Key Takeaway
ทำความเข้าใจถึงอันตรายของแอมโมเนีย ซึ่งเป็นสารเคมีที่อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อระบบทางเดินหายใจ ผิวหนัง และดวงตาหากสัมผัสโดยไม่ระวัง พร้อมเรียนรู้วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อเกิดการสัมผัส และแนวทางป้องกันที่ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานหรืออยู่ใกล้บริเวณที่มีแอมโมเนีย
แอมโมเนีย (NH₃) เป็นก๊าซไม่มีสี มีกลิ่นฉุนเฉพาะตัว ไม่ติดไฟ มีไอระเหยที่เบาและควบแน่นได้ยาก สามารถละลายน้ำได้ดีมาก เมื่อละลายน้ำจะกลายเป็นน้ำยาแอมโมเนีย หรือแอมโมเนียมไฮดรอกไซด์ (NH₄OH) ซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่างอ่อนๆ
แอมโมเนียช่วยอะไรได้บ้าง? มักนิยมใช้แอมโมเนียในระบบทำความเย็น เนื่องจากมีราคาถูกเมื่อเทียบกับสารทำความเย็นอื่นๆ อีกทั้งยังถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมย้อมผ้า ยา เส้นใยสังเคราะห์ พลาสติก ปุ๋ย วัตถุระเบิด อุตสาหกรรมอาหารแช่แข็ง โรงกลั่นน้ำมัน และไอศกรีม นอกจากนี้ยังนิยมใช้ในวงการแพทย์เพื่อสูดดม ช่วยบรรเทาอาการเป็นลม หน้ามืด หรือวิงเวียนศีรษะอีกด้วย
แอมโมเนียในบรรยากาศสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ผ่านทางการหายใจ โดยไม่สามารถดูดซึมผ่านทางผิวหนังได้ โดยประมาณ 80% ของแอมโมเนียที่สูดดมเข้าไปจะถูกดูดซึมผ่านเยื่อเมือกบริเวณทางเดินหายใจส่วนบน
แอมโมเนียเป็นสารเคมีที่มีประโยชน์ในอุตสาหกรรม แต่หากรั่วไหลอาจทำให้เกิดอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิต เช่น การปนเปื้อนในน้ำจะทำให้ค่า pH สูงขึ้นและลดออกซิเจน ส่วนในอากาศสามารถกัดกร่อนโลหะ สำหรับสัตว์น้ำ แอมโมเนียอิสระอาจทำให้สัตว์น้ำตายได้ และอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ ดังนี้
แอมโมเนียมีผลเสียต่อร่างกายหลายส่วน ซึ่งสามารถส่งผลกระทบได้ในหลายด้าน ได้แก่
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อสัมผัสหรือสูดดมแอมโมเนียสามารถทำได้ดังนี้
ศูนย์อาชีวอนามัย โรงพยาบาลวิภาวดี พร้อมให้บริการป้องกันและตรวจสุขภาพสำหรับพนักงานในอุตสาหกรรมเสี่ยง ดังนี้
แอมโมเนียเป็นสารเคมีที่มีประโยชน์ในอุตสาหกรรม แต่หากรั่วไหลหรือใช้งานไม่ระวัง อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิต เช่น การปนเปื้อนในน้ำทำให้ pHa สูงขึ้นและลดออกซิเจน ส่วนสัตว์น้ำอาจตายจากการสัมผัสแอมโมเนียอิสระ ในมนุษย์อาจเกิดอาการระคายเคืองทางเดินหายใจ ผิวหนัง และตา รวมถึงอันตรายต่ออวัยวะภายใน การปฐมพยาบาลควรออกจากพื้นที่ทันที ล้างร่างกายด้วยน้ำสะอาด และหากมีอาการหนักควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาต่อเนื่อง
สนใจตรวจสุขภาพอาชีวอนามัย สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมและติดต่อได้ที่ศูนย์อาชีวอนามัย โรงพยาบาลวิภาวดี เพื่อรับบริการตรวจสุขภาพสำหรับพนักงานในอุตสาหกรรมเสี่ยง พร้อมประเมินสุขภาพตามความจำเป็น
พญ. นวพรรณ ผลบุญ แพทย์เฉพาะทางอาชีวเวชศาสตร์
หลายคนอาจมีคำถามเกี่ยวกับแอมโมเนียและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการสัมผัสหรือใช้งานสารนี้ ในส่วนนี้เราจะมาอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอมโมเนีย เพื่อให้เข้าใจถึงอันตราย การใช้งาน และวิธีการป้องกันอย่างถูกต้อง
การสูดดมก๊าซแอมโมเนียที่มีความเข้มข้นสูงสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจได้อย่างรุนแรง โดยเฉพาะในเยื่อเมือกของทางเดินหายใจ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการไอ หายใจมีเสียงหวีด หายใจถี่ หรือแน่นหน้าอก หากได้รับสารในปริมาณที่มากหรือเป็นเวลานาน อาจทำให้ปอดเกิดความเสียหายรุนแรง จนทำให้ระบบหายใจล้มเหลวได้
เมื่อสัมผัสแอมโมเนีย ควรทำตามขั้นตอนดังนี้
แอมโมเนียสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ผ่านการหายใจ โดยเฉพาะจากการสูดดมก๊าซแอมโมเนียที่มีความเข้มข้นสูง หรือจากการสัมผัสกับผิวหนังในรูปแบบของของเหลวที่มีแอมโมเนีย
วิธีป้องกันแอมโมเนียคือการใช้เครื่องมือป้องกัน เช่น หน้ากากกรองสารพิษ ถุงมือป้องกัน และชุดป้องกันสารเคมี หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือสูดดมแอมโมเนีย และทำงานในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศดี
โรงพยาบาลวิภาวดีมีบริการตรวจสุขภาพที่ครอบคลุม โดยเฉพาะสำหรับพนักงานในอุตสาหกรรมที่เสี่ยงต่อการสัมผัสสารเคมี เช่น แอมโมเนีย ที่ศูนย์สุขภาพและอาชีวอนามัยซึ่งมีโปรแกรมตรวจสุขภาพที่เหมาะสมกับความเสี่ยงของแต่ละบุคคล
นโยบายความเป็นส่วนตัว | นโยบาย คุกกี้
Copyright © Vibhavadi Hospital. All right reserved