ผ่าตัดเต้านม

ผ่าตัดเต้านมมีกี่ประเภท ใครควรทำ? พร้อมวิธีเตรียมตัวก่อนและหลังทำ

Key Takeaway

  • การผ่าตัดเต้านมเป็นศัลยกรรมเอาเนื้อเยื่อเต้านมหรือก้อนผิดปกติออก เช่น มะเร็ง ซีสต์ หรือเนื้องอก เพื่อช่วยลดโอกาสลุกลามของโรค และเพิ่มโอกาสหายขาด โดยเลือกวิธีผ่าตัดตามชนิดและระยะของโรค รวมถึงสุขภาพผู้ป่วย
  • สาเหตุหรือข้อบ่งชี้ในการผ่าตัดเต้านมมักทำในผู้ป่วยที่มีเซลล์มะเร็ง เต้านมผิดปกติ เช่น ซีสต์ หรือเนื้องอก ผู้ที่มีภาวะอักเสบเรื้อรัง เสี่ยงสูงจากพันธุกรรม หรือต้องการป้องกันโรคในอนาคต รวมถึงผู้ที่มีความผิดปกติส่งผลต่อสุขภาพ
  • การผ่าตัดเต้านมแบ่งได้หลายประเภท ได้แก่ ผ่าแบบสงวนเต้านมที่ตัดเฉพาะก้อน ผ่าเอาเต้านมออกทั้งเต้า ผ่าต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้เพื่อตรวจการแพร่กระจายของมะเร็ง และผ่าเสริมเต้านมเพื่อฟื้นฟูรูปร่างหลังการรักษา

ผ่าตัดเต้านมเป็นหัตถการทางการแพทย์ที่ทำเพื่อรักษาโรคหรือปรับรูปลักษณ์ของเต้านม โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะซีสต์ เนื้องอก หรือมะเร็งเต้านม ปัจจุบันมีหลายประเภททั้งการตัดบางส่วน การตัดทั้งหมด และการเสริมสร้างเต้านมใหม่ สำหรับผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด การเตรียมตัวก่อนและการดูแลหลังผ่าตัดถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วและลดภาวะแทรกซ้อน ในบทความนี้พาไปทำความรู้จักกับประเภทของการผ่าตัดเต้านม ใครบ้างที่ควรทำ และวิธีเตรียมตัวให้พร้อมทั้งก่อนและหลังการผ่าตัดอย่างถูกวิธี
Jul Article 11 (ผ่าตัด เต้า นม)

ผ่าตัดเต้านมคืออะไร รักษาโรคได้อย่างไร

การผ่าตัดเต้านม คือการรักษาด้วยศัลยกรรม โดยแพทย์จะตัดเอาเนื้อเยื่อเต้านมหรือบางส่วนของเต้านมออก เพื่อลดหรือกำจัดความผิดปกติที่เกิดขึ้น สำหรับผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเต้านม ซีสต์ เนื้องอก หรือภาวะเต้านมโตผิดปกติ การผ่าตัดช่วยนำเซลล์หรือก้อนที่เสี่ยงออกไป เพื่อลดโอกาสที่โรคจะลุกลามหรือกลับมาเป็นซ้ำ

การผ่าตัดเต้านมมีหลายวิธี เช่น การตัดก้อนเนื้อออกเฉพาะจุด และการตัดเต้านมออกทั้งหมด ซึ่งแพทย์จะเลือกวิธีที่เหมาะสมตามชนิดและระยะของโรค รวมถึงสุขภาพของผู้ป่วย โดยมีเป้าหมายหลักคือการรักษาชีวิตผู้ป่วย ลดความเสี่ยงการแพร่กระจายของโรค และเพิ่มโอกาสหายขาดจากโรคที่เกี่ยวข้องกับเต้านม

สาเหตุหรือข้อบ่งชี้ในการผ่าตัดเต้านม

สาเหตุหรือข้อบ่งชี้ในการผ่าตัดเต้านม

การผ่าตัดเต้านมมักทำขึ้นเมื่อมีความจำเป็นทางการแพทย์หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยแพทย์จะพิจารณาจากสาเหตุและภาวะของผู้ป่วยเป็นหลัก ดังนี้

  • ผู้ป่วยที่ตรวจพบมะเร็งเต้านมและต้องผ่าตัดเพื่อเอาเนื้อร้ายออก
  • ผู้ที่มีก้อนเนื้อหรือซีสต์ที่ผิดปกติ รวมถึงเนื้องอกที่มีแนวโน้มกลายเป็นมะเร็ง
  • ผู้ที่มีภาวะเต้านมอักเสบเรื้อรังหรือเป็นฝีในเต้านม ซึ่งไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา
  • ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อมะเร็งเต้านม เช่น มีประวัติครอบครัว หรือพันธุกรรมที่เกี่ยวข้อง
  • ผู้ที่ต้องการผ่าตัดเพื่อป้องกันโรคในอนาคต กรณีมีความผิดปกติทางพันธุกรรม (เช่น BRCA1/BRCA2 mutation)
  • ผู้ที่มีความผิดปกติของเต้านมที่ส่งผลต่อสุขภาพ เช่น เลือดออกจากหัวนมเรื้อรังหรือก้อนที่ตรวจแล้วไม่สามารถยืนยันความปลอดภัยได้


การผ่าตัดเต้านม มีกี่ประเภท

การผ่าตัดเต้านม มีกี่ประเภท?

การผ่าตัดเต้านมมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของโรค รวมถึงสุขภาพและความต้องการของผู้ป่วย โดยทั่วไปสามารถแบ่งได้ดังนี้

1. การผ่าตัดแบบสงวนเต้านม

การผ่าตัดแบบสงวนเต้านมเป็นวิธีที่มุ่งตัดเฉพาะก้อนมะเร็งและเนื้อเยื่อรอบข้างออก โดยยังคงเก็บเต้านมส่วนใหญ่ไว้ให้มากที่สุด เช่น การผ่าตัด Lumpectomy หรือ Quadrantectomy หลังผ่าตัดผู้ป่วยมักต้องเข้ารับการฉายแสงร่วมด้วยเพื่อกำจัดเซลล์มะเร็งที่อาจหลงเหลืออยู่ 

ข้อดีของวิธีนี้คือช่วยรักษารูปร่างของเต้านม ลดผลกระทบด้านจิตใจ และฟื้นตัวเร็วกว่าเมื่อเทียบกับการผ่าตัดแบบเอาออกทั้งเต้า เหมาะสำหรับผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะเริ่มต้นที่ก้อนมีขนาดเล็กและอยู่ในตำแหน่งที่สามารถผ่าตัดออกได้โดยไม่กระทบโครงสร้างเต้านมมากนัก

2. การผ่าตัดเต้านมออกทั้งเต้า

การผ่าตัดเต้านมออกทั้งเต้าเป็นวิธีที่แพทย์นำเนื้อเยื่อเต้านมออกทั้งหมด อาจรวมถึงหัวนมหรือผิวหนังบางส่วน ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้ เช่น Simple mastectomy, Skin-sparing mastectomy หรือ Nipple-sparing mastectomy วิธีนี้มักใช้ในกรณีที่มะเร็งมีหลายก้อนในเต้าเดียวกัน ก้อนมีขนาดใหญ่ หรือผู้ป่วยมีความเสี่ยงสูงต่อการกลับมาเป็นซ้ำ 

ข้อดีคือช่วยลดความเสี่ยงของการกลับเป็นซ้ำในเต้านมข้างเดิมได้อย่างมาก จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยที่มีมะเร็งในระยะลุกลามมากกว่าปกติ หรือมีพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็งเต้านม

3. การผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้

การผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้แพทย์ประเมินได้ว่ามะเร็งมีการแพร่กระจายออกจากเต้านมหรือไม่ โดยทั่วไปมีทั้งการตัดเฉพาะต่อมน้ำเหลืองเฝ้าระวัง (Sentinel lymph node biopsy) และการตัดต่อมน้ำเหลืองออกหลายต่อม (Axillary lymph node dissection) ขึ้นอยู่กับผลการตรวจและความรุนแรงของโรค 

ข้อดีคือช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยและกำหนดระยะโรคได้แม่นยำ รวมถึงลดความเสี่ยงในการกระจายไปยังอวัยวะอื่น เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีโอกาสสูงที่เซลล์มะเร็งจะแพร่ไปยังระบบน้ำเหลืองหรือมีการยืนยันแล้วว่ามีการกระจายจริง

4. การผ่าตัดเสริมสร้างเต้านม

การผ่าตัดเสริมสร้างเต้านมเป็นการฟื้นฟูรูปร่างเต้านมหลังจากถูกตัดออก โดยสามารถทำได้ทั้งทันทีหลังการผ่าตัดเอาเต้านมออกหรือทำในภายหลัง วิธีการมีทั้งการใช้ซิลิโคนเสริมเต้านมหรือการย้ายเนื้อเยื่อจากส่วนอื่นของร่างกาย เช่น หน้าท้องหรือแผ่นหลัง มาทำเป็นเต้านมใหม่ 

ข้อดีคือช่วยให้ผู้ป่วยกลับมามีรูปร่างใกล้เคียงปกติ ลดผลกระทบทางด้านจิตใจและเพิ่มความมั่นใจในชีวิตประจำวัน เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการฟื้นฟูรูปร่างภายหลังการรักษา โดยแพทย์จะพิจารณาความเหมาะสมตามสุขภาพร่างกายและความต้องการของแต่ละคน
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเต้านม

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเต้านม

ก่อนเข้ารับการผ่าตัดผู้ป่วยควรเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อม รวมถึงปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้การผ่าตัดปลอดภัยและการฟื้นตัวเป็นไปอย่างราบรื่น แนวทางการเตรียมตัวมีดังนี้

  • ตรวจสุขภาพและตรวจเลือด ตามที่แพทย์สั่ง เพื่อประเมินความพร้อมของร่างกายก่อนผ่าตัด
  • แจ้งประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว และยาที่ใช้อยู่ เช่น ยาละลายลิ่มเลือด หรือยาคุมกำเนิด
  • งดสูบบุหรี่และงดดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด เพื่อลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน
  • ปรับการใช้ยาบางชนิด ตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น การหยุดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
    เตรียมร่างกายให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
  • ทำความเข้าใจกับแพทย์ เกี่ยวกับขั้นตอนการผ่าตัด ความเสี่ยง ผลลัพธ์ และวิธีการฟื้นฟูหลังผ่าตัด
  • จัดเตรียมของใช้ส่วนตัวและเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย สำหรับช่วงพักฟื้นในโรงพยาบาล

การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดเต้านม

หลังการผ่าตัดเต้านม ผู้ป่วยควรให้ความสำคัญกับการฟื้นตัวของร่างกายและการป้องกันภาวะแทรกซ้อน การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ผลลัพธ์จากการผ่าตัดดีขึ้นและลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อหรือการเกิดแผลเป็นผิดรูป แนวทางการดูแลตัวเองมีดังนี้

  • ดูแลแผลผ่าตัดให้สะอาดและแห้ง เปลี่ยนผ้าปิดแผลตามคำแนะนำของแพทย์ และสังเกตอาการผิดปกติ เช่น แดง บวม หรือมีน้ำเหลืองไหล
  • รับประทานยาตามแพทย์สั่ง ไม่ขาดหรือเพิ่มยาเอง เพื่อลดอาการปวดและป้องกันการติดเชื้อ
  • พักผ่อนเพียงพอ หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักหรือยกของหนัก จนกว่าแพทย์จะอนุญาต
  • ทำกายภาพบำบัดหรือออกกำลังกายเบาๆ ตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อป้องกันการติดแข็งของกล้ามเนื้อและเพิ่มการไหลเวียนเลือด
  • สังเกตอาการผิดปกติ เช่น มีไข้สูง ปวดรุนแรง หรือบวมที่รักแร้ ควรรีบพบแพทย์ทันที
  • ดูแลโภชนาการ รับประทานอาหารที่มีโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ เพื่อช่วยให้แผลหายเร็ว
  • ใส่ชุดชั้นในหรืออุปกรณ์พยุงเต้านม ตามคำแนะนำ เพื่อป้องกันการดึงรั้งแผลและลดอาการบวม

ข้อควรรู้ในการผ่าตัดเต้านม

ก่อนตัดสินใจผ่าตัดเต้านม ผู้ป่วยควรเข้าใจข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับขั้นตอนการรักษา ความเสี่ยง และผลลัพธ์ เพื่อช่วยให้สามารถเตรียมตัวและตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ ข้อมูลพื้นฐานที่ควรรู้มีดังนี้

  • การผ่าตัดมีหลายประเภท ทั้งแบบสงวนเต้านม การตัดออกทั้งเต้า การผ่าตัดต่อมน้ำเหลือง และการเสริมสร้างเต้านม แพทย์จะเลือกวิธีที่เหมาะสมตามระยะและลักษณะของโรค
  • อาจมีภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด เช่น เลือดออก ติดเชื้อ บวม หรือชาในบริเวณเต้านมและรักแร้ ผู้ป่วยต้องสังเกตอาการผิดปกติและแจ้งแพทย์ทันที
  • ผลลัพธ์ขึ้นกับระยะและชนิดของมะเร็ง การผ่าตัดไม่สามารถรับประกันการหายขาดเสมอไป อาจต้องทำการรักษาเพิ่มเติม เช่น เคมีบำบัดหรือฉายแสง
  • การฟื้นตัวใช้เวลาหลายสัปดาห์ ผู้ป่วยควรพักผ่อนเพียงพอ ปฏิบัติตามคำแนะนำเรื่องกายภาพบำบัดและการดูแลแผล
  • ผลกระทบด้านจิตใจและรูปร่าง ผู้ป่วยอาจมีความเครียดหรือความกังวลเรื่องรูปร่างและภาพลักษณ์ การปรึกษาจิตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูเต้านมช่วยได้
  • เตรียมตัวก่อนผ่าตัดและหลังผ่าตัด การปฏิบัติตามคำแนะนำเรื่องการรับประทานยา การงดสูบบุหรี่ การดูแลแผล และโภชนาการที่เหมาะสม ช่วยให้การผ่าตัดปลอดภัยและฟื้นตัวเร็วขึ้น

ผ่าตัดเต้านมมีผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจอย่างไร?

การผ่าตัดเต้านมมีผลต่อทั้งร่างกายและจิตใจอย่างชัดเจน ทางด้านกายภาพ ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดแผล บวม ชา หรือแขนและไหล่ติดแข็ง รวมถึงรูปร่างเต้านมเปลี่ยนไป ซึ่งอาจกระทบต่อความสะดวกในการทำกิจวัตรประจำวัน ส่วนด้านจิตใจ ผู้ป่วยมักรู้สึกเครียด กังวลเรื่องรูปร่าง ความมั่นใจลดลง หรือเกิดความเศร้าและวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคต

เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ ควรมีการปรึกษาจิตแพทย์หรือจิตบำบัด เข้ากลุ่มสนับสนุนผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ทำกิจกรรมเสริมความมั่นใจ เช่น การใช้เสื้อชั้นในพยุงเต้านมหรือการผ่าตัดเสริมสร้างเต้านมใหม่ และเปิดใจพูดคุยกับครอบครัวหรือคนใกล้ชิด การดูแลทั้งร่างกายควบคู่กับจิตใจจะช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และกลับมาใช้ชีวิตประจำวันอย่างมั่นใจมากขึ้น
ผ่าตัดเต้านมเพื่อรักษาโรคที่โรงพยาบาลวิภาวดี

ผ่าตัดเต้านมเพื่อรักษาโรคที่โรงพยาบาลวิภาวดี

ศูนย์มะเร็ง ที่โรงพยาบาลวิภาวดี เริ่มจากการตรวจประเมินก้อนเนื้อและวางแผนการรักษาแบบองค์รวม ร่วมกับทีมศัลยแพทย์เฉพาะทางเต้านม แพทย์รังสี และแพทย์มะเร็งวิทยา ขั้นตอนการผ่าตัดอาจเป็นการสงวนเต้านมหรือการผ่าตัดเต้านมออกทั้งเต้า พร้อมตรวจต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ หลังผ่าตัดผู้ป่วยได้รับการดูแลใกล้ชิด ฟื้นฟูการเคลื่อนไหว และคำปรึกษาเรื่องการเสริมสร้างรูปร่าง เพื่อให้ฟื้นตัวเร็วและมั่นใจในชีวิตประจำวัน

สรุป

การผ่าตัดเต้านมเป็นการรักษาโรคหรือปรับรูปร่างเต้านมในผู้ที่มีเซลล์มะเร็ง ซีสต์ หรือเนื้องอก โดยมีหลายวิธี เช่น ผ่าตัดแบบสงวนเต้านม ผ่าตัดเอาเต้านมออกทั้งเต้า ผ่าตัดต่อมน้ำเหลือง และเสริมสร้างเต้านม แพทย์เลือกตามชนิดและระยะโรค การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด เช่น ตรวจร่างกาย ปรับยา งดบุหรี่และแอลกอฮอล์ พร้อมการดูแลหลังผ่าตัด เช่น ดูแลแผล รับยา พักผ่อน และกายภาพบำบัด ช่วยให้ฟื้นตัวเร็ว ลดภาวะแทรกซ้อน และลดผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ โดยควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อฟื้นฟูทั้งกายและใจ

การตรวจสุขภาพเป็นประจำช่วยให้สามารถตรวจพบความผิดปกติตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ทั้งมะเร็งเต้านม ซีสต์ หรือปัญหาอื่นๆ ทำให้สามารถวางแผนรักษาได้ทันท่วงที ลดความรุนแรงของโรค และช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนในอนาคต สนใจตรวจสุขภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โรงพยาบาลวิภาวดี หรือติดต่อได้ที่ โทร. 02-561-1111

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ไปดูคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการผ่าตัดเต้านม เพื่อให้มีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น

ผ่าตัดเต้านมนอนโรงพยาบาลกี่วัน?

โดยปกติผู้ป่วยจะพักในโรงพยาบาล 1-3 วัน ขึ้นอยู่กับประเภทการผ่าตัดและอาการหลังผ่าตัด แพทย์จะประเมินความพร้อมก่อนให้กลับบ้าน

สามารถเสริมเต้านมใหม่หลังการตัดเต้านมได้หรือไม่?

สามารถทำได้ทั้งทันทีหลังผ่าตัดหรือภายหลัง โดยใช้ซิลิโคนหรือย้ายเนื้อเยื่อจากร่างกาย ส่วนแพทย์จะเลือกวิธีที่เหมาะสมตามสุขภาพและความต้องการของผู้ป่วย

หลังผ่าตัดเต้านมสามารถให้นมลูกได้ไหม?

ขึ้นอยู่กับปริมาณเต้านมที่เหลือและตำแหน่งการผ่าตัด หากผ่าตัดเอาเต้านมออกบางส่วนอาจยังสามารถให้นมได้ แต่หากตัดออกทั้งหมดจะไม่สามารถให้นมได้

แผลเป็นหลังผ่าตัดจะอยู่ตรงไหน และจะหายไปไหม?

แผลมักอยู่บริเวณเต้านมหรือรักแร้ ขนาดและตำแหน่งขึ้นกับวิธีผ่าตัด แผลจะค่อยๆ จางลง แต่รอยแผลบางส่วนอาจคงอยู่ถาวร การดูแลแผลตามคำแนะนำแพทย์ช่วยให้หายดีและลดรอยแผล

รีวิวจากคนไข้

“ภูมิใจที่ได้ดูแลคุณ”

สอบถามรายละเอียดและนัดหมายล่วงหน้าที่

02-561-1111

02-058-1111


ทีมแพทย์ผ่าตัดเต้านม