหน้าที่หลักในการเพิ่มความชุ่มชื้นและบรรเทาอาการระคายเคืองเท่านั้น ส่วนยาหยอดตามักมีตัวยาที่รักษาโรคหรืออาการเฉพาะ เช่น ลดการอักเสบ หยอดแล้วรักษาโรคได้ตรงจุด น้ำตาเทียมจึงเหมาะกับการดูแลทั่วไปและป้องกันอาการตาแห้ง
น้ำตาเทียมต่างจากน้ำตาอย่างไร?
น้ำตาเทียมเป็นสารละลายที่ออกแบบให้ใกล้เคียงน้ำตาธรรมชาติ ทั้งค่า pH ความหนืด และเกลือแร่ แต่จะคงอยู่บนดวงตาได้นานกว่าน้ำตาธรรมชาติ ช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองในผู้ที่น้ำตาไม่เพียงพอหรือแห้งเรื้อรัง
น้ำตาเทียมใช้กับโรคตาอะไรได้บ้าง?
น้ำตาเทียมมักใช้กับภาวะตาแห้ง (Dry Eye Syndrome), ตาแดงจากการระคายเคือง หรือหลังผ่าตัดตา เช่น เลสิก นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการตาล้าและระคายเคืองจากการใส่คอนแท็กต์เลนส์หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมแห้ง
เด็กสามารถใช้น้ำตาเทียมได้ไหม?
เด็กสามารถใช้น้ำตาเทียมได้ แต่ควรเลือกสูตรที่ปลอดภัยสำหรับเด็กและปราศจากสารกันเสีย หากเป็นเด็กเล็กหรือมีอาการตาแห้งรุนแรง ควรปรึกษาจักษุแพทย์ก่อนใช้เพื่อความปลอดภัย