น้ำไขสันหลังคั่งในโพรงสมอง

น้ำไขสันหลังคั่งในโพรงสมอง

คาดว่า หลายท่าน คงอยากรู้จัก ภาวะน้ำไขสันหลังคั่งในโพรงสมอง

เลยนำ บทความ ที่คุณหมอเขียนให้ มา Share กัน เป็นความรู้ค่ะ

 

น้ำไขสันหลังคั่งในโพรงสมอง

โดย.. นายแพทย์วทัญญู ปรัชญานนท์ 

  • อะไรคือโพรงสมอง 
  • อะไรคือน้ำไขสันหลัง

 

          สมองของคนเราไม่ใช่เป็นแค่ก้อนเนื้อก้อนไขมันตันๆ สักก้อน หากแต่มันจะมีโพรงอยู่ตรงกลาง เราเรียกมันว่า “โพรงสมอง”

ส่วนน้ำไขสันหลัง หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Cerebrospinal fluid ก็คือน้ำที่สร้างขึ้นในโพรงสมอง แล้วไหลเวียนหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลังของเราอยู่ทั้งในโพรงสมอง และห่อหุ้มทั้งสมองและไขสันหลังของเราไว้ หน้าที่หลักของมันก็คือนำอาหารไปเลี้ยงสมอง และรับเอาของเสียจากสมองไปทิ้ง นอกจากนั้นยังทำตัวป็นฉนวนลดแรงกระแทกต่อสมองที่อาจจะเกิดขึ้นเวลาที่หัวหรือหลังของเราถูกกระทบกระเทือนอีกอย่างหนึ่งด้วย 

 

          ร่างกายสร้างน้ำไขสันหลังขึ้นมาโดยสกัดออกมาจากเลือดแดงโดยหลอดเลือดแดงชนิดพิเศษภายในโพรงสมอง และไหลเวียนไปตามโพรงต่างๆ ในสมอง แล้วไหลออกมาอยู่ใต้เยื่อหุ้มสมองและไขสันหลัง จากนั้นก็จะดูดซึมกลับเข้าหลอดเลือดดาใหญ่ที่ผิวสมอง น้ำไขสันหลังถูกสร้างขึ้นวันละประมาณ 500 ซี.ซี. แต่ความจุของโพรงสมองของคนปกติทั่วไปมีแค่ประมาณ 70-80 ซี.ซี. บวกกับช่องใต้เยื่อหุ้มสมองและไขสันหลังอีก รวมๆ กันก็มีที่ให้น้ำไขสันหลังอยู่ได้ไม่เกิน 150-200 ซี.ซี. เป็นอย่างมากการสร้างและการดูดซึมกลับของน้ำไขสันหลังจึงต้องอยู่ในภาวะสมดุลย์ 

 

         เพราะฉะนั้นหากมีอะไรเป็นสาเหตุให้มีการสร้างน้ำไขสันหลังมากขึ้นกว่าปกติมากๆ จนดูดซึมกลับไม่ทัน หรือการดูดซึมกลับมีประสิทธิภาพลดน้อยลง หรือแม้แต่การติดขัดของการไหลเวียนของน้ำไขสันหลังจากในโพรงสมองไปยังใต้เยื่อหุ้มสมอง และผิวสมอง ล้วนแล้วแต่ทาให้เกิดน้ำไขสันหลังคั่งในโพรงสมองได้ทั้งสิ้น 

 

         โรคหรือภาวะผิดปกติที่พบบ่อย และทำให้น้ำไขสันหลังคั่งในโพรงสมองมีหลากหลาย อาทิ เนื้องอกของหลอดเลือดส่วนที่ทำหน้าที่สร้างน้ำไขสันหลัง ทาให้น้ำไขสันหลังผลิตออกมามากกว่าปกติ หรือเนื้องอกในโพรงสมองหรือเนื้อสมองที่ไปเบียดทำให้น้ำไขสันหลังไหลเวียนได้ไม่ดี หรือโพรงสมองตีบตัน ทั้งจากการตีบตันแต่กำเนิด หรือมีซีสต์ มีพยาธิ์ มีก้อนเลือด ก้อนเนื้อไปอุดตันตามโพรงสมองและเส้นทางไหลเวียนของน้ำไขสันหลัง เป็นต้น 

 

          ถ้าเกิดในเด็กที่กระหม่อมยังไม่ปิด หรือตะเข็บกะโหลกยังไม่สมานสนิท กะโหลกก็ยังจะพอขยายได้ แต่นานเข้าก็จะทาให้เนื้อสมองบางลงๆ หัวก็จะโตขึ้นๆ กลายเป็นเด็กหัวบาตร หรือหัวแตงโมอย่างที่เห็นๆ กันอยู่ 

 

          แต่ถ้าเกิดในเด็กโต วัยรุ่น หรือผู้ใหญ่ กระหม่อมปิดแล้ว ตะเข็บกะโหลกก็สมานสนิทแล้ว กะโหลกขยายไม่ได้อีกแล้ว ก็จะมีอาการปวดหัว ชัก หมดสติ และเสียชีวิตได้ เพราะความดันในกะโหลกศีรษะหรือความดันของน้ำไขสันหลังที่เพิ่มสูงขึ้น จากการคั่งของน้ำไขสันหลังนั่นเอง ซึ่งต้องการการรักษาช่วยเหลือให้ทันท่วงที 

 

          คราวนี้มาดูภาวะน้ำไขสันหลังคั่งในโพรงสมองที่เกิดในผู้สูงอายุกันบ้าง ว่ามันเป็นอย่างไร จะเหมือนๆ กับที่เล่าให้ฟังมาแล้วหรือไม่ เกิดจากอะไร และจะแก้ไขได้อย่างไร 

 

        ภาวะน้ำไขสันหลังคั่งในโพรงสมองในผู้สูงอายุ อาจจะเรียกได้ว่าป็นการคั่งของน้ำไขสันหลังแบบค่อยเป็นค่อยไป จะเรียกว่าแบบเรื้อรังก็ได้ เกิดขึ้นตามสัจจธรรมของพุทธศาสนา หรือความเสื่อมแห่งสังขาร คือเกิดจากการไหลเวียนของน้ำไขสันหลังที่เลวลง ไม่ถึงกับอุดตัน แต่ไหลได้ไม่คล่องเหมือนเดิน ประกอบกับตัวกรองน้ำไขสันหลังกลับเข้าเลือดดำที่หลอดเลือดดำตรงผิวสมองก็ทำงานได้ไม่ดีเหมือนเดิม อาจจะเพราะใช้งานมานาน มีตะกรันตะกอนมาอุดตัน หรืออะไรก็ตามแต่ ซึ่งแม้การสร้างน้ำไขสันหลังจะไม่ไปลี่ยนไปสักเท่าไหร่ แต่ก็สามารถทาให้น้าไขสันหลังคั่งค้างสะสมอยู่ในโพรงสมองได้ วันละเล็กวันละน้อย จะว่าไปอาจจะคั่งค้างเพียงแค่วันละไม่ถึงซี.ซี.ด้วยซ้าไป แต่นานเข้าๆ เป็นปี เป็นหลายๆ ปี มันก็คั่งจนทาให้โพรงสมองขยายโตขึ้นที่ละน้อยจนเบียดเนื้อสมองได้ในที่สุด 

 

          เป็นเพราะภาวะน้ำไขสันหลังคั่งในโพรงสมองชนิดที่เกิดในผู้สูงอายุนี้เกิดอย่างช้าๆ ค่อยเป็นค่อยไป จึงทาให้ร่างกายทนการเปลี่ยนแปลงที่ค่อยเป็นค่อยไปนี้ได้นานกว่าการคั่งของน้ำไขสันหลังในกรณีอื่นๆ อย่างไรก็ดีเมื่อถึงจุดหนึ่งอาการผิดปกติก็ย่อมปรากฏให้เห็น

 

 

          อาการของภาวะน้ำไขสันหลังคั่งในโพรงสมองในผู้สูงวัยที่สาคัญไม่ใช่ปวดหัว ไม่ใช่ลมชัก แต่เป็นอาการทางานของสมองที่เปลี่ยนไป ความจำที่แย่ลง การเดินที่ผิดปกติ เดินลำบาก หรือเดินไม่ได้ดี ล้มบ่อย มีอาการเกร็ง อาการสั่นของแขนขา คล้ายคนเป็นโรคพาร์กินสัน กลั้นปัสสาวะไม่อยู่คล้ายคนที่ต่อมลูกหมากโต 

 

         ก็เพราะการที่มันมีอาการคล้ายโรคอื่นๆ หลายอย่างแบบนี้นี่เองที่ทำให้บางครั้งภาวะน้ำไขสันหลังคั่งในโพรงสมองในผู้สูงวัยถูกละเลย ถูกมองข้ามไป 

 

        การวินิจฉัย ในสมัยนี้ทำได้ไม่ยาก ตั้งแต่การตรวจที่ไม่เจ็บตัว เช่นการใช้เครื่องตรวจสมองด้วยสัญญาณแม่เหล็ก (MRI brain scan) ตรวจดูขนาดของโพรงสมอง ตรวจวัดการไหลเวียนของน้าไขสันหลัง วัดความเร็วการไหลของน้ำไขสันหลังในโพรงสมอง ไปจนถึงการตรวจที่ต้องเจ็บตัวสักหน่อย แต่ให้การยืนยันการวินิจฉัยที่แน่นอนเช่นการเจาะไขสันหลังเพื่อวัดความดันน้ำไขสันหลังโดยตรง เอาน้ำไขสันหลังออกมาตรวจ และทดลองระบายน้ำไขสันหลังทิ้งสัก 40-80 ซี.ซี. หากความดันน้ำไขสันหลังสูงกว่าปกติและเมื่อระบายน้ำไขสันหลังออกเสียบ้างอาการต่างๆ ก็ดีขึ้น เช่น เดินดีขึ้น ไม่เซไม่ล้มง่าย สั่นน้อยลง เกร็งน้อยลง อย่างนี้ก็เชื่อขนมกินได้เลยว่าเกิดภาวะน้ำไขสันหลังคั่งในโพรงสมองแล้วแน่นอน 

 

          สำหรับการรักษา สมัยนี้ก็ไม่ยากเลย เพียงแค่เปลี่ยนทางเดินของน้ำไขสันหลังจากที่มันจะต้องไปดูดซึมกลับที่ผิวสมองเพียงที่เดียว ให้ไปดูดซึมกลับโดยเยื่อบุช่องท้องอีกแรงหนึ่งเท่านี้ก็เรียบร้อย 

 

          หลังการรักษาที่ถูกต้อง และทันเวลา คนไข้จะสามารถกลับมาใช้ชีวิตที่เป็นปกติได้อีกนาน หลายรายที่เคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคพาร์กินสัน สามารถลดยาที่กินลงได้มาก และมีอีกจานวนหนึ่งที่อาจจะหยุดยาไปได้เลย 

 

          อย่างไรก็ดี ต้องเข้าใจไว้ด้วยว่า ภาวะนี้คือภาวะที่เกิดขึ้นตามสัจจธรรมแห่งสังขารที่เป็นอนิจจัง เพียงแต่ทำอย่างไรจะช่วยให้ผู้สูงวัยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความสุขกับลูกหลาน เป็นกำลังใจ เป็นที่เคารพให้ลูกหลาน ดูแลท่านให้สมกับที่ท่านได้เลี้ยงดูเรามา มีบุญคุณกับเราอย่างชนิดที่ไม่สามารถทดแทนได้หมด ไม่ว่าจะเกิดอีกกี่ชาติก็ตาม 

 

 

ที่สาคัญ สักวันหนึ่ง เมื่อเราสูงวัย เราก็มิอาจหนีสัจจธรรมนี้ไปได้เช่นกัน