โรคของหญิงวัยหมดประจำเดือน Menopausal Syndrome

              โรคของหญิงวัยหมดประจำเดือน Menopausal Syndrome ลักษณะทั่วไป โรคของหญิงวัยหมดประจำเดือน มักพบในผู้หญิงที่ใกล้ประจำเดือนหมด หรือหมดไปแล้ว (อายุประมาณ 45-55 ปี) ผู้หญิงในวัยนี้ประมาณ 25% จะไม่มีอาการอะไรทั้งสิ้น ประมาณ 50% อาจมีอาการเพียงเล็กน้อย และอีก 25% จะมีอาการไม่สบายต่าง ๆ


ลักษณะทั่วไป             

โรคของหญิงวัยหมดประจำเดือน มักพบในผู้หญิงที่ใกล้ประจำเดือนหมด หรือหมดไปแล้ว (อายุประมาณ 45-55 ปี) ผู้หญิงในวัยนี้ประมาณ 25% จะไม่มีอาการอะไรทั้งสิ้น ประมาณ 50% อาจมีอาการเพียงเล็กน้อย และอีก 25% จะมีอาการไม่สบายต่าง ๆ


สาเหตุ
มีสาเหตุมาจากการลดลงของฮอร์โมน เอสโตรเจนในร่างกายร่วมกับความแปรปรวนทางด้านจิตใจและอารมณ์


อาการ
ก่อนประจำเดือนจะหมดอย่างถาวร มักมีประจำเดือนไม่สม่ำเสมอหรือประจำเดือนมาน้อย แล้วต่อมาผู้ป่วยจะมีอาการร้อนซู่ซ่าตามผิวกาย เช่น บริเวณหน้าอก คอ และใบหน้า มีเหงื่อออก ใจสั่น ปวดตามข้อ ปวดศีรษะ บางคนอาจมีอาการหงุดหงิด โมโหง่าย ขี้วิตกกังวล ซึมเศร้า ไม่มีสมาธิและนอนไม่หลับ อาการอาจเป็นอยู่เพียง 2-3 สัปดาห์ หรือนานที่สุดถึง 5 ปี (เฉลี่ยประมาณ 2-3 ปี) แล้วจะหายไปได้เอง


อาการแทรกซ้อน

           เยื่อบุช่องคลอดบางและแห้ง ผิวหนังบาง และอาจมีภาวะกระดูกพรุนหรือกระดูกผุ (Osteoporosis) และย่างเข้าสู่วัยสูงอายุ อาจมีการแตกหักของกระดูกง่ายการรักษา
1. ถ้าผู้ป่วยมีอาการเพียงเล็กน้อย ไม่ต้องให้ยารักษาแต่อย่างใด ควรให้ความมั่นใจแก่ผู้ป่วยว่า อาการที่เกิดขึ้นเป็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตามธรรมชาติและจะหายได้เองในไม่ช้า
2. ถ้ามีอาการไม่สบายมาก ให้ยารักษาตามอาการ เช่น ถ้าหงุดหงิด นอนไม่หลับ ให้คลายเครียด หรือยานอนหลับ ถ้าปวดข้อหรือปวดศีรษะ ให้ยาแก้ปวด เป็นต้น
3. ถ้าอาการไม่ดีขึ้น หรือสงสัยว่ามีเหตุอื่น ควรปรึกษาแพทย์ อาจต้องทำการตรวจเพิ่มเติม ถ้าเป็นโรคของหญิงวัยหมดประจำเดือน อาจให้กินฮอร์โมนเอสโตเจนทดแทน เพื่อลดอาการไม่สบายต่าง ๆ รวมทั้งป้องกันอาการเยื่อบุช่องคลอดบาง และภาวะกระดูกพรุน การให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนทดแทน อาจเลือกวิธีใดวิธีหนึ่ง ดังนี้  
- ทานฮอร์โมนเอสโตรเจน โดยคำสั่งแพทย์ วันที่ 1-25 ของแต่ละเดือน ร่วมกับ ฮอร์โมนโพรเจสเตอโรน ในวันที่ 14-25 ของเดือน หยุดกินทั้ง 2 ชนิด ตั้งแต่วันที่ 26 จนถึงสิ้นเดือน ผู้ป่วยจะมีเลือดประจำเดือนมาช่วงปลายเดือน 
- ทานฮอร์โมนเอสโตรเจน และโพรเจสเตอโรน ร่วมกันทุกวันไม่มีเว้น ในระยะ 2-3 เดือนแรก อาจมีเลือดออกกระปริดกระปรอย หลังจากนั้นเลือดจะหยุดและไม่ออกอีกเลย 
- ในกรณีที่ได้รับการผ่าตัด เอามดลูกออกไปแล้วให้ทานฮอร์โมนเอสโตเจนทุกวัน


      ด้วยความปรารถนาดีจาก ศูนย์สูติ-นรีเวช รพ.วิภาวดี

<