Wellness Program

Key Takeaway

• Wellness Program คือโปรแกรมดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เน้นทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อป้องกันโรคและส่งเสริมคุณภาพชีวิต
• หลักการของ Wellness Program คิดขึ้นมาเพื่อสร้างพฤติกรรมสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน ป้องกันก่อนเกิดโรค และปรับสมดุลร่างกาย จิตใจให้แข็งแรง
• ประโยชน์ของ Wellness Program ช่วยป้องกันโรค เพิ่มคุณภาพชีวิต ลดค่าใช้จ่ายสุขภาพ และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ทั้งร่างกายและจิตใจ

“ดูแลสุขภาพให้ดี...ก่อนที่โรคจะมา” ด้วย Wellness Program จากศูนย์ส่งเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลวิภาวดี โปรแกรมดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่เน้นการป้องกันก่อนเกิดโรค ครอบคลุมทั้งการตรวจสุขภาพ การปรับพฤติกรรม โภชนาการ และสุขภาพจิต พร้อมวางแผนสุขภาพเฉพาะบุคคลอย่างตรงจุด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว

Wellness Program คืออะไร?

Wellness Program เป็นแนวทางดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ในภาวะที่บุคคลมีสุขภาพกายและใจที่สมบูรณ์ ไม่หมายถึงแค่การไม่มีโรคหรืออาการเจ็บป่วยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างรอบด้าน ผ่านการปรับตัวและจัดการกับความเครียด ปัญหา หรือสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม ทั้งในมิติของร่างกาย จิตใจ สังคม อารมณ์ และจิตวิญญาณ เพื่อให้ชีวิตมีความสมดุลและความสุขอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ Wellness Program ยังครอบคลุมกิจกรรมและพฤติกรรมที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพ เช่น การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การรับประทานอาหารที่สมดุล การนอนหลับเพียงพอ การจัดการความเครียด และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในสังคม ยังรวมไปถึงการพัฒนาตนเอง การเรียนรู้ การทำงานตามความสนใจ และการสร้างความหมายในชีวิต ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต ให้สามารถเผชิญความท้าทายในแต่ละวันได้อย่างมั่นคงและมีความสุขอย่างแท้จริง

หลักการของ Wellness ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพ

Wellness Program มีจุดมุ่งหมายเพื่อดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งร่างกาย จิตใจ และการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ได้เน้นเพียงการรักษาเมื่อเจ็บป่วย แต่เน้นการป้องกัน เสริมสร้างสมดุล และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น โดยมีหลักการดังนี้

• การส่งเสริมสุขภาพเชิงป้องกัน มุ่งเน้นการป้องกันโรค ลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยในอนาคต
• การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ครอบคลุมทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม
• การสร้างพฤติกรรมสุขภาพที่ดี ปลูกฝังนิสัยที่เอื้อต่อการมีสุขภาพ เช่น การกิน การนอน การออกกำลังกาย
• การจัดการความเครียดและสุขภาพจิต เสริมสร้างสมดุลทางอารมณ์ ลดความตึงเครียดในชีวิตประจำวัน
• การส่งเสริมคุณภาพชีวิต ทำให้มีพลังในการทำงาน ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และมีสมดุลชีวิตที่ยั่งยืน

Wellness มีกี่ประเภท?

Wellness ไม่ได้หมายถึงแค่สุขภาพร่างกายเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงหลายมิติของการใช้ชีวิต เพื่อให้เกิดความสมดุลทั้งกาย ใจ ความคิด และความสัมพันธ์ โดยทั่วไปแล้ว Wellness สามารถแบ่งออกเป็น 6 ประเภทหลักๆ ที่ช่วยให้เราเข้าใจและดูแลสุขภาพของตัวเองได้รอบด้าน

ด้านร่างกาย (Physical Wellness)

ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงและสมบูรณ์ สร้างสมดุลด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนเพียงพอ และตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อป้องกันโรคและเสริมภูมิคุ้มกัน การดูแลร่างกายอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้มีพลังงานในการทำงานและใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านจิตใจ (Emotional Wellness)

รู้จักและเข้าใจอารมณ์ของตนเอง รวมถึงการจัดการความเครียดและความรู้สึกด้านลบได้อย่างเหมาะสม การฝึกผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ การหายใจลึกๆ หรือการทำกิจกรรมที่ช่วยให้มีความสุข จะช่วยเสริมความมั่นคงทางอารมณ์ และทำให้รับมือกับปัญหาชีวิตได้ดีขึ้น

ด้านสังคม (Social Wellness)

การสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน หรือเพื่อนร่วมงาน การมีเครือข่ายสังคมที่สนับสนุนและให้กำลังใจ จะช่วยสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งและลดความเหงา การมีทักษะการสื่อสารและการทำงานเป็นทีมก็เป็นส่วนสำคัญของสุขภาวะด้านนี้

ด้านปัญญา (Intellectual Wellness)

เปิดรับความรู้ใหม่ๆ และการใช้ความคิดอย่างสร้างสรรค์ การเรียนรู้ทักษะใหม่ การอ่านหนังสือ การเข้าร่วมกิจกรรมที่กระตุ้นสมอง จะช่วยให้เราเติบโตทางความคิด รู้จักแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผล และมีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงในสังคมที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว

ด้านอาชีพ (Occupational Wellness)

การทำงานที่สร้างความพึงพอใจและสมดุล ได้ทำงานที่เหมาะสมกับทักษะและคุณค่าในชีวิตของเรา จะช่วยให้รู้สึกมีคุณค่าและเป้าหมาย การจัดสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว รวมถึงการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เป็นหัวใจสำคัญของสุขภาวะด้านนี้

ด้านจิตวิญญาณ (Spiritual Wellness)

การมีความหมายและเป้าหมายในชีวิต ซึ่งในที่นี้ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับศาสนาเสมอไป แต่เป็นเรื่องของการเข้าใจคุณค่าในชีวิต มีศรัทธาในสิ่งที่ทำ ทำสมาธิ หรือทำความดีเพื่อผู้อื่น จะช่วยสร้างความสงบในใจ และทำให้เรามีทิศทางในการใช้ชีวิตอย่างมั่นคงและมีความสุข

Wellness Program เหมาะกับใครบ้าง

Wellness Program ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น แต่เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โดยจะช่วยปรับสมดุลและสร้างพฤติกรรมที่ดี เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาว

วัยทำงานที่เครียดและพักผ่อนไม่พอ

สำหรับคนวัยทำงานที่เผชิญกับความเครียดสูงและพักผ่อนไม่เพียงพอ Wellness Program จะช่วยสร้างสมดุลชีวิตด้วยการแนะนำวิธีจัดการเวลา การออกกำลังกายเพื่อลดความตึงเครียด และการปรับพฤติกรรมการนอนให้เหมาะสม พร้อมทั้งกิจกรรมด้านจิตใจ เช่น การทำสมาธิหรือโยคะ ที่ช่วยให้ร่างกายและอารมณ์กลับมาสดชื่น

ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงโรคเรื้อรัง

ผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคหัวใจ สามารถใช้ Wellness Program เป็นแนวทางในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การออกกำลังกายที่เหมาะสม และการตรวจสุขภาพเชิงป้องกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อชะลอหรือป้องกันการเกิดโรคในอนาคต

ผู้ที่ต้องการวางแผนสุขภาพในระยะยาว

สำหรับคนที่มองการณ์ไกลและต้องการมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน Wellness Program ช่วยเป็นแนวทางวางแผนสุขภาพในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการจัดสมดุลชีวิต การพัฒนาสุขภาวะทางจิตใจ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้เต็มศักยภาพในทุกช่วงวัย

ประโยชน์ของ Wellness Program

Wellness Program มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน เช่น การตรวจสุขภาพประจำปี การประเมินความเสี่ยงโรค และการปรับพฤติกรรมด้านโภชนาการและการออกกำลังกาย โปรแกรมเหล่านี้ช่วยให้สามารถตรวจพบปัญหาสุขภาพตั้งแต่เนิ่นๆ และลดโอกาสเกิดโรคเรื้อรังหรือภาวะแทรกซ้อน ส่งผลให้ร่างกายแข็งแรง พร้อมรับมือกับปัญหาสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ป้องกันก่อนเกิดโรค

Wellness Program เน้นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน เช่น การตรวจสุขภาพประจำปี การปรับโภชนาการ และการออกกำลังกายที่เหมาะสม สิ่งเหล่านี้ช่วยลดโอกาสเกิดโรคเรื้อรังหรือภาวะแทรกซ้อน ทำให้ร่างกายแข็งแรงและพร้อมรับมือกับปัญหาสุขภาพ

เพิ่มคุณภาพชีวิตระยะยาว

Wellness Program ช่วยสร้างพฤติกรรมสุขภาพที่ดีอย่างต่อเนื่อง เช่น การนอนพักผ่อนเพียงพอ การจัดการความเครียด และการควบคุมโภชนาการ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ร่างกายและจิตใจมีความมั่นคงและสมดุล ส่งผลให้ผู้เข้าร่วมสามารถใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ มีพลังในการทำกิจกรรมต่างๆ และรักษาสุขภาพให้แข็งแรงยาวนานในระยะยาว

ลดค่าใช้จ่ายทางสุขภาพในอนาคต

การลงทุนใน Wellness Program เป็นการลงทุนเพื่ออนาคต เพราะเมื่อร่างกายแข็งแรงและมีการป้องกันโรคตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ทั้งการรักษาโรคเรื้อรัง การทำหัตถการ หรือการเข้ารับการรักษาฉุกเฉิน โปรแกรมจึงถือเป็นวิธีที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพในระยะยาว และคุ้มค่ากับการลงทุน

สุขภาพจิตดีขึ้น

โปรแกรมไม่ได้มุ่งดูแลแค่ร่างกาย แต่ยังให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตและอารมณ์ เช่น การทำสมาธิ การผ่อนคลาย และกิจกรรมสร้างความสุขต่างๆ สิ่งเหล่านี้ช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า ทำให้จิตใจสงบ มีความมั่นคง และพร้อมเผชิญกับความท้าทายในชีวิตประจำวัน

ประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้น

เมื่อร่างกายแข็งแรงและจิตใจมั่นคง ย่อมส่งผลต่อความสามารถในการทำงาน การมีสมาธิ และความคิดสร้างสรรค์ ผู้เข้าร่วมโปรแกรมจึงสามารถโฟกัสงานได้ดี ลดความเหนื่อยล้า และสร้างผลงานที่มีคุณภาพ ส่งผลให้ทั้งบุคคลและองค์กรได้รับผลประโยชน์ร่วมกันทั้งทางด้านสุขภาพและประสิทธิภาพในการทำงาน

Wellness Program ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลวิภาวดี

Wellness Program ที่ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลวิภาวดี ออกแบบมาเพื่อดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกและครบวงจร โปรแกรมนี้เน้นการป้องกันโรค เสริมสร้างสมดุลร่างกายและจิตใจ และวางแผนสุขภาพระยะยาวเพื่อชีวิตที่ยั่งยืน

• บริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่

ศูนย์ออกแบบบริการให้เข้ากับชีวิตประจำวันของคนยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสุขภาพแบบครบวงจร การให้คำแนะนำด้านโภชนาการ การจัดโปรแกรมออกกำลังกาย หรือกิจกรรมผ่อนคลาย เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายและประหยัดเวลา

• ทีมสหสาขาวิชาชีพพร้อมให้คำปรึกษา

รับคำปรึกษาจากทีมผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา เช่น แพทย์ พยาบาล นักโภชนาการ และนักจิตวิทยา ทำให้สามารถวางแผนสุขภาพได้อย่างเหมาะสมและครบถ้วนตามความต้องการของแต่ละบุคคล

• การติดตามผลที่ใกล้ชิดและเป็นระบบ

ศูนย์ให้ความสำคัญกับการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง ทั้งการตรวจซ้ำ การปรับโปรแกรมตามความคืบหน้า และการให้คำแนะนำเพิ่มเติม เพื่อให้ผู้เข้าร่วมเห็นผลลัพธ์ชัดเจนและสามารถรักษาสุขภาพได้อย่างยั่งยืน