ปวดศีรษะอาการเป็นๆ หายๆ

 อาการปวดศีรษะเป็นอาการป่วยที่พบในรายงานแพทย์มากที่สุด น้อยมากที่พบว่า อาการปวดศีรษะส่อเค้าถึงการเป็นโรคร้ายแรงบางอย่าง

ปวดศีรษะอาการเป็นๆหายๆ

  • อาการปวดศีรษะเป็นอาการป่วยที่พบในรายงานแพทย์มากที่สุด น้อยมากที่พบว่า อาการปวดศีรษะส่อเค้าถึงการเป็นโรคร้ายแรงบางอย่าง
  • อาการปวดศีรษะประมาณร้อยละ 95 เป็นอาการปวดที่ไม่พบโรคอะไรผิดปกติ ลักษณะนี้เรียกว่า อาการปวดศีรษะปฐมภูมิ ซึ่งมีหลากหลายลักษณะแตกต่างกันไป นักวิจัยเองยังไม่แน่ใจว่า การปวดศีรษะเกิดจากอะไร และเรากำลังเฝ้าคอยคำตอบนั้นอยู่

การปวดศีรษะประเภทต่างๆ

      เราสามารถแบ่งลักษณะอาการปวดศีรษะปฐมภูมิออกได้เป็น 3 ประเภท แต่หลายคนอาจปวดศีรษะหลายๆ ประเภทพร้อมกันได้

การปวดศีรษะเหตุจากความเครียด

  • พบในผู้ที่มีอาการปวดศีรษะปฐมภูมิทั้งหมด 9 ใน10 ราย
  • พบในผู้หญิง และผู้ชายเท่าๆ กัน
  • มีอาการค่อยๆ ปวด ปวดตื้อๆ เหมือนถูกกดหรือรัดอยู่ที่คอหน้าผากหรือศีรษะ

การปวดศีรษะไมเกรน                    

  • พบในผู้มีอาการปวดปฐมภูมิร้อยละ 6
  • พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายสามเท่า
  • อาการมักจะเริ่มปรากฏในวัยรุ่นมากกว่าในคนที่อายุเกิน 40 ปีไปแล้ว
  • อาการนำคือ การมองเห็นผิดปกติ มีอาการปวดแปลบที่ใบหน้าข้างใด ข้างหนึ่ง เจ็บแปลบตามร่างกายหรือมีความอยากอาหารบางชนิดอย่างรุนแรง

การปวดศีรษะเฉพาะที่

        มีอาการปวดบริเวณรอบดวงตาข้างใดข้างหนึ่งตลอด มักจะเกิดเป็นช่วงๆ และเป็นช่วงเวลาเดียวกันเสมอในแต่ละวัน

  • ตาแดง น้ำตาไหล และมีอาการคัดจมูกข้างเดียวกัน
  • เป็นอาการที่เกิดขึ้น “ตามเวลา” และสัมพันธ์กับอากาศและแสงสว่างที่เปลี่ยนแปลงไป
  • พบบ่อยในผู้ชาย โดยเฉพาะผู้ที่สูบบุหรี่จัดดื่มจัด
  • แพทย์อาจวินิจฉัยผิดว่า เป็นการติดเชื้อในโพรงอากาศหรือเป็นโรคฟัน

ทฤษฎีปวดศีรษะแนวใหม่

        นักวิจัยกำลังมุ่งความสนใจไปที่วิถีของเส้นประสาทไทรเจมินัล และสารเคมีในสมองชื่อ ซีโรโตนิน ที่พวกเขาคิดว่าเป็นสาเหตุของอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง การปวดศีรษะอาจเป็นผลมาจากการเสียสมดุลของสารเคมีในสมอง กล่าวคือ เมื่อปวดศีรษะระดับซีโรโตนินในสมองจะลดต่ำลง ทำให้เกิดการกระตุ้นผ่านเส้นประสาทไทรเจมินัลไปยังหลอดเลือดที่เยื่อหุ้มสมองด้านนอก ส่งผลให้หลอดเลือดขยายตัวจนบวมและอักเสบ เมื่อสมองรับสัญญาณ “เจ็บปวด” ผลก็คือ อาการ “ปวดศีรษะ”นั่นเอง

การดูแลรักษาตนเอง       

           อาการปวดศีรษะเหตุความเครียดเป็นครั้งคราวอันดับแรก ลองใช้วิธีนวดประคบด้วยความร้อนหรือความเย็นอาบน้ำอุ่นพักผ่อน หรือใช้วิธีผ่อนคลาย ถ้ายังไม่ได้ผลให้กินแอสไพริน (สำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น) หรือ อะเซตามิโนเฟน หรือไอบูโปรเฟน การออกกำลังกายเบาๆ ปริมาณต่ำอาจทำให้อาการปวดศีรษะดีขึ้น ประคบด้วยความร้อนหรือความเย็น

อาการปวดศีรษะซ้ำซาก

บันทึกการปวดศีรษะที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน โดยระบุรายละเอียดต่างๆ ดังนี้

  • ความรุนแรง ปวดแบบทำอะไรไม่ได้เลย หรือแค่น่ารำคาญ
  • ความถี่และระยะเวลาที่ปวด เริ่มปวดศีรษะเมื่อไร ปวดแบบค่อยเป็นค่อยไปหรือปวดทันที ปวดเวลาเดียวกันทุกวัน ปวดทุกเดือนหรือเฉพาะบางฤดูเป็นอยู่นานเท่าไร และต้องทำอย่างไรถึงจะหาย
  • อาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง มีอาการเตือนหรือไม่ คลื่นไส้หรือเวียนศีรษะหรือเปล่า มองเห็นภาพเป็นสีวูบวาบหรือเป็นจุดดำ หรืออยากอาหารบางอย่างก่อนปวดศีรษะหรือไม่
  • ตำแหน่งที่ปวด ปวดศีรษะข้างเดียว ปวดที่กล้ามเนื้อคอหรือปวดรอบๆ ดวงตา
  • ประวัติครอบครัว สมาชิกคนอื่นปวดเหมือนๆ กันหรือเปล่า
  • สิ่งกระตุ้นเร้า ปวดศีรษะเพราะกินอาหารบางชนิด หรือทำกิจกรรมบางอย่างหรือไม่ สภาพภูมิอากาศ เวลา หรือสภาพแวดล้อมต่างๆ มีผลอย่างไรหรือไม่

       หากมี ควรหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นเร้าให้มากที่สุด และอาจต้องปรับวิถีการใช้ชีวิตบางอย่าง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและออกกำลังกาย พอสมควร

อาการปวดศีรษะไมเกรนโดยเฉพาะ                               

          คนที่ปวดศีรษะไมเกรน ถ้ารีบรักษาจะหายเร็ว กินยาแก้ปวดเช่น อะเซตามิโนฟน ไอบูโปรแฟน หรือแอสไพริน (สำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น) ตามขนาดที่แพทย์แนะนำ บางคนอาจบำบัดด้วยการนอนในห้องมืด หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอิน (กาแฟหรือโคล่า)

พบแพทย์

            ถ้าใช้วิธีการดูแลรักษาตนเอง 1-2 วัน และอาการปวดยังไม่ดีขึ้นควรไปพบแพทย์ แพทย์จะตรวจวินิจฉัยได้ว่า เป็นอาการปวดศีรษะชนิดใด มีสาเหตุจากอะไร และจะพยายามตัดต้นเหตุที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป ผู้ป่วยอาจต้องตรวจร่างกายเพิ่มเติม แพทย์จะสั่งยาแก้ปวดขนาดใดขนาดหนึ่งให้ เพื่อระงับอาการปวดชนิดที่แพทย์วินิจฉัยได้ซึ่งยาระงับอาการปวดแต่ละชนิด จะมีสรรพคุณระงับอาการปวดศีรษะบางอย่างโดยเฉพาะ ซึ่งไม่เหมือนกัน

           สำหรับผู้ที่มีอาการปวดศีรษะไมเกรนขั้นรุนแรง แพทย์อาจสั่งซูมาทริปแทนยาตัวอื่นๆ ให้ผู้ป่วยซูมาทริปแทนจะทำหน้าที่เหมือนซีโรโตนิน สารเคมีในสมองชนิดหนึ่งถ้าเป็นไมเกรนบ่อยๆแพทย์อาจจ่ายยาป้องกันให้กินทุกวัน

ข้อควรระวัง

  • อย่ามองข้ามอาการปวดศีรษะที่หาสาเหตุไม่ได้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีถ้าหากมีอาการปวดศีรษะ
  • เกิดขึ้นอย่างรุนแรงในทันที
  • เกิดพร้อมอาการไข้ คอแข็ง เป็นผื่น สับสน ชัก เห็นภาพซ้อน อ่อนเพลีย ชา หรือพูดลำบาก
  • เกิดจากการเจ็บคอหรือการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจรุนแรงขึ้น หลังจากได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะหกล้ม หรือถูกกระแทก
  • ไม่เคยเป็นมาก่อน และผู้ป่วยอายุมากกว่า55ปี

ไม่อยากปวดศีรษะ

          การกิน การดื่ม หรือการทำกิจกรรมบางอย่าง มีส่วนทำให้คุณปวดศีรษะหรือเปล่า คนที่ไม่อยากปวดศีรษะควรหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นเร้า เหล่านี้ ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละคน ที่พบบ่อยคือ

  • แอลกอฮอล์ ไวน์แดง
  • การสูบบุหรี่         
  • ความเครียด หรืออาการอ่อนเพลีย
  • สายตาล้า
  • การมีกิจกรรมทางเพศ หรือการออกกำลังกายต่างๆ
  • การวางท่าทางของร่างกายที่ไม่ถูกต้อง
  • เปลี่ยนเวลานอน หรือเปลี่ยนเวลาอาหาร
  • อาหารบางชนิด เช่น อาหารหมักดอง กล้วย กาเฟอีน เนยแข็งที่ทิ้งไว้นาน ช็อกโกแลต ผลไม้ประเภทส้มและมะนาว สารปรุงแต่งอาหาร (โซเดียมไนไตรท ในฮ็อตด๊อก ไส้กรอก เนื้อวัว ผงชูรสในอาหารสำเร็จรูป) และเครื่องดื่มปรุงรสอื่นๆ ถั่วและเนยถั่ว พิซซ่า ลูกเกด ขนมปังที่ใส่เชื้อหมักให้ฟู
  • สภาพภูมิอากาศ ระดับความสูงของภูมิประเทศ หรือการเดินทางข้ามเขตเวลาที่ต่างๆ กันมากๆ
  • การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในรอบประจำเดือน หรือการหมดประจำเดือน การกินยาเม็ดคุมกำเนิด หรือการบำบัดด้วยออร์โมนทดแทน
  • แสงจ้าหรือแสงกะพริบ
  • กลิ่นจากน้ำหอม ดอกไม้ หรือน้ำมันรถ
  • มลภาวะในอากาศ หรือห้องที่อยู่กันอย่างแออัด
  • เสียงที่ดังมากเกินไป

การดูแลเด็ก

            เด็กโตและผู้ใหญ่มักปวดศีรษะซ้ำซาก แต่น้อยมากที่จะส่อเค้าถึงโรคร้ายแรงบางอย่าง การปวดศีรษะอาจสัมพันธ์กับโรคติดเชื้อไวรัสหลายชนิด แต่ถ้าเด็กปวดศีรษะบ่อยๆ ทั้งที่สุขภาพปกติ ควรปรึกษาแพทย์ เด็กบางคนอาจปวดศีรษะไมเกรนหรือมีแนวโน้มปวดศีรษะไมเกรน ถ้าคนในครอบครัวมีประวัติเป็นมาก่อน อาการคือ เด็กมักจะอาเจียน ตาสู้แสงไม่ได้และอยากนอนตลอดเวลา แต่จะดีขึ้นเองภายใน 2 - 3ชั่วโมง เด็กอาจจะปวดศีรษะเพราะความเครียดที่โรงเรียนมีปัญหากับเพื่อนหรือครอบครัว หรือเป็นผลจากการใช้ยาบางชนิดโดยเฉพาะยาแก้คัดจมูก

           ถ้าคิดว่าเป็นการปวดศีรษะเหตุความเครียด ให้ลองวิธีบำบัดโดยไม่ใช้ยา แต่ถ้าเป็นบ่อยๆ คุณต้องช่วยเด็กบันทึกอาการปวดศีรษะเป็นประจำวันทุกวัน อาจต้องให้กินอะเซตามิโนเฟน หรือไอบูโปรเฟนบ้าง แต่ไม่ควรใช้ต่อเนื่องเป้นเวลานาน เพราะยาอาจปกปิดสาเหตุอาการของดรคที่แท้จริง

            ถ้าเด็กปวดศีรษะอยู่นานไม่ยอมหาย หรือปวดทันทีทันใด โดยไม่มีเหตุผลสมควรหรือปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ควรปรึกษาแพทย์ รวมถึงกรณีปวดศีรษะเพราะติดเชื้อ ปวดฟัน เจ็บคอจากการติดเชื้อสเตปโตตอคคัสหรือเชื้ออื่นๆ ด้วย และที่สำคัญควรแจ้งให้แพทย์ทราบด้วย ถ้าบุคคลในครอบครัวเคยมีประวัติปวดศีรษะไมเกรนมาก่อน เพื่อให้ตรวจวินิจฉัยง่ายขึ้น