RSV (Respiratory Syncytial Virus) หรือไวรัสระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของโรคปอดอักเสบ และหลอดลมฝอยอักเสบในทารกและเด็กเล็ก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนหรือฤดูหนาว ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และในเด็กทารกอาจจะต้องรับการรักษาในหอผู้ป่วยวิกฤต นอกจากนี้ทำให้เกิดภาวะหลอดลมไว ไอและ หอบหืด ในระยะยาวได้
ความเสี่ยงในการติดเชื้อที่ปอดรุนแรงจากเชื้อไวรัส RSV ได้แก่ ทารกเกิดก่อนกำหนดที่มีโรคปอดเรื้อรัง
โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด โรคปอดซิสติกไฟโบรซิส (Cystic Fibrosis) เด็กที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องรุนแรง
ล่าสุดวงการแพทย์มีทางเลือกใหม่ในการป้องกัน RSV ด้วยยาเนอร์ซีวิแมบ (Nirsevimab) ซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปที่สามารถป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถฉีดป้องกันได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดถึง 2 ปี
- ช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อไวรัส RSV ได้สูงถึง 79.5%
- ลดความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่างที่เกิดจาก RSV ได้ถึง 83.2%
- ลดความรุนแรงของโรคที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในหอผู้ป่วยวิกฤต (ICU) ได้มากถึง 75.3%
- ให้การป้องกันยาวนานถึง 5 เดือน ครอบคลุมช่วงเวลาการระบาดของไวรัส RSV อย่างมีประสิทธิภาพ
1.ป้องกันการติดเชื้อ RSV ด้วย Nirsevimab ให้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปที่ออกฤทธิ์ทันที ช่วยป้องกันไวรัส RSV ได้ตั้งแต่ช่วงแรกที่เสี่ยง โดยไม่ต้องรอให้ร่างกายสร้างภูมิเองเหมือนวัคซีน
2.ลดความรุนแรงของโรค แม้ติดเชื้อ RSV หลังได้รับยา อาการก็มักเบากว่าปกติ ช่วยลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น หลอดลมฝอยอักเสบหรือปอดบวมและลดการนอนในหอผู้ป่วยวิกฤต
3.ลดอัตราการนอนโรงพยาบาล การศึกษาพบว่า Nirsevimab สามารถลดความเสี่ยงของการนอนโรงพยาบาลจาก RSV ได้ถึง 70–80%
4.ป้องกันได้ยาวนานตลอดฤดูกาล ใช้เพียงเข็มเดียวต่อฤดูกาล RSV ก็ให้ผลคุ้มครองนานหลายเดือน ครอบคลุมตลอดช่วงระบาด (มักเริ่มต้นช่วงฤดูฝน – ฤดูหนาว)
5.ปลอดภัย ใช้ได้กับเด็กทั่วไป และเด็กกลุ่มเสี่ยง เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดถึง 12 เดือน ทั้งในเด็กปกติ และกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เด็กคลอดก่อนกำหนด หรือมีโรคหัวใจและปอด
6.ลดค่าใช้จ่ายจากการนอนโรงพยาบาล และลดภาระการดูแลผู้ป่วยหนัก ช่วยให้ครอบครัวมีความมั่นใจมากขึ้นในการดูแลลูกน้อยและลดการลางานของผู้ปกครอง
7.ลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนทางระบบทางเดินหายใจในระยะยาว เช่น โรคหืด หรือหลอดลมไว
8.ลดภาระด้านสาธารณสุข เนื่องจากการรักษาเด็กที่ติดเชื้อ RSV มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 1.75 พันล้านบาทต่อปีในประเทศไทย
**หมายเหตุสำคัญ
- ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป RSV สามารถฉีดร่วมกับวัคซีนตามวัยได้โดยไม่ต้องเว้นระยะ
- สามารถฉีดร่วมกับวัคซีนอื่นๆ ได้ในครั้งเดียวกัน โดยฉีดคนละตำแหน่ง
การป้องกัน RSV ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพ่อแม่ที่ต้องการดูแลลูกน้อยให้ปลอดภัยจากโรคร้ายแรงนี้ หากมีข้อสงสัย ควรปรึกษากุมารแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการดูแลสุขภาพของเด็กให้ดีที่สุด
การให้ภูมิคุ้มกันล่วงหน้าเป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญ ที่ช่วยปกป้องสุขภาพของทารกในช่วงเวลาที่ไวรัสกำลังระบาดหนัก ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปอย่าง Nirsevimab เป็นทางเลือกใหม่ที่ช่วยปกป้องเด็กเล็กจากไวรัส RSV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากมีบุตรหลานในวัยเสี่ยง คุณพ่อคุณแม่ที่สนใจแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมในการรับภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป ซึ่งการป้องกันย่อมดีกว่าการรักษาภายหลัง.
บทความโดย
พญ.ธนภสร ทรัพย์ยิ่ง
กุมารแพทย์โรคระบบทางเดินหายใจ
นโยบายความเป็นส่วนตัว | นโยบาย คุกกี้
Copyright © Vibhavadi Hospital. All right reserved