เอ็นร้อยหวายอักเสบเกิดจากอะไร หาสาเหตุ เช็กอาการและวิธีรักษา

Key Takeaway

  • เอ็นร้อยหวายอักเสบคือการอักเสบของเอ็นที่เชื่อมระหว่างส้นเท้ากับกล้ามเนื้อน่อง ทำให้เกิดอาการปวดหรือระบมที่ส้นเท้าและด้านหลังข้อเท้า โดยเฉพาะเวลาลุกขึ้นยืนหรือเดิน
  • สัญญาณเตือนเอ็นร้อยหวายอักเสบที่ต้องไปพบแพทย์ ได้แก่ ปวดรุนแรง บวมแดง หรือมีอาการเจ็บต่อเนื่องนานหลายสัปดาห์ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษาให้เหมาะสม
  • อาการเอ็นร้อยหวายอักเสบเล็กน้อยบางรายอาจดีขึ้นเอง หากพักและยืดกล้ามเนื้ออย่างเหมาะสม แต่ถ้ายังใช้งานซ้ำหรือพักไม่พอ อาการอาจกลายเป็นเรื้อรังและต้องรับการรักษาจากแพทย์หรือกายภาพบำบัด

เอ็นร้อยหวายอักเสบเกิดจากอะไร อาการเป็นอย่างไร และจะดูแลตัวเองอย่างไรได้บ้าง? โรงพยาบาลวิภาวดีมีแพทย์ผู้ชำนาญการด้านกระดูกและข้อ พร้อมเทคนิคการวินิจฉัยอย่างแม่นยำ กายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูเอ็นร้อยหวาย รวมถึงแนวทางการรักษาทันสมัยที่ช่วยให้คุณกลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นใจ!

เอ็นร้อยหวายอักเสบคืออะไร หายเองได้ไหม

เอ็นร้อยหวายอักเสบคืออะไร หายเองได้ไหม?

เอ็นร้อยหวายอักเสบ คือภาวะที่เอ็นร้อยหวาย (Achilles Tendon) ซึ่งเอ็นร้อยหวายเป็นเส้นเอ็นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในร่างกาย ทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างกล้ามเนื้อน่องกับกระดูกส้นเท้าที่ทำหน้าที่ในการเคลื่อนไหว เช่น การเดิน วิ่ง หรือกระโดด เมื่ออักเสบมักจะรู้สึกเจ็บปวดบริเวณหลังส้นเท้า โดยเฉพาะเวลาเดิน วิ่ง หรือทำกิจกรรมที่ต้องลงน้ำหนักที่เท้า

อาการเอ็นร้อยหวายอักเสบในระยะแรกและมีอาการไม่รุนแรงสามารถหายเองได้ หากดูแลตนเองอย่างเหมาะสม โดยให้ความสำคัญกับการพักเอ็นและปรับกิจกรรมต่างๆ จะช่วยให้เส้นเอ็นฟื้นตัว กลับมาทำงานได้ตามปกติ

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงที่เอ็นร้อยหวายอักเสบ

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงที่เอ็นร้อยหวายอักเสบ

เอ็นร้อยหวายอักเสบเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งจากพฤติกรรมการใช้งานและลักษณะทางร่างกายบางอย่าง ปัจจัยเหล่านี้สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการอักเสบหรือบาดเจ็บของเอ็นร้อยหวายได้ ดังนี้

  • การใช้งานเอ็นร้อยหวายมากเกินไป เช่น วิ่ง กระโดด หรือออกกำลังกายที่ใช้แรงขามาก
  • การบาดเจ็บเฉียบพลัน เช่น หกล้ม ข้อเท้าพลิก หรือมีแรงกระแทกบริเวณส้นเท้าหรือข้อเท้า
  • ยืดกล้ามเนื้อไม่เพียงพอก่อนออกกำลังกาย ทำให้เอ็นรับแรงกะทันหันและบาดเจ็บง่าย
  • ใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม ขาดการรองรับส้นเท้าอย่างเพียงพอ
  • นักกีฬาที่ใช้ขามาก เช่น นักวิ่ง นักบาสเกตบอล นักฟุตบอล มีความเสี่ยงต่อเอ็นร้อยหวายอักเสบสูง เพราะมีการใช้งานกล้ามเนื้อและเอ็นร้อยหวายซ้ำๆ
  • การเพิ่มความเข้มข้นหรือระยะเวลาในการฝึกเร็วเกินไป ทำให้เอ็นร้อยหวายปรับตัวไม่ทันและเสี่ยงเกิดการอักเสบ 
  • อายุที่มากขึ้น ทำให้เอ็นร้อยหวายสูญเสียความยืดหยุ่น
  • โครงสร้างเท้าที่ผิดปกติ เช่น เท้าแบน หรือเอ็นร้อยหวายตึง
  • น้ำหนักเกินหรือภาวะอ้วน ก่อให้เกิดแรงกดที่เอ็นร้อยหวายมากขึ้น
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงที่เอ็นร้อยหวายอักเสบ

อาการของเอ็นร้อยหวายอักเสบ

อาการของเอ็นร้อยหวายอักเสบมักเริ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ หากยังคงใช้งานเส้นเอ็นอย่างต่อเนื่อง โดยอาการที่พบบ่อยมีดังนี้

  • ปวดบริเวณหลังส้นเท้า โดยเฉพาะบริเวณเหนือส้นเท้าขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่งเป็นที่ตั้งของเอ็นร้อยหวาย มักเริ่มต้นเป็นอาการเจ็บตื้อๆ เล็กน้อยหลังจากการออกกำลังกายหรือการทำกิจกรรม
  • ปวดมากในช่วงเช้า มักมีอาการปวดตึงและแข็งบริเวณเอ็นร้อยหวายอย่างมากในตอนเช้าหลังตื่นนอน หรือหลังจากนั่งพักเป็นเวลานาน อาการจะดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อมีการขยับหรือเดินเบาๆ
  • ปวดเพิ่มขึ้นเมื่อเคลื่อนไหว อาการปวดจะรุนแรงขึ้นเมื่อเดินเร็ว วิ่ง ขึ้นบันได หรือทำกิจกรรมที่ต้องเขย่งปลายเท้า
  • บวมและแดง อาจมีอาการบวมเล็กน้อยบริเวณเอ็นร้อยหวาย บางครั้งอาจรู้สึกร้อนเมื่อสัมผัส หรือคลำได้ว่าเอ็นหนาขึ้น

สัญญาณเตือนเอ็นร้อยหวายอักเสบที่ต้องไปพบแพทย์

สัญญาณที่บ่งบอกว่าเอ็นร้อยหวายอักเสบอาจรุนแรงและควรไปพบแพทย์ทันที ได้แก่

  • ปวดรุนแรงที่เอ็นร้อยหวายหรือส้นเท้า จนเดินหรือยืนแทบไม่ได้
  • เกิดอาการเจ็บเฉียบพลัน ขณะออกกำลังกายหรือเดิน
  • ข้อเท้าและส้นเท้าบวม แดง หรือร้อนผิดปกติ
  • เอ็นร้อยหวายบวมโต กดแล้วเจ็บมาก หรือคลำพบร่องเว้าเหมือนเอ็นฉีกขาด
  • เดินกะเผลก ข้อเท้าไม่มั่นคง หรือไม่สามารถเหยียด-งอข้อเท้าได้เต็มที่
  • อาการปวดเรื้อรังนานเกิน 2–3 สัปดาห์ แม้พักหรือทำกายภาพแล้วอาการไม่ดีขึ้น

หากพบอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางกระดูกและข้อ ตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการฉีกขาดของเอ็นและปัญหาการเคลื่อนไหวในระยะยาวได้

การวินิจฉัยเอ็นร้อยหวายอักเสบ

  1. ซักประวัติผู้ป่วยสอบถามอาการปวด ระดับความรุนแรง ประวัติการบาดเจ็บหรือการออกกำลังกายหนักเกินไป รวมถึงปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น น้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ การใส่รองเท้าไม่เหมาะสม หรือโรคประจำตัวบางชนิด
  2. การตรวจร่างกาย แพทย์จะตรวจดูความบวม รอยแดง หรือความร้อนบริเวณเอ็นร้อยหวายตรวจการเคลื่อนไหวของข้อเท้า และการตอบสนองของเอ็น เช่น การกดหรือดึงเบาๆ เพื่อประเมินความเจ็บปวด
  3. การตรวจพิเศษ (หากจำเป็น) เช่น Ultrasound ตรวจดูความหนาและสภาพของเอ็นร้อยหวาย X-ray เพื่อตรวจความผิดปกติของกระดูกหรือมีการสะสมของแคลเซียมบริเวณเอ็น หรือ MRI ใช้ในกรณีที่ต้องการประเมินความเสียหายของเอ็นอย่างละเอียด เช่น การฉีกขาดบางส่วนหรือเต็ม
วิธีรักษาเอ็นร้อยหวายอักเสบ

วิธีรักษาเอ็นร้อยหวายอักเสบ

การรักษาเอ็นร้อยหวายอักเสบมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและระยะเวลาที่เป็น การรักษาตั้งแต่เบื้องต้นจนถึงกรณีรุนแรงควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

การรักษาด้วยตัวเองที่บ้าน

สำหรับเอ็นร้อยหวายอักเสบเล็กน้อยสามารถดูแลตัวเองที่บ้านได้ด้วยมาตรการง่ายๆ ที่ช่วยลดอาการปวดและการอักเสบ โดยใช้หลัก RICE (Rest, Ice, Compression, Elevation) ดังนี้

  • R - Rest (พัก) พักการใช้งานเท้าและข้อเท้า หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรงกับเอ็นร้อยหวาย เช่น การวิ่ง การกระโดด หรือการยืนหรือเดินนานๆ
  • I - Ice (ประคบเย็น) ประคบเย็นบริเวณที่ปวดและบวมประมาณ 15-20 นาที ทุก 2-3 ชั่วโมง เพื่อลดการอักเสบและความปวด
  • C - Compression (พันหรือรัด) ใช้ผ้าพันหรือสนับข้อเท้าพันบริเวณที่ปวดเพื่อช่วยลดอาการบวมและพยุงข้อเท้า
  • E - Elevation (ยกสูง) ยกขาข้างที่เจ็บให้สูงกว่าระดับหัวใจ (เช่น เวลานอนหรือพักผ่อน) เพื่อช่วยลดอาการบวม

การใช้ยา

แพทย์อาจแนะนำการใช้ยาลดการอักเสบและบรรเทาปวด เช่น ยาในกลุ่ม NSAIDs (Non-Steroidal Anti-Inflammatory Drugs) ทั้งชนิดรับประทานและชนิดทาภายนอก รวมทั้งยาคลายกล้ามเนื้อ อาจใช้ร่วมด้วยในบางกรณี และควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร

การกายภาพบำบัด

การกายภาพบำบัดเป็นส่วนสำคัญในการรักษาเอ็นร้อยหวายอักเสบ โดยจะมีการนวด การยืดเหยียด (Stretching Exercise) เน้นการยืดกล้ามเนื้อน่องและเอ็นร้อยหวาย เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น (เช่น ท่ายืดน่องโดยใช้กำแพง หรือท่ายืดโดยใช้ผ้าขนหนูคล้องฝ่าเท้า) การออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรง (Strengthening Exercise) โดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบ Eccentric Exercise (เช่น การยืนเขย่งปลายเท้าขึ้นและลงช้าๆ บนขอบบันได) ซึ่งช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของเอ็น

การรักษาด้วยเครื่องมือ

นอกเหนือจากการดูแลตนเอง การใช้ยา หรือกายภาพบำบัดแล้ว ยังมีการรักษาที่ใช้เครื่องมือทางการแพทย์เข้ามาช่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เป็นเอ็นอักเสบเรื้อรัง เช่น การบำบัดด้วยคลื่นกระแทก (Shockwave Therapy) ซึ่งช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมของเส้นเอ็นและลดอาการปวด รวมถึงการใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัดอื่นๆ เช่น อัลตราซาวด์หรือเลเซอร์ และยังมีการใช้แผ่นรองส้นเท้า (Heel Pad) หรือปรับเปลี่ยนชนิดของรองเท้าให้เหมาะสม ก็เป็นส่วนหนึ่งของการจัดการเพื่อลดแรงกดและแรงดึงต่อเอ็นร้อยหวายในชีวิตประจำวัน

การผ่าตัด

การผ่าตัดมักเป็นทางเลือกสุดท้าย ใช้ในกรณีที่อาการรุนแรง เช่น เอ็นฉีกขาด หรือรักษาด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล แพทย์อาจทำการซ่อมแซมเอ็นหรือขจัดเนื้อเยื่อที่เสียหาย ซึ่งในปัจจุบันมีการผ่าตัดด้วยเทคนิคแผลเล็กเพื่อช่วยให้การพักฟื้นรวดเร็วขึ้นด้วย

การเลือกวิธีการรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรง ระยะเวลาอาการ และสภาพร่างกายของผู้ป่วยแพทย์จะประเมินและปรับวิธีรักษาให้เหมาะสมเพื่อให้ฟื้นตัวเร็วและลดโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ

การป้องกันเอ็นร้อยหวายอักเสบ

การป้องกันเอ็นร้อยหวายอักเสบสามารถทำได้ด้วยการปรับพฤติกรรมและเสริมความแข็งแรงให้เอ็นร้อยหวาย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บและการอักเสบ ดังนี้

  • ยืดเหยียดกล้ามเนื้อน่องอย่างสม่ำเสมอ ก่อนและหลังออกกำลังกายเพื่อลดแรงดึงบนเอ็น
  • ออกกำลังกายเสริมความแข็งแรงเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อน่อง ด้วยการออกกำลังกายเสริมความแข็งแรง
  • การออกกำลังกายที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการเพิ่มความหนักหรือระยะเวลาการฝึกที่รวดเร็วเกินไป
  • เลือกรองเท้าที่เหมาะสม มีการรองรับส้นเท้าและลดแรงกระแทก
  • หลีกเลี่ยงการใช้งานเมื่อมีอาการ เช่น ปวดหรือบวม เพื่อไม่ให้เอ็นได้รับแรงดึงต่อเนื่อง
  • ควบคุมน้ำหนักตัว เพื่อลดแรงกดบนเอ็นร้อยหวาย
  • หลีกเลี่ยงรองเท้าส้นสูงที่ทำให้เอ็นร้อยหวายตึงและเสี่ยงต่อการอักเสบ

รักษาเอ็นร้อยหวายอักเสบ ที่โรงพยาบาลวิภาวดี

โรงพยาบาลวิภาวดีดูแลผู้ป่วยเอ็นร้อยหวายอักเสบด้วยแพทย์เฉพาะทางกระดูกและข้อ พร้อมทีมกายภาพบำบัดมืออาชีพ เรามีเทคนิควินิจฉัยแม่นยำ และโปรแกรมฟื้นฟูครบวงจร ทั้งการยืดกล้ามเนื้อ เสริมความแข็งแรง และรักษาด้วยเทคโนโลยีทันสมัย เช่น Shockwave Therapy เพื่อลดอาการปวดและเร่งการฟื้นตัว โดยออกแบบแผนการรักษาให้เหมาะกับแต่ละบุคคล

สรุป

เอ็นร้อยหวายอักเสบเป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อเอ็นร้อยหวายซึ่งเชื่อมระหว่างกล้ามเนื้อน่องกับส้นเท้าเกิดการอักเสบ ทำให้รู้สึกปวด บวม หรือแข็งบริเวณด้านหลังข้อเท้า สาเหตุหลักมักเกิดจากการใช้งานมากเกินไป บาดเจ็บเฉียบพลัน หรือโครงสร้างเท้าที่ผิดปกติ อาการเบื้องต้นอาจปวดเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าไม่ดูแลอาจรุนแรงจนเดินหรือออกกำลังกายลำบาก การรักษาเริ่มจากการพัก ประคบน้ำแข็ง และยืดกล้ามเนื้อ ควบคู่กับการปรับกิจกรรมหรือใส่อุปกรณ์ช่วย เช่น ผ้ายืดหรือรองเท้าที่เหมาะสม ในกรณีรุนแรงอาจต้องใช้ยา กายภาพบำบัด หรือเทคโนโลยีทันสมัยอย่าง Shockwave Therapy เพื่อฟื้นฟูเอ็นร้อยหวาย และในบางกรณีอาจต้องพิจารณาผ่าตัด การป้องกันสำคัญที่สุดคือยืดกล้ามเนื้อ เสริมความแข็งแรง เลือกรองเท้าที่เหมาะสม และควบคุมน้ำหนักตัว เพื่อให้เอ็นร้อยหวายแข็งแรงและลดโอกาสเกิดซ้ำ

อย่าปล่อยให้อาการปวดเอ็นร้อยหวายมาเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต หากคุณมีอาการปวดส้นเท้าหรือเอ็นร้อยหวายอักเสบ โรงพยาบาลวิภาวดีพร้อมดูแลด้วยแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกและข้อ รักษาด้วยเทคโนโลยีทันสมัย เช่น Shockwave Therapy ช่วยบรรเทาอาการ ฟื้นฟูเอ็นร้อยหวาย และกลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

เอ็นร้อยหวายอักเสบกี่วันหาย?

ระยะเวลาการฟื้นตัวขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและวิธีดูแลตัวเอง สำหรับอาการเล็กน้อยมักดีขึ้นภายใน 2-6 สัปดาห์ หากอาการรุนแรงหรือไม่ได้พักเอ็นอย่างเหมาะสม อาจนานเป็นเดือน การรักษาโดยแพทย์และกายภาพบำบัดช่วยเร่งการฟื้นตัวได้

เจ็บเอ็นร้อยหวายอักเสบกินยาอะไร ซื้อยากินเองได้ไหม?

ยาที่มักใช้บรรเทาอาการ ได้แก่ ยาแก้ปวดและลดการอักเสบชนิดไม่สเตียรอยด์ (NSAIDs) ยาบางชนิดสามารถซื้อได้เอง แต่ควรปรึกษาแพทย์หากมีโรคประจำตัวหรืออาการไม่ดีขึ้น เพราะแพทย์สามารถแนะนำยาและปริมาณที่ปลอดภัยเหมาะสมกับแต่ละคน

เอ็นร้อยหวายอักเสบ ประคบร้อนหรือเย็น?

ในช่วงอักเสบเฉียบพลันควรประคบเย็นเพื่อลดบวมและอาการปวดหลังจากอาการเฉียบพลันลดลง การประคบร้อนช่วยคลายกล้ามเนื้อและเพิ่มการไหลเวียนเลือด ส่งผลให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาของอาการและความสะดวกของผู้ป่วย

เอ็นร้อยหวายอักเสบนวดแล้วจะหายไหม?

การนวดสามารถช่วยคลายกล้ามเนื้อและลดตึงของเอ็นแต่ไม่ได้รักษาอาการอักเสบโดยตรง การนวดควรทำอย่างระมัดระวังหรือโดยนักกายภาพบำบัด เพื่อป้องกันการบาดเจ็บเพิ่มเติม การฟื้นตัวเต็มต้องควบคู่กับการพัก ยืดกล้ามเนื้อ และโปรแกรมฟื้นฟูที่เหมาะสม


บทความที่เกี่ยวข้อง