มะเร็งต่อมไทรอยด์

Key Takeaway

  • มะเร็งต่อมไทรอยด์ คือโรคที่เกิดจากเซลล์ในต่อมไทรอยด์เติบโตผิดปกติและกลายเป็นก้อนมะเร็ง ซึ่งอาจลุกลามไปยังอวัยวะอื่นหากไม่ได้รับการรักษาแต่เนิ่นๆ
  • มะเร็งต่อมไทรอยด์แบ่งหลักๆ เป็น 4 ประเภท ได้แก่ Papillary, Follicular, Medullary และ Anaplastic แต่ละชนิดมีอัตราการลุกลามและวิธีรักษาที่แตกต่างกัน
  • วิธีการรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์มักผ่าตัดต่อมไทรอยด์เป็นหลัก และอาจใช้การกลืนแร่ไอโอดีน (RAI) การรักษาด้วยยา หรือการฉายรังสี ขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของมะเร็ง

“มะเร็งต่อมไทรอยด์”เป็นโรคที่พบได้บ่อยโดยเฉพาะในผู้หญิง แม้หลายคนอาจไม่รู้ว่าตนเองมีความเสี่ยง เพราะอาการในระยะแรกมักไม่ชัดเจน แต่หากตรวจพบเร็ว โอกาสในการรักษาให้หายขาดก็มีสูงมาก การรู้จักสังเกตอาการเบื้องต้น พร้อมตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด จึงเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้สามารถรักษาได้ทันก่อนที่โรคจะลุกลาม

มะเร็งต่อมไทรอยด์คืออะไร?

มะเร็งต่อมไทรอยด์คืออะไร?

มะเร็งต่อมไทรอยด์ (Thyroid Cancer) คือโรคที่เกิดจากการเจริญเติบโตผิดปกติของเซลล์ภายในต่อมไทรอยด์ต่อมเล็กๆ รูปผีเสื้อซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าของคอใต้ลูกกระเดือก ทำหน้าที่สำคัญในการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ ได้แก่ ไทรอกซิน (T4) และไตรไอโอโดไทโรนีน (T3) ซึ่งควบคุมการเผาผลาญพลังงาน การเจริญเติบโต และการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย

 

เมื่อเกิดมะเร็งต่อมไทรอยด์ เซลล์ในต่อมไทรอยด์จะแบ่งตัวอย่างผิดปกติ ทำให้เกิดก้อนเนื้อหรือการแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองหรืออวัยวะอื่นๆ ได้ หากไม่ตรวจและรักษาอย่างเหมาะสม อาจส่งผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์และสุขภาพโดยรวมได้

สาเหตุการเกิดมะเร็งต่อมไทรอยด์

มะเร็งต่อมไทรอยด์เกิดจากการแบ่งตัวของเซลล์ในต่อมไทรอยด์ หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในต่อมไทรอยด์ บางปัจจัยสามารถป้องกันได้ ในขณะที่บางปัจจัยไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยมีสาเหตุหลักๆ ดังนี้

  • พันธุกรรมและกรรมพันธุ์ มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์หรือโรคพันธุกรรมบางชนิด เช่น MEN2 จะเพิ่มความเสี่ยง
  • การได้รับรังสี (Radiation Exposure) การสัมผัสรังสีบริเวณคอหรือหัวมาก่อน เช่น การรักษาโรคมะเร็งในวัยเด็ก จะเพิ่มโอกาสเกิดมะเร็งต่อมไทรอยด์
  • การขาดสารไอโอดีนในอาหาร ไอโอดีนจำเป็นต่อการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ การขาดไอโอดีนอาจทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติและเพิ่มความเสี่ยง
  • เพศหญิงและการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ผู้หญิงมีแนวโน้มเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์มากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะช่วงวัยเจริญพันธุ์และหลังคลอดที่ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง
  • อายุ มะเร็งต่อมไทรอยด์พบบ่อยในผู้ใหญ่อายุ 30–50 ปี แต่บางชนิดสามารถพบได้ในเด็กและผู้สูงอายุ
  • โรคของต่อมไทรอยด์อื่นๆ ที่มีมาก่อน ผู้ที่มีประวัติโรคไทรอยด์ เช่น ต่อมไทรอยด์โตหรือไทรอยด์อักเสบเรื้อรัง มีความเสี่ยงสูงขึ้น

มะเร็งต่อมไทรอยด์ มีกี่ประเภท?

มะเร็งต่อมไทรอยด์ มีกี่ประเภท?

มะเร็งต่อมไทรอยด์แบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะของเซลล์และความรุนแรง แต่ละชนิดมีแนวทางการรักษาและการติดตามผลต่างกัน ดังนี้

มะเร็งต่อมไทรอยด์ Papillary (ชนิดที่พบบ่อยที่สุด)

คือชนิดที่พบบ่อยที่สุดในผู้ป่วยมะเร็งต่อมไทรอยด์ ประมาณ 70–80% ของทั้งหมด มักโตช้าและไม่ก่ออันตรายร้ายแรงในระยะเริ่มต้น แต่สามารถแพร่ไปยังต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอได้ การรักษาหลักคือการผ่าตัดเอาต่อมไทรอยด์ออกทั้งหมดหรือบางส่วน และอาจใช้ไอโอดีนกัมมันตรังสี ช่วยทำลายเซลล์มะเร็งที่เหลือ หลังการรักษามีโอกาสหายขาดสูง

มะเร็งต่อมไทรอยด์ Follicular

พบได้น้อยกว่า Papillary ประมาณ 10–15% ของผู้ป่วย มักแพร่ทางกระแสเลือดไปยังอวัยวะอื่น เช่น ปอดหรือกระดูก ทำให้มักตรวจพบช้ากว่า Papillary การรักษาหลักคือผ่าตัดต่อมไทรอยด์ทั้งหมด และในบางกรณีอาจใช้ไอโอดีนกัมมันตรังสีเพื่อทำลายเซลล์มะเร็งที่ยังเหลือ

มะเร็งต่อมไทรอยด์ Medullary

เกิดจากเซลล์ C (Calcitonin-producing cells) ของต่อมไทรอยด์ มีความเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมบางชนิด เช่น โรค MEN2 การแพร่กระจายมักเกิดกับต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียง การรักษาหลักคือผ่าตัดต่อมไทรอยด์ทั้งหมดพร้อมตรวจต่อมน้ำเหลือง และต้องติดตามระดับ Calcitonin อย่างต่อเนื่องเพื่อตรวจหาโอกาสในการกลับมาเป็นซ้ำ

มะเร็งต่อมไทรอยด์ Anaplastic (รุนแรงที่สุด)

เป็นชนิดรุนแรงที่สุด พบได้น้อยมาก แต่ขยายตัวและแพร่กระจายรวดเร็ว มักพบในผู้สูงอายุ การรักษามีความท้าทาย มักใช้การผ่าตัดร่วมกับเคมีบำบัดและรังสีรักษา เพื่อควบคุมอาการและยืดอายุผู้ป่วย เนื่องจากการหายขาดแทบเป็นไปไม่ได้ ชนิดนี้มีอัตราการเสียชีวิตสูง

อาการของมะเร็งต่อมไทรอยด์

อาการของมะเร็งต่อมไทรอยด์

มะเร็งต่อมไทรอยด์อาการที่พบมักเริ่มจากสัญญาณเล็กๆ ที่สังเกตได้ยากในระยะแรก แต่หากสังเกตและตรวจพบเร็วจะช่วยให้รักษาได้ผลดียิ่งขึ้น อาการที่พบบ่อย ได้แก่

อาการเบื้องต้น

  • พบก้อนแข็งบริเวณคอใต้ลูกกระเดือก มักไม่เจ็บปวด
  • เสียงแหบหรือเปลี่ยนเสียง หากก้อนเริ่มกดทับเส้นเสียง
  • กลืนอาหารลำบาก รู้สึกติดขัดหรือเจ็บขณะเคี้ยวหรือกลืน
  • แน่นบริเวณคอหรือเจ็บเล็กน้อยที่คอ ในบางราย

อาการเมื่อมะเร็งลุกลาม

  • หายใจลำบาก ก้อนขนาดใหญ่กดทับหลอดลมหรือทางเดินหายใจ
  • ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอบวม แสดงว่ามะเร็งแพร่กระจาย
  • ปวดหรือแน่นมากขึ้นบริเวณคอ
  • น้ำหนักลดผิดปกติหรืออ่อนเพลีย ในกรณีที่มีการลุกลามไปอวัยวะอื่น

วิธีการตรวจวินิจฉัยมะเร็งต่อมไทรอยด์

การตรวจวินิจฉัยมะเร็งต่อมไทรอยด์มีหลายวิธี เพื่อประเมินขนาด ลักษณะของก้อน และความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง การตรวจเหล่านี้ช่วยให้แพทย์วางแผนการรักษาได้เหมาะสมและแม่นยำ

  1. การตรวจร่างกาย แพทย์จะตรวจคลำบริเวณคอเพื่อประเมินขนาด ลักษณะ และความแข็งของก้อน รวมถึงตรวจต่อมน้ำเหลืองรอบคอ หากพบความผิดปกติเพิ่มเติม แพทย์จะพิจารณาส่งตรวจเพิ่มเติม
  2. ตรวจเลือดวัดฮอร์โมนไทรอยด์ เป็นการวัดระดับฮอร์โมน TSH, T3, T4 เพื่อดูการทำงานของต่อมไทรอยด์ แม้ว่าจะไม่สามารถวินิจฉัยมะเร็งโดยตรง แต่ช่วยประเมินภาวะไทรอยด์และวางแผนการรักษาได้
  3. อัลตราซาวด์ต่อมไทรอยด์ (Thyroid Ultrasound) ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อสร้างภาพต่อมไทรอยด์และก้อนเนื้อ สามารถบอกขนาด รูปร่าง และลักษณะของก้อน เช่น แข็งหรือมีของเหลว ซึ่งช่วยประเมินความเสี่ยงว่าก้อนนั้นอาจเป็นมะเร็ง
  4. การเจาะตรวจเซลล์ด้วยเข็มเล็ก (FNA: Fine Needle Aspiration Biopsy) เป็นการเจาะเอาเซลล์จากก้อนมาวิเคราะห์ทางพยาธิวิทยา เพื่อยืนยันว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ เป็นวิธีมาตรฐานที่ใช้วินิจฉัยมะเร็งต่อมไทรอยด์โดยตรง มีความแม่นยำสูงและทำได้รวดเร็ว
  5. การตรวจพิเศษเพิ่มเติม (กรณีจำเป็น) เมื่อผลการตรวจเบื้องต้นไม่ชัดเจนหรือมีความเสี่ยงสูง แพทย์อาจแนะนำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น ซีทีสแกน (CT Scan) เอ็มอาร์ไอ (MRI) การสแกนไอโอดีนรังสี (Radioactive Iodine Scan) หรือ PET Scan 

โดยการวินิจฉัยจะพิจารณาเป็นรายบุคคล ขึ้นอยู่กับชนิดมะเร็ง ระยะ และอาการของผู้ป่วย เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนสำหรับวางแผนการรักษาที่แม่นยำที่สุด

วิธีการรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์

วิธีการรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์

มะเร็งต่อมไทรอยด์รักษาได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของโรค รวมถึงสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย การรักษามักเป็นการผสมผสานระหว่างวิธีต่างๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด

การผ่าตัดต่อมไทรอยด์ (Thyroidectomy)

การผ่าตัดต่อมไทรอยด์เป็นวิธีหลักในการรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์ แพทย์จะตัดเนื้องอกออกพร้อมกับเนื้อเยื่อต่อมไทรอยด์บางส่วนหรือทั้งหมด ขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งของมะเร็ง 

หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยอาจต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์เพื่อตรวจอาการแทรกซ้อน เช่น เสียงแหบหรือระดับแคลเซียมในเลือด และอาจต้องใช้ยาฮอร์โมนไทรอยด์ทดแทน เพื่อทดแทนการทำงานของต่อมไทรอยด์ที่ถูกตัดออก

การกลืนแร่ไอโอดีน (Radioactive Iodine Therapy – RAI)

วิธีนี้เหมาะสำหรับมะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิดที่สามารถดูดซึมไอโอดีนได้ หลังการผ่าตัดผู้ป่วยจะได้รับแร่ไอโอดีนกัมมันตรังสีในรูปแบบเม็ด ซึ่งจะเข้าสู่เซลล์ที่เหลืออยู่และทำลายเซลล์มะเร็ง วิธีนี้ช่วยลดโอกาสของการกลับมาของมะเร็ง และสามารถตรวจติดตามด้วยการสแกนไอโอดีนเพื่อตรวจดูว่าเซลล์มะเร็งยังคงอยู่หรือไม่

การให้ฮอร์โมนไทรอยด์ทดแทน (Thyroid Hormone Therapy)

หลังผ่าตัดต่อมไทรอยด์ ผู้ป่วยมักได้รับยาฮอร์โมนไทรอยด์ทดแทนเพื่อรักษาระดับฮอร์โมนให้สมดุล ยานี้ไม่เพียงแต่ช่วยทดแทนการทำงานของต่อมไทรอยด์ แต่ยังมีบทบาทในการลดการกระตุ้นของฮอร์โมน TSH ซึ่งอาจกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งเติบโต แพทย์จะปรับขนาดยาโดยอิงจากผลตรวจเลือดและอาการของผู้ป่วย เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด

การฉายรังสีภายนอก (External Beam Radiation Therapy)

การฉายรังสีภายนอกใช้รังสีพลังงานสูงเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง มักใช้ในกรณีที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ทั้งหมด หรือมะเร็งแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อรอบๆ การฉายรังสีจะทำเป็นรอบๆ ตามแผนการรักษาที่กำหนดโดยแพทย์ เพื่อควบคุมการเจริญเติบโตของมะเร็งและลดอาการ เช่น ปวดหรือก้อนโตในบริเวณที่ได้รับผลกระทบ

การให้เคมีบำบัด (Chemotherapy)

เคมีบำบัดใช้สารเคมีที่ออกฤทธิ์ต่อเซลล์มะเร็งโดยตรง มักใช้ในกรณีมะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิดรุนแรงหรือดื้อต่อการรักษาแบบอื่น การให้ยาอาจเป็นแบบรับประทานหรือฉีดเข้าหลอดเลือดดำ ผู้ป่วยจะต้องอยู่ในการดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อจัดการกับผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หรือภูมิคุ้มกันลดลง

การรักษาด้วยยามุ่งเป้า (Targeted Therapy)

วิธีนี้ใช้ยาที่ออกฤทธิ์เฉพาะต่อเซลล์มะเร็งที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรมหรือโมเลกุลเฉพาะ ยามุ่งเป้าจะเข้าไปยับยั้งการเจริญเติบโตหรือการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง โดยมีผลข้างเคียงน้อยกว่าเคมีบำบัดทั่วไป การรักษาแบบนี้มักใช้ในกรณีมะเร็งที่ไม่ตอบสนองต่อวิธีมาตรฐานและต้องมีการตรวจหาความผิดปกติทางพันธุกรรมก่อนเริ่มใช้

มะเร็งต่อมไทรอยด์แตกต่างจากไทรอยด์ทั่วไปอย่างไร?

มะเร็งต่อมไทรอยด์แตกต่างจากต่อมไทรอยด์ทั่วไปตรงที่เป็นการเจริญเติบโตของเซลล์ผิดปกติที่สามารถลุกลามและแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อหรืออวัยวะอื่นๆ ได้ ในขณะที่ต่อมไทรอยด์ทั่วไปทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนควบคุมการเผาผลาญของร่างกายอย่างปกติ

มะเร็งต่อมไทรอยด์มักเกิดก้อนเนื้อแข็งหรือมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของต่อมไทรอยด์ อาจมีอาการเสียงแหบ เจ็บคอ หรือกลืนอาหารลำบาก ในขณะที่ต่อมไทรอยด์ปกติจะไม่มีอาการเหล่านี้และไม่เป็นอันตราย การวินิจฉัยด้วยการตรวจเลือด อัลตราซาวด์ หรือชิ้นเนื้อจึงสำคัญในการแยกความต่างระหว่างภาวะปกติและมะเร็ง

วิธีป้องกันและลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งต่อมไทรอยด์

วิธีป้องกันและลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งต่อมไทรอยด์

การป้องกันและลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งต่อมไทรอยด์สามารถทำได้หลายวิธี แม้บางปัจจัยเช่นพันธุกรรมหรือประวัติครอบครัวจะควบคุมไม่ได้ แต่ก็สามารถลดความเสี่ยงด้วยพฤติกรรมและการดูแลสุขภาพดังนี้

  1. รับประทานอาหารที่มีไอโอดีนพอเหมาะ ไอโอดีนจำเป็นต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ แต่ไม่ควรได้รับมากเกินไป ควรบริโภคเกลือเสริมไอโอดีนและอาหารทะเลอย่างสมดุล
  2. หลีกเลี่ยงการสัมผัสรังสีโดยไม่จำเป็น การได้รับรังสีที่คอหรือศีรษะสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งต่อมไทรอยด์ได้
  3. ตรวจสุขภาพต่อมไทรอยด์อย่างสม่ำเสมอ การอัลตราซาวด์หรือการตรวจทางคลินิกช่วยพบความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ทำให้สามารถรักษาได้ทันเวลา
  4. รักษาน้ำหนักและไลฟ์สไตล์ให้สมดุล การออกกำลังกายเป็นประจำ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป ช่วยลดความเสี่ยงต่อมะเร็งหลายชนิดรวมถึงมะเร็งต่อมไทรอยด์
  5. สังเกตอาการผิดปกติ หากพบก้อนที่คอ เจ็บคอเรื้อรัง เสียงแหบ หรือกลืนอาหารลำบาก ควรพบแพทย์ทันที เพื่อตรวจวินิจฉัยและป้องกันการลุกลามของโรค

การป้องกันเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสรักษาได้ผลดีหากมีการตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก

รักษามะเร็งต่อมไทรอยด์ที่โรงพยาบาลวิภาวดี

การรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์ที่ศูนย์มะเร็ง โรงพยาบาลวิภาวดี เริ่มจากการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดเพื่อประเมินความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะอัลตราซาวด์คอเพื่อตรวจหาก้อนหรือความผิดปกติในต่อมไทรอยด์ และหากพบความเสี่ยง แพทย์จะทำการเจาะตรวจชิ้นเนื้อ (Fine Needle Aspiration Biopsy) เพื่อตรวจเซลล์และยืนยันว่ามีมะเร็งหรือไม่

หลังจากการวินิจฉัย หากพบมะเร็ง แพทย์จะวางแผนผ่าตัดต่อมไทรอยด์ โดยพิจารณาตามขนาดและลักษณะของเนื้องอก การผ่าตัดอาจตัดต่อมไทรอยด์บางส่วนหรือทั้งหมด พร้อมกับประเมินต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียง เพื่อป้องกันการลุกลาม หลังผ่าตัดแพทย์อาจแนะนำการรักษาต่อเนื่อง เช่น การกลืนแร่ไอโอดีนรังสี หรือ ยาฮอร์โมนทดแทน เพื่อควบคุมการเติบโตของเซลล์และปรับสมดุลฮอร์โมน

สรุป

มะเร็งต่อมไทรอยด์เป็นโรคที่เกิดจากการแบ่งตัวของเซลล์ต่อมไทรอยด์ผิดปกติ พบได้บ่อยในผู้หญิงและมักไม่มีอาการชัดเจนในระยะแรก การตรวจวินิจฉัยตั้งแต่เนิ่นๆ เช่น อัลตราซาวด์หรือชิ้นเนื้อช่วยให้รักษาได้ผลดี มะเร็งชนิดหลัก ได้แก่ Papillary, Follicular, Medullary และ Anaplastic แต่ละชนิดมีความรุนแรงและแนวทางรักษาต่างกัน อาการที่สังเกตได้ เช่น ก้อนแข็งที่คอ เสียงแหบ หรือกลืนลำบาก การรักษาหลักคือผ่าตัด ต่อด้วยการใช้ไอโอดีนกัมมันตรังสี ฮอร์โมนทดแทน รังสี หรือเคมีบำบัด ขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของโรค การป้องกันและลดความเสี่ยงทำได้โดยรับประทานไอโอดีนพอเหมาะ หลีกเลี่ยงรังสี ตรวจสุขภาพต่อมไทรอยด์ และสังเกตอาการผิดปกติอย่างสม่ำเสมอ

ตรวจวินิจฉัยและรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์ที่ศูนย์มะเร็ง ตรวจอัลตราซาวด์ เจาะตรวจชิ้นเนื้อ ผ่าตัดต่อมไทรอยด์ โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการได้ที่ โรงพยาบาลวิภาวดี หรือติดต่อได้ที่ โทร. 02-561-1111

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

รวมคำถามยอดนิยมเกี่ยวกับมะเร็งต่อมไทรอยด์ การวินิจฉัย และการรักษา เพื่อให้คุณเข้าใจและดูแลตัวเองได้ดียิ่งขึ้น

หลังผ่าตัดมะเร็งต่อมไทรอยด์ต้องกินยาอะไรตลอดชีวิตไหม?

หลังการผ่าตัดต่อมไทรอยด์บางส่วนหรือทั้งหมด ผู้ป่วยมักต้องรับประทานฮอร์โมนไทรอยด์ทดแทน (Levothyroxine) เพื่อทดแทนฮอร์โมนที่ต่อมไทรอยด์ผลิตไม่ได้ตามปกติ การใช้ยานี้อาจต้องทานตลอดชีวิต แต่แพทย์จะปรับขนาดยาตามอายุ น้ำหนัก และผลตรวจเลือดเป็นระยะ

การเจาะชิ้นเนื้อ (FNA) อันตรายไหม?

การเจาะชิ้นเนื้อด้วยเข็มบาง (Fine Needle Aspiration – FNA) เป็นวิธีมาตรฐานในการวินิจฉัยความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ มีความปลอดภัยสูง ความเสี่ยงมักน้อย เช่น เลือดออกเล็กน้อยหรือเจ็บบริเวณที่เจาะ แพทย์จะใช้เทคนิคอัลตราซาวด์ช่วยนำเข็ม ทำให้แม่นยำและปลอดภัย

มะเร็งต่อมไทรอยด์มีกี่ระยะ?

การแบ่งระยะของมะเร็งต่อมไทรอยด์ ใช้ระบบ TNM (Tumor, Node, Metastasis) เพื่อประเมิน โดยขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง อายุของผู้ป่วย ขนาดของก้อนมะเร็ง และการแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองหรืออวัยวะอื่นๆ

คนไม่มีอาการเลยจะเป็นมะเร็งไทรอยด์ได้ไหม?

ได้ แม้มะเร็งต่อมไทรอยด์ในระยะแรกมักไม่มีอาการชัดเจน บางคนตรวจพบเพียงก้อนเล็กๆ ขณะตรวจสุขภาพหรืออัลตราซาวด์คอ การตรวจคัดกรองโดยแพทย์เฉพาะทางจึงสำคัญ โดยเฉพาะคนที่มีความเสี่ยงสูง เช่น มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์

รีวิวจากคนไข้

“ภูมิใจที่ได้ดูแลคุณ”

สอบถามรายละเอียดและนัดหมายล่วงหน้าที่

02-561-1111

02-058-1111


ทีมแพทย์มะเร็งต่อมไทรอยด์