คำแนะนำ การฝังเข็ม ( Acupuncture)

คำแนะนำ การฝังเข็ม ( Acupuncture)

การฝังเข็ม คืออะไร

          การฝังเข็ม คือการที่แพทย์ใช้เข็มเล็กขนาด 0.18-0.30 มม. ปักลงในจุดต่างๆของร่างกาย แล้วกระตุ้นโดยใช้นิ้วมือหมุนปั่น หรือใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้ากระตุ้นโวลต์ต่ำ ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที แล้วจึงถอนเข็มออก มีฤทธิ์ในการรักษาโรค 3 ประการคือ
1.แก้ไขการไหลเวียนของเลือดลมปราณที่ติดขัด
2.ปรับอวัยวะต่างๆในร่างกายให้อยู่สมดุล
3.กระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย เพื่อกำจัดเหตุปัจจัยที่เป็นอันตราย ออกจากร่างกายและยับยั้ง ความเจ็บปวด ทำให้กล้ามเนื้อที่หดเกร็งมีอาการคลายตัว

ประโยชน์ของการฝังเข็ม คือ การรักษาและบรรเทาอาการของโรค
โรคที่สามารถรักษาได้ด้วยการฝังเข็ม
          องค์การอนามัยโลกระบุว่า มีโรคหลายชนิด หลายกรณี ที่สามารถทำการรักษาได้ ทุกเพศ ทุกวัย โดยโรคและอาการที่พบบ่อยๆมีดังนี้
 - อัมพาต อัมพฤกษ์ แขนขา อ่อนแรง
- ปวดศีรษะ
 -นอนไม่หลับ เครียด วิตกกังวล
 -ท้องผูก
-โรคบริเวณใบหน้า เช่นอัมพาตใบหน้าครึ่งซีก หน้ากระตุก ขากรรไกรค้าง อ้าปากไม่ขึ้น
- โรคกล้ามเนื้อเอ็น ข้อกระดูกและปลายประสาทชา ปวดข้อ รูมาตอยด์ ชาปลายมือและปลายเท้า ตะคริว ปวดหลัง ปวดหัวเข่า ข้อเขาเสื่อ ข้อเข่าพลิก
-อาการปวดจากมะเร็ง เนื้องอก ปวดแผลผ่าตัด
- แพ้ท้องมาก อาเจียน ทานอาหารไม่ได้
-โรคเบาหวานและภาวะแทรกซ้อน ปลายเท้าคล้ำดำ ชาปลายมื้อและปลายเท้า
-ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง

- ลดน้ำหนัก เช่น ลดความอ้วนหลังคลอด ลดไขมันเฉพาะที่ เช่นต้นขา น่อง ต้นแขน ท้องแขน ฯลฯ
- เพิ่มน้ำหนักในคนผอม ผู้ป่วยเรื้อรัง
- บำรุงสุขภาพ วัยเรียน วัยทำงาน และผู้สูงอายุ
-โรคผู้สูงอายุ สั่นกระตุก พาร์กินสัน หลงลืม โรคอัลไซเมอร์
- โรคสูตินารีเวช ปวดประจำเดือน ประจำเดือนมาไม่ปกติ
-วัยทอง
- เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
- โรคภูมิแพ้
-เวชสำอางผิวหนัง เช่น ลบรอยตีนกา รอยเหี่ยวย่นใต้คาง ฝ้า สิว กระ
-ผมร่วง เส้นเลือดขอด
- เลิกยาเสพติด เช่น สุรา บุหรี่ ยาเสพติดอื่นๆ
- โรคระบบทางเดินอาหาร และลำไส้ เช่น ปวดท้องเรื้อรัง ริดสีดวงทวาร
-โรคอื่นๆซึ่งแพทย์จะพิจารณาเป็นรายๆไป

ข้อควรระวังในการฝังเข็ม

          ไม่ควรทำการฝังเข็มในผู้ป่วยต่อไปนี้

1.     สตรีมีครรภ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงใกล้คลอด จะไม่สามารถทนนอนหรือนั่งเป็นเวลานานๆได้

2.      ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด เช่น โรคฮีโมฟิลเลีย

3.      โรคมะเร็ง(ที่ยังไม่ได้รับการรักษา)

4.      โรคที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัด เช่น ไส้ติ่งอักเสบ ฯลฯ

5.       ผู้ป่วยโรคหัวใจที่มีเครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจ(Pacemaker) ห้ามรักษาด้วยเครื่องกระตุ้นเข็มด้วยไฟฟ้า

6.       ผู้ป่วยที่ตื่นเต้นหวาดกลัวต่อการรักษามากเกินไป ทั้งที่ได้พยายามอย่างเต็มที่แล้วก็ยังควบคุมจิตใจตนเองไม่ได้

7.       ผู้ป่วยที่เหน็ดเหนื่อยจากการออกกำลังกายอย่างหนัก

8.       ทารกเด็กเล็ก ผู้ป่วยทางจิต โรคสมองเสื่อม ที่ไม่สามารถให้ความร่วมมือในการรักษาได้

ทางเลือกอื่นๆ กรณีที่ไม่สามารถรักษาด้วยการฝังเข็ม

แพทย์อาจพิจารณารักษาด้วยการ ครอบแก้ว (cupping) ซึ่งจะใช้รักษาคนไข้ที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อหรือกล้ามเนื้ออักเสบ ในทางศาสตร์จีน เชื่อว่าเลือดบริเวณนั้นไหลเวียนไม่ดี

การครอบแก้ว คือ การนำแก้วสุญญากาศครอบบริเวณที่มีอาการปวด เพื่อดึงเลือดมาหล่อเลี้ยงบริเวณที่ปวดจะช่วยลดอาการที่ปวดได้มากขึ้น ใช้เวลาประมาณ 7-15 นาที ตามคำสั่งแพทย์ หรือแพทย์อาจพิจจารณารักษาด้วยการ รมยา ( Moxa ) ในรายที่มีอาการอักเสบเรื้อรัง เช่นเอ็นข้อเท้าอักเสบ ข้อเข่าอักเสบ

การรมยาโกฏจุฬาลำพา คือ การนำแท่งยาโกฏาจุฬาลำพาจุดไฟ รมบริเวณที่มีอาการปวดบนร่างกาย จนกระทั่งผิวบริเวณที่รมแดงขึ้น ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที

 

การปฏิบัติตัวสำหรับผู้มารักษาด้วยการฝังเข็ม

      การปฏิบัติตัวก่อนมาฝังเข็ม

1.       เตรียมใจไปรักษา การฝังเข็มเป็นการรักษาที่เป็นลักษณะที่เป็นหัตถการ ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ป่วย ผู้ป่วยที่มีรักษาฝังเข็ม จึงควรมารักษาด้วยความมั่นใจต่อการรักษา มิใช่มาด้วยความกังวล หวาดวิตก

2.       รับประทานอาหารให้พอเหมาะ ควรรับประทานอาหารมาก่อนประมาณ1-2 ชั่วโมง และไม่ควรรับประทานอาหารจนอิ่มมากจนเกินไป

3.       สวมใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสม ควรสวมเสื้อผ้าที่ เป็นชุดแยกส่วน ผู้ป่วยเป็นโรคอัมพาต ควรสวมเสื้อผ้าที่สามารถพับแขนได้ และกางเกงขาสั้น จะทำให้แพทย์ปักเข็มได้สะดวกมากขึ้น

4.       ทำความสะอาดร่างกายให้เรียบร้อย เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อโรคให้มากที่สุด เช่น การอาบน้ำ สระผมก่อนมารักษา

การปฏิบัติตัวขณะฝังเข็ม

1.       สงบกายและใจในขณะรักษา ขณะที่มีเข็มปักคาร่างกาย ควรนั่งหรือนอนนิ่งๆ ไม่ควรขยับเคลื่อนไหวส่วนของร่างกายที่มีเข็มปักคาอยู่ ยกเว้นการขยับตัวเล็กๆน้อยๆ ยังสามารถทำได้ แต่ส่วนของร่างกายอื่นๆ ที่ไม่มีเข็มปักอยู่นั้น สามารถขยับเคลื่อนไหวได้ตามปกติ

2.       ควรอยู่ในสภาพที่สงบ ผ่อนคลาย อาจหลับตาและหายใจเข้าออกช้าๆ ให้เป็นจังหวะสม่ำเสมอ เพื่อช่วยทำให้จิตใจสงบสบาย


                                      ด้วยความปรารถนาดี จากคลินิกแพทย์ทางเลือก

<