โรคหัวใจในเด็ก

Key Takeaway

  • โรคหัวใจในเด็กคือความผิดปกติของหัวใจที่เกิดตั้งแต่แรกเกิดหรือหลังคลอด ทำให้หัวใจทำงานผิดปกติและส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมของเด็ก
  • โรคหัวใจในเด็กแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก คือโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด และโรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลังจากการติดเชื้อหรือปัจจัยอื่นๆ
  • ตัวอย่างสัญญาณเตือนโรคหัวใจในเด็ก เช่น หายใจลำบาก เหงื่อออกมาก ซีด หรือริมฝีปากมือเท้าเขียวผิดปกติ และหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ

โรคหัวใจในเด็กเป็นปัญหาสุขภาพที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้าม เพราะแม้จะพบไม่บ่อยเท่าในผู้ใหญ่ แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยเด็กโต การทำความเข้าใจความซับซ้อนของโรคหัวใจในเด็ก ทั้งสาเหตุ อาการเตือน แนวทางการรักษา และวิธีดูแลที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อช่วยให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดีและเติบโตได้อย่างแข็งแรง 

โรคหัวใจในเด็ก เป็นอย่างไร?

โรคหัวใจในเด็ก เป็นอย่างไร?

โรคหัวใจในเด็กเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของหัวใจ ซึ่งบางรายอาจเกิดขึ้นตั้งแต่ขณะอยู่ในครรภ์ บางรายตรวจพบได้ตั้งแต่แรกเกิด หรือแสดงอาการเมื่ออายุประมาณ 1-2 เดือน ทั้งนี้อาการและความรุนแรงจะขึ้นอยู่กับชนิดของโรคหัวใจที่เด็กเป็น

โรคหัวใจในเด็กแบ่งเป็นกี่ประเภท

โรคหัวใจในเด็กแบ่งเป็นกี่ประเภท  

เพื่อให้เข้าใจง่ายและช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตอาการเบื้องต้นได้อย่างถูกต้อง โรคหัวใจในเด็ก สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

1. โรคหัวใจพิการในเด็กแรกเกิด

โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดอาจตรวจพบได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เด็กแรกเกิด ไปจนถึงเมื่อเด็กโตขึ้น โดยสาเหตุของความผิดปกตินี้ไม่สามารถระบุได้ชัดเจน แต่เกี่ยวข้องกับหลายปัจจัย เช่น พันธุกรรม ความผิดปกติทางโครโมโซม (เช่น Down’s Syndrome) การติดเชื้อของมารดาในช่วงตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก (เช่น หัดเยอรมัน) โรคประจำตัวของมารดา (เช่น เบาหวาน) ประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ อายุของมารดา อาการเมาสุรา การใช้ยาหรือได้รับรังสีบางชนิดขณะตั้งครรภ์ รวมถึงการคลอดก่อนกำหนด 

อาการของโรคหัวใจในเด็กขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรง เด็กบางรายอาจไม่แสดงอาการเลย ขณะที่บางรายอาจมีอาการรุนแรง ซึ่งสามารถแบ่งโรคหัวใจพิการในเด็กแรกเกิด ได้เป็น 2 แบบ ดังนี้

  • ชนิดเขียว (Cyanotic Type) จะเห็นได้ว่าเด็กตัวเขียว โดยเฉพาะปลายมือ ปลายเท้า และริมฝีปาก มักเกิดจากโรคหัวใจ เช่น ผนังกั้นหัวใจรั่ว ทางออกห้องล่างขวาตีบ ขั้วหัวใจและปอดสลับกัน หรือโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด นอกจากนี้ยังอาจพบภาวะหัวใจโตในเด็กร่วมด้วย 
  • ชนิดไม่เขียว (Acyanotic Type) คือโรคหัวใจในเด็กแรกเกิดที่ผนังกั้นห้องหัวใจบนหรือห้องล่างมีรูรั่ว และเส้นเลือดใหญ่ระหว่างหัวใจกับปอดผิดปกติ

สาเหตุของโรคหัวใจในเด็กแรกเกิด

  • ความผิดปกติทางพันธุกรรมหรือโครโมโซม เช่น โครโมโซมคู่ที่ 21 ทำให้เด็กเป็นดาวน์ซินโดรมและมีโอกาสเกิดโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดร่วมด้วย
  • คุณแม่ติดเชื้อระหว่างตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรก เช่น การติดเชื้อหัดเยอรมัน
  • คุณแม่ได้รับรังสีเอกซ์ (X-ray) ในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์
  • การใช้ยาบางชนิดของคุณแม่ระหว่างตั้งครรภ์ เช่น ยารักษาสิว ยากันชัก หรือยากลุ่มแอมเฟตามีน
  • คุณแม่ที่มีอายุมากขณะตั้งครรภ์ โดยเฉพาะอายุเกิน 35 ปี มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น

2. โรคหัวใจในเด็กที่เกิดในภายหลัง

โรคหัวใจในเด็กที่เกิดในภายหลังหรือโรคหัวใจในเด็กโตเป็นภาวะที่หัวใจเกิดความผิดปกติหลังจากคลอดไปแล้ว ไม่ได้เกิดจากความปกติตั้งแต่กำเนิด ซึ่งอาจเป็นผลมาจากหลายจากการติดเชื้อ ภูมิคุ้มกัน หรือพฤติกรรมบางอย่าง เช่น 

 

  • โรคคาวาซากิ มักเกิดในเด็กต่ำกว่า 4 ขวบ สาเหตุไม่ชัดเจน อาการ ได้แก่ ไข้สูง 3-5 วัน ตาแดง ริมฝีปากแดง ต่อมน้ำเหลืองโต ผื่น มือและเท้าบวม อาจทำให้เส้นเลือดที่เลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจโป่งพองและอุดตัน 
  • โรคไข้รูมาติก พบในเด็กอายุ 5 ปีขึ้นไป เกิดจากไข้รูมาติก อาการมีไข้ ปวดและบวมตามข้อ ผิวหนังมีผื่นแดงและตุ่มแข็งใต้ผิว หากหัวใจอักเสบร่วมด้วย จะเหนื่อยง่าย หอบ และบวมที่ขา การรักษาทันท่วงทีช่วยป้องกันโรคได้
  • โรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากเชื้อไวรัส เชื้อไวรัสหลายชนิดสามารถทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบได้ โดยเฉพาะเชื้อคอกซากิไวรัส เด็กที่ติดเชื้อจะมีไข้ อ่อนเพลีย หอบ มีผื่น และหัวใจเต้นเร็ว หากไม่ได้รับการรักษาทันเวลา อาจเกิดหัวใจวายและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
  • โรคหัวใจอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อแบคทีเรียหลายชนิดสามารถทำให้เกิดการอักเสบของหัวใจทั้งกล้ามเนื้อ เยื่อหุ้มหัวใจ และเยื่อบุภายใน ในอดีตโรคคอตีบเป็นสาเหตุหลักแต่ปัจจุบันพบได้น้อยเพราะเด็กได้รับวัคซีน ส่วนเชื้อแบคทีเรียจากแผลพุพองก็เป็นอีกสาเหตุที่พบบ่อย
  • โรคหัวใจเหน็บชา เกิดจากการขาดวิตามินบีหนึ่ง ซึ่งมีในผัก ผลไม้ เนื้อหมู ไข่แดง และข้าวกล้อง การรับประทานอาหารครบหมู่ช่วยป้องกันโรคนี้ โดยเฉพาะแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ควรรับประทานอาหารครบถ้วนและหลีกเลี่ยงของแสลง 
  • ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เด็กที่มีอาหารหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ เป็นๆ หายๆ หากอาการนานเกิน 24 ชั่วโมง อาจเสี่ยงเกิดภาวะหัวใจวายได้

สัญญาณเตือนโรคหัวใจในเด็ก

สัญญาณเตือนโรคหัวใจในเด็ก

สัญญาณเตือนโรคหัวใจในเด็กเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจอย่างใกล้ชิด เพราะหากพบอาการผิดปกติของลูกแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้ได้รับการดูแลและรักษาอย่างทันท่วงที ซึ่งสามารถสังเกตได้จากอาการและพฤติกรรมต่างๆ ดังนี้

หายใจเร็วกว่าปกติ

เมื่อผนังหัวใจรั่ว เลือดจึงไหลผ่านรูรั่วไปยังปอดมากกว่าปกติ ส่งผลให้การแลกเปลี่ยนแก๊สที่ปอดลดลง ทำให้เด็กมีอาการหายใจเร็วขึ้นกว่าปกติ

ดูดนมแล้วเหนื่อยง่าย

เด็กที่เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดมักใช้เวลาดูดนมนานกว่าปกติ และต้องหยุดดูดบ่อยครั้ง เนื่องจากเลือดไหลผ่านรูรั่วในผนังหัวใจไปยังปอดมากเกินไป ทำให้หัวใจและปอดต้องทำงานหนักกว่าปกติ

ร่างกายเติบโตช้า

เพราะเด็กเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดจะใช้พลังงานมากกว่าปกติ ส่งผลให้พลังงานที่เหลือสำหรับการเจริญเติบโตมีน้อย จึงทำให้ร่างกายเติบโตช้ากว่าเด็กทั่วไป

เหงื่อออกมากผิดปกติ

เด็กที่เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดมักมีอัตราการเผาผลาญสูงกว่าปกติ จึงทำให้มีอาการเหงื่อออกมาก ตัวเย็น และซีดมากกว่าเด็กทั่วไป

หัวใจเต้นเร็วและแรงกว่าปกติ

หากคุณแม่ลองคลำหรือสังเกตที่หน้าอกของลูกแล้วพบว่าหัวใจเต้นเร็วและแรงกว่าปกติ อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าลูกมีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจในเด็ก

มีอาการเขียว

สิ่งที่สังเกตได้ชัดเจนสำหรับเด็กที่เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดเขียว คือ ริมฝีปาก ปลายมือ และปลายเท้ามีสีเขียวคล้ำผิดปกติ

การตรวจวินิจฉัยโรคหัวใจในเด็ก

การตรวจวินิจฉัยโรคหัวใจในเด็ก

การตรวจวินิจฉัยโรคหัวใจในเด็กมีความสำคัญต่อการรักษาที่เหมาะสม แพทย์จะใช้วิธีการตรวจหลายรูปแบบเพื่อระบุปัญหาได้อย่างแม่นยำ เช่น

  • การตรวจร่างกายและฟังเสียงหัวใจ ใช้ในการคัดกรองโรคหัวใจตั้งแต่แรกเกิด โดยแพทย์จะฟังเสียงหัวใจเพื่อหาความผิดปกติของการทำงานของหัวใจ
  • การวัดปริมาณออกซิเจนในร่างกาย (Pulse Oximetry) วัดค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนที่มือและเท้าทั้ง 2 ข้าง เพื่อช่วยคัดกรองภาวะหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดเขียว
  • การเอกซเรย์ทรวงอกและปอด ตรวจสอบขนาดของหัวใจและลักษณะของเส้นเลือดในปอด เพื่อดูความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น
  • การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram: EKG) ตรวจดูจังหวะการเต้นของหัวใจ และความผิดปกติของขนาดห้องหัวใจ
  • การอัลตราซาวด์หัวใจ (Echocardiogram) ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงตรวจโครงสร้างและการทำงานของหัวใจอย่างละเอียด

วิธีรักษาโรคหัวใจในเด็ก

วิธีรักษาโรคหัวใจในเด็ก

การรักษาโรคหัวใจในเด็กนั้นขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของโรค รวมถึงอาการของเด็กแต่ละคน โดยแพทย์จะประเมินและเลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสม เพื่อให้เด็กสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยวิธีรักษาหลักๆ มีดังนี้

  • การรักษาด้วยยา ใช้ควบคุมอาการ เช่น ลดความดันโลหิต ปรับจังหวะการเต้นของหัวใจ หรือช่วยให้หัวใจทำงานได้ดีขึ้น
  • การสวนหัวใจและการทำบอลลูน ใช้ขยายหลอดเลือดหรือปิดรูรั่วในหัวใจโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่
  • การผ่าตัดหัวใจ สำหรับเด็กที่มีความผิดปกติรุนแรงหรือซับซ้อน อาจจำเป็นต้องผ่าตัดซ่อมแซมหรือเปลี่ยนโครงสร้างหัวใจ
  • การติดตามอาการและการดูแลระยะยาว เด็กที่เป็นโรคหัวใจบางรายอาจต้องได้รับการติดตามอาการและดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนในอนาคต

รักษาโรคหัวใจในเด็กที่โรงพยาบาลวิภาวดี

รักษาโรคหัวใจในเด็กที่โรงพยาบาลวิภาวดี

โรงพยาบาลวิภาวดีมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจในเด็กและทารกแรกเกิด พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยสำหรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ทั้งในกรณีเฉียบพลันและเรื้อรัง โดยทีมแพทย์จะวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย เพื่อให้ได้รับผลการรักษาที่ดีที่สุด

บริการครอบคลุมตั้งแต่การตรวจคัดกรอง ตรวจวินิจฉัยด้วยเครื่องมือทันสมัย เช่น การอัลตราซาวด์หัวใจ การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และการเอกซเรย์ทรวงอก พร้อมการรักษาโดยใช้ยา การทำบอลลูน หรือการผ่าตัดหากจำเป็น

ผู้ปกครองสามารถใช้สิทธิ์ประกันสุขภาพหรือชำระเงินเองได้ ทั้งนี้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายเข้ารับบริการได้ที่โรงพยาบาลวิภาวดี โทร. 02-561-1111 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคหัวใจในเด็ก (FAQ)

ส่วนนี้รวบรวมคำถามและข้อสงสัยที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคหัวใจในเด็ก พร้อมคำตอบที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มีความเข้าใจมากขึ้น สามารถดูแลสุขภาพหัวใจของลูกน้อยได้อย่างถูกวิธี และช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจในเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โรคหัวใจในเด็กมีโอกาสหายไหม

สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจในเด็กที่ไม่มีอาการรุนแรงหรืออาการไม่ชัดเจน อาจสามารถหายได้เองตามธรรมชาติ แต่ยังคงต้องได้รับการดูแลและติดตามอาการอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจเด็ก ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องได้รับยาหรือเข้ารับการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์

ลิ้นหัวใจรั่วในเด็กเกิดจากอะไร

ลิ้นหัวใจรั่วในเด็กเกิดจากไข้รูมาติก ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสที่ไม่ได้รับการรักษา อาจเริ่มจากคออักเสบธรรมดาแต่ปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้ลิ้นหัวใจเสียหายจนรั่วได้

อาการหัวใจเต้นเร็วผิดปกติในเด็กมีอะไรบ้าง

อาการหัวใจเต้นเร็วผิดปกติในเด็กคือใจสั่น หัวใจเต้นแรง แม้ขณะพักผ่อนหรือหลับ โดยจังหวะเต้นไม่สม่ำเสมอ อาจรู้สึกเหมือนหัวใจหยุดเต้นเป็นพักๆ และทำให้เด็กอ่อนเพลียหรือหน้ามืดได้

สรุป

โรคหัวใจในเด็กเป็นภาวะความผิดปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งตั้งแต่แรกเกิดหรือพัฒนาในภายหลัง ผู้ปกครองควรใส่ใจและสังเกตอาการที่บ่งบอกถึงความผิดปกติ เช่น หายใจเร็ว เหนื่อยง่าย ตัวเขียว ริมฝีปากหรือปลายมือปลายเท้าเขียว หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบพาเด็กเข้ารับการตรวจรักษาโดยเร็ว เพราะการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงทีจะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้

ศูนย์หัวใจวิภาวดี โรงพยาบาลวิภาวดี พร้อมให้บริการดูแลรักษาโรคหัวใจในเด็กโดยทีมแพทย์เฉพาะทางที่มากประสบการณ์ ร่วมกับเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย เพื่อให้เด็กได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ปลอดภัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว

รีวิวจากคนไข้

“ภูมิใจที่ได้ดูแลคุณ”

สอบถามรายละเอียดและนัดหมายล่วงหน้าที่

02-561-1111

02-058-1111


ทีมแพทย์โรคหัวใจในเด็ก