ภูมิคุ้มกัน RSV: ป้องกันปอดอักเสบในเด็ก

RSV คืออะไร? 

RSV (Respiratory Syncytial Virus) หรือไวรัสระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของโรคปอดอักเสบ และหลอดลมฝอยอักเสบในทารกและเด็กเล็ก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนหรือฤดูหนาว ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และในเด็กทารกอาจจะต้องรับการรักษาในหอผู้ป่วยวิกฤต นอกจากนี้ทำให้เกิดภาวะหลอดลมไว ไอและ หอบหืด ในระยะยาวได้
ความเสี่ยงในการติดเชื้อที่ปอดรุนแรงจากเชื้อไวรัส RSV ได้แก่ ทารกเกิดก่อนกำหนดที่มีโรคปอดเรื้อรัง
โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด โรคปอดซิสติกไฟโบรซิส (Cystic Fibrosis) เด็กที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องรุนแรง 
ล่าสุดวงการแพทย์มีทางเลือกใหม่ในการป้องกัน RSV ด้วยยาเนอร์ซีวิแมบ (Nirsevimab) ซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปที่สามารถป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถฉีดป้องกันได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดถึง 2 ปี 


อายุเท่าไหร่ ถึงสามารถรับภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป RSV ได้

ฤดูกาลแรก

  • ทารกแรกเกิด – 12 เดือนที่แข็งแรงดีทุกคน
  • ทารกอายุต่ำกว่า 8 เดือนควรได้รับการฉีด และอาจพิจารณาฉีดในทารกอายุ 8-12 เดือน
  • ทารกกลุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น
  • ทารกที่เคยคลอดก่อนกำหนดและมีภาวะปอดเรื้อรัง
  • เด็กที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องรุนแรง
  • เด็กที่เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดและยังคงอยู่ในระหว่างการรักษา

ฤดูกาลที่สอง

  • ทารกแรกเกิด – 24 เดือนที่ยังมีความเสี่ยงสูงต่อโรค RSV
  • เด็กอายุ 12 - 19 เดือนที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อโรครุนแรง
  • อาจพิจารณาให้ในเด็ก 19 - 24 เดือน ที่มีความเสี่ยงสูง

ปริมาณการฉีดที่แนะนำ

  • ทารกน้ำหนัก < 5 กก. : 50 มก. (ฉีดเข้ากล้ามเนื้อครั้งเดียว)
  • ทารกน้ำหนัก > 5 กก. : 100 มก. (ฉีดเข้ากล้ามเนื้อครั้งเดียว)
  • เด็กอายุ 12-24 เดือน : 200 มก. (ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 2 ตำแหน่ง)

ประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป RSV (Nirsevimab) ในเด็ก

-  ช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อไวรัส RSV ได้สูงถึง 79.5%
-  ลดความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่างที่เกิดจาก RSV ได้ถึง 83.2%
-  ลดความรุนแรงของโรคที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในหอผู้ป่วยวิกฤต (ICU) ได้มากถึง 75.3%
-  ให้การป้องกันยาวนานถึง 5 เดือน ครอบคลุมช่วงเวลาการระบาดของไวรัส RSV อย่างมีประสิทธิภาพ

ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปมีความปลอดภัยหรือไม่

  • เป็นภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปที่ผลิตจากคนมีความปลอดภัยสูง  มีการปรับใช้มายาวนานพัฒนาจนออกฤทธ์ยาวนาน(เดิมใช้ในเด็กที่มีความเสี่ยงสูงเช่นโรคหัวใจและอื่นๆ เป็นแบบออกฤทธิ์สั้น ฉีดปีละ 5 เข็ม ทุก 1 เดือน นอกจากนี้มีการใช้ในต่างประเทศมาแล้ว 3-4 ปี
  • โอกาสแพ้ค่อนข้างน้อย มีไข้น้อยมาก


ประโยชน์ของการรับภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป RSV (Nirsevimab)

1.ป้องกันการติดเชื้อ RSV ด้วย Nirsevimab ให้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปที่ออกฤทธิ์ทันที ช่วยป้องกันไวรัส RSV ได้ตั้งแต่ช่วงแรกที่เสี่ยง โดยไม่ต้องรอให้ร่างกายสร้างภูมิเองเหมือนวัคซีน
2.ลดความรุนแรงของโรค แม้ติดเชื้อ RSV หลังได้รับยา อาการก็มักเบากว่าปกติ ช่วยลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น หลอดลมฝอยอักเสบหรือปอดบวมและลดการนอนในหอผู้ป่วยวิกฤต
3.ลดอัตราการนอนโรงพยาบาล การศึกษาพบว่า Nirsevimab สามารถลดความเสี่ยงของการนอนโรงพยาบาลจาก RSV ได้ถึง 70–80%
4.ป้องกันได้ยาวนานตลอดฤดูกาล ใช้เพียงเข็มเดียวต่อฤดูกาล RSV ก็ให้ผลคุ้มครองนานหลายเดือน ครอบคลุมตลอดช่วงระบาด (มักเริ่มต้นช่วงฤดูฝน – ฤดูหนาว)
5.ปลอดภัย ใช้ได้กับเด็กทั่วไป และเด็กกลุ่มเสี่ยง เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดถึง 12 เดือน ทั้งในเด็กปกติ และกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เด็กคลอดก่อนกำหนด หรือมีโรคหัวใจและปอด
6.ลดค่าใช้จ่ายจากการนอนโรงพยาบาล และลดภาระการดูแลผู้ป่วยหนัก ช่วยให้ครอบครัวมีความมั่นใจมากขึ้นในการดูแลลูกน้อยและลดการลางานของผู้ปกครอง
7.ลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนทางระบบทางเดินหายใจในระยะยาว เช่น โรคหืด หรือหลอดลมไว
8.ลดภาระด้านสาธารณสุข เนื่องจากการรักษาเด็กที่ติดเชื้อ RSV มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 1.75 พันล้านบาทต่อปีในประเทศไทย
**หมายเหตุสำคัญ
- ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป RSV สามารถฉีดร่วมกับวัคซีนตามวัยได้โดยไม่ต้องเว้นระยะ
- สามารถฉีดร่วมกับวัคซีนอื่นๆ ได้ในครั้งเดียวกัน โดยฉีดคนละตำแหน่ง

การป้องกัน RSV ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพ่อแม่ที่ต้องการดูแลลูกน้อยให้ปลอดภัยจากโรคร้ายแรงนี้ หากมีข้อสงสัย ควรปรึกษากุมารแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการดูแลสุขภาพของเด็กให้ดีที่สุด
การให้ภูมิคุ้มกันล่วงหน้าเป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญ ที่ช่วยปกป้องสุขภาพของทารกในช่วงเวลาที่ไวรัสกำลังระบาดหนัก ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปอย่าง Nirsevimab เป็นทางเลือกใหม่ที่ช่วยปกป้องเด็กเล็กจากไวรัส RSV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากมีบุตรหลานในวัยเสี่ยง คุณพ่อคุณแม่ที่สนใจแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมในการรับภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป ซึ่งการป้องกันย่อมดีกว่าการรักษาภายหลัง.

บทความโดย

พญ.ธนภสร   ทรัพย์ยิ่ง

กุมารแพทย์โรคระบบทางเดินหายใจ



แพทย์ผู้ดูแล

พญ. ธนภสร ทรัพย์ยิ่ง

นัดหมายเเพทย์

พญ. ธนภสร ทรัพย์ยิ่ง

กุมารเวช
กุมารเวชศาสตร์
กุมารเวชศาสตร์โรคระบบการหายใจ

บทความที่เกี่ยวข้อง