Key Takeaway
“มะเร็งต่อมไทรอยด์”เป็นโรคที่พบได้บ่อยโดยเฉพาะในผู้หญิง แม้หลายคนอาจไม่รู้ว่าตนเองมีความเสี่ยง เพราะอาการในระยะแรกมักไม่ชัดเจน แต่หากตรวจพบเร็ว โอกาสในการรักษาให้หายขาดก็มีสูงมาก การรู้จักสังเกตอาการเบื้องต้น พร้อมตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด จึงเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้สามารถรักษาได้ทันก่อนที่โรคจะลุกลาม
มะเร็งต่อมไทรอยด์ (Thyroid Cancer) คือโรคที่เกิดจากการเจริญเติบโตผิดปกติของเซลล์ภายในต่อมไทรอยด์ต่อมเล็กๆ รูปผีเสื้อซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าของคอใต้ลูกกระเดือก ทำหน้าที่สำคัญในการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ ได้แก่ ไทรอกซิน (T4) และไตรไอโอโดไทโรนีน (T3) ซึ่งควบคุมการเผาผลาญพลังงาน การเจริญเติบโต และการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย
เมื่อเกิดมะเร็งต่อมไทรอยด์ เซลล์ในต่อมไทรอยด์จะแบ่งตัวอย่างผิดปกติ ทำให้เกิดก้อนเนื้อหรือการแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองหรืออวัยวะอื่นๆ ได้ หากไม่ตรวจและรักษาอย่างเหมาะสม อาจส่งผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์และสุขภาพโดยรวมได้
มะเร็งต่อมไทรอยด์เกิดจากการแบ่งตัวของเซลล์ในต่อมไทรอยด์ หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในต่อมไทรอยด์ บางปัจจัยสามารถป้องกันได้ ในขณะที่บางปัจจัยไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยมีสาเหตุหลักๆ ดังนี้
มะเร็งต่อมไทรอยด์แบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะของเซลล์และความรุนแรง แต่ละชนิดมีแนวทางการรักษาและการติดตามผลต่างกัน ดังนี้
คือชนิดที่พบบ่อยที่สุดในผู้ป่วยมะเร็งต่อมไทรอยด์ ประมาณ 70–80% ของทั้งหมด มักโตช้าและไม่ก่ออันตรายร้ายแรงในระยะเริ่มต้น แต่สามารถแพร่ไปยังต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอได้ การรักษาหลักคือการผ่าตัดเอาต่อมไทรอยด์ออกทั้งหมดหรือบางส่วน และอาจใช้ไอโอดีนกัมมันตรังสี ช่วยทำลายเซลล์มะเร็งที่เหลือ หลังการรักษามีโอกาสหายขาดสูง
พบได้น้อยกว่า Papillary ประมาณ 10–15% ของผู้ป่วย มักแพร่ทางกระแสเลือดไปยังอวัยวะอื่น เช่น ปอดหรือกระดูก ทำให้มักตรวจพบช้ากว่า Papillary การรักษาหลักคือผ่าตัดต่อมไทรอยด์ทั้งหมด และในบางกรณีอาจใช้ไอโอดีนกัมมันตรังสีเพื่อทำลายเซลล์มะเร็งที่ยังเหลือ
เกิดจากเซลล์ C (Calcitonin-producing cells) ของต่อมไทรอยด์ มีความเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมบางชนิด เช่น โรค MEN2 การแพร่กระจายมักเกิดกับต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียง การรักษาหลักคือผ่าตัดต่อมไทรอยด์ทั้งหมดพร้อมตรวจต่อมน้ำเหลือง และต้องติดตามระดับ Calcitonin อย่างต่อเนื่องเพื่อตรวจหาโอกาสในการกลับมาเป็นซ้ำ
เป็นชนิดรุนแรงที่สุด พบได้น้อยมาก แต่ขยายตัวและแพร่กระจายรวดเร็ว มักพบในผู้สูงอายุ การรักษามีความท้าทาย มักใช้การผ่าตัดร่วมกับเคมีบำบัดและรังสีรักษา เพื่อควบคุมอาการและยืดอายุผู้ป่วย เนื่องจากการหายขาดแทบเป็นไปไม่ได้ ชนิดนี้มีอัตราการเสียชีวิตสูง
มะเร็งต่อมไทรอยด์อาการที่พบมักเริ่มจากสัญญาณเล็กๆ ที่สังเกตได้ยากในระยะแรก แต่หากสังเกตและตรวจพบเร็วจะช่วยให้รักษาได้ผลดียิ่งขึ้น อาการที่พบบ่อย ได้แก่
การตรวจวินิจฉัยมะเร็งต่อมไทรอยด์มีหลายวิธี เพื่อประเมินขนาด ลักษณะของก้อน และความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง การตรวจเหล่านี้ช่วยให้แพทย์วางแผนการรักษาได้เหมาะสมและแม่นยำ
โดยการวินิจฉัยจะพิจารณาเป็นรายบุคคล ขึ้นอยู่กับชนิดมะเร็ง ระยะ และอาการของผู้ป่วย เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนสำหรับวางแผนการรักษาที่แม่นยำที่สุด
มะเร็งต่อมไทรอยด์รักษาได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของโรค รวมถึงสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย การรักษามักเป็นการผสมผสานระหว่างวิธีต่างๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด
การผ่าตัดต่อมไทรอยด์เป็นวิธีหลักในการรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์ แพทย์จะตัดเนื้องอกออกพร้อมกับเนื้อเยื่อต่อมไทรอยด์บางส่วนหรือทั้งหมด ขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งของมะเร็ง
หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยอาจต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์เพื่อตรวจอาการแทรกซ้อน เช่น เสียงแหบหรือระดับแคลเซียมในเลือด และอาจต้องใช้ยาฮอร์โมนไทรอยด์ทดแทน เพื่อทดแทนการทำงานของต่อมไทรอยด์ที่ถูกตัดออก
วิธีนี้เหมาะสำหรับมะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิดที่สามารถดูดซึมไอโอดีนได้ หลังการผ่าตัดผู้ป่วยจะได้รับแร่ไอโอดีนกัมมันตรังสีในรูปแบบเม็ด ซึ่งจะเข้าสู่เซลล์ที่เหลืออยู่และทำลายเซลล์มะเร็ง วิธีนี้ช่วยลดโอกาสของการกลับมาของมะเร็ง และสามารถตรวจติดตามด้วยการสแกนไอโอดีนเพื่อตรวจดูว่าเซลล์มะเร็งยังคงอยู่หรือไม่
หลังผ่าตัดต่อมไทรอยด์ ผู้ป่วยมักได้รับยาฮอร์โมนไทรอยด์ทดแทนเพื่อรักษาระดับฮอร์โมนให้สมดุล ยานี้ไม่เพียงแต่ช่วยทดแทนการทำงานของต่อมไทรอยด์ แต่ยังมีบทบาทในการลดการกระตุ้นของฮอร์โมน TSH ซึ่งอาจกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งเติบโต แพทย์จะปรับขนาดยาโดยอิงจากผลตรวจเลือดและอาการของผู้ป่วย เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด
การฉายรังสีภายนอกใช้รังสีพลังงานสูงเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง มักใช้ในกรณีที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ทั้งหมด หรือมะเร็งแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อรอบๆ การฉายรังสีจะทำเป็นรอบๆ ตามแผนการรักษาที่กำหนดโดยแพทย์ เพื่อควบคุมการเจริญเติบโตของมะเร็งและลดอาการ เช่น ปวดหรือก้อนโตในบริเวณที่ได้รับผลกระทบ
เคมีบำบัดใช้สารเคมีที่ออกฤทธิ์ต่อเซลล์มะเร็งโดยตรง มักใช้ในกรณีมะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิดรุนแรงหรือดื้อต่อการรักษาแบบอื่น การให้ยาอาจเป็นแบบรับประทานหรือฉีดเข้าหลอดเลือดดำ ผู้ป่วยจะต้องอยู่ในการดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อจัดการกับผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หรือภูมิคุ้มกันลดลง
วิธีนี้ใช้ยาที่ออกฤทธิ์เฉพาะต่อเซลล์มะเร็งที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรมหรือโมเลกุลเฉพาะ ยามุ่งเป้าจะเข้าไปยับยั้งการเจริญเติบโตหรือการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง โดยมีผลข้างเคียงน้อยกว่าเคมีบำบัดทั่วไป การรักษาแบบนี้มักใช้ในกรณีมะเร็งที่ไม่ตอบสนองต่อวิธีมาตรฐานและต้องมีการตรวจหาความผิดปกติทางพันธุกรรมก่อนเริ่มใช้
มะเร็งต่อมไทรอยด์แตกต่างจากต่อมไทรอยด์ทั่วไปตรงที่เป็นการเจริญเติบโตของเซลล์ผิดปกติที่สามารถลุกลามและแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อหรืออวัยวะอื่นๆ ได้ ในขณะที่ต่อมไทรอยด์ทั่วไปทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนควบคุมการเผาผลาญของร่างกายอย่างปกติ
มะเร็งต่อมไทรอยด์มักเกิดก้อนเนื้อแข็งหรือมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของต่อมไทรอยด์ อาจมีอาการเสียงแหบ เจ็บคอ หรือกลืนอาหารลำบาก ในขณะที่ต่อมไทรอยด์ปกติจะไม่มีอาการเหล่านี้และไม่เป็นอันตราย การวินิจฉัยด้วยการตรวจเลือด อัลตราซาวด์ หรือชิ้นเนื้อจึงสำคัญในการแยกความต่างระหว่างภาวะปกติและมะเร็ง
การป้องกันและลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งต่อมไทรอยด์สามารถทำได้หลายวิธี แม้บางปัจจัยเช่นพันธุกรรมหรือประวัติครอบครัวจะควบคุมไม่ได้ แต่ก็สามารถลดความเสี่ยงด้วยพฤติกรรมและการดูแลสุขภาพดังนี้
การป้องกันเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสรักษาได้ผลดีหากมีการตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก
การรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์ที่ศูนย์มะเร็ง โรงพยาบาลวิภาวดี เริ่มจากการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดเพื่อประเมินความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะอัลตราซาวด์คอเพื่อตรวจหาก้อนหรือความผิดปกติในต่อมไทรอยด์ และหากพบความเสี่ยง แพทย์จะทำการเจาะตรวจชิ้นเนื้อ (Fine Needle Aspiration Biopsy) เพื่อตรวจเซลล์และยืนยันว่ามีมะเร็งหรือไม่
หลังจากการวินิจฉัย หากพบมะเร็ง แพทย์จะวางแผนผ่าตัดต่อมไทรอยด์ โดยพิจารณาตามขนาดและลักษณะของเนื้องอก การผ่าตัดอาจตัดต่อมไทรอยด์บางส่วนหรือทั้งหมด พร้อมกับประเมินต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียง เพื่อป้องกันการลุกลาม หลังผ่าตัดแพทย์อาจแนะนำการรักษาต่อเนื่อง เช่น การกลืนแร่ไอโอดีนรังสี หรือ ยาฮอร์โมนทดแทน เพื่อควบคุมการเติบโตของเซลล์และปรับสมดุลฮอร์โมน
มะเร็งต่อมไทรอยด์เป็นโรคที่เกิดจากการแบ่งตัวของเซลล์ต่อมไทรอยด์ผิดปกติ พบได้บ่อยในผู้หญิงและมักไม่มีอาการชัดเจนในระยะแรก การตรวจวินิจฉัยตั้งแต่เนิ่นๆ เช่น อัลตราซาวด์หรือชิ้นเนื้อช่วยให้รักษาได้ผลดี มะเร็งชนิดหลัก ได้แก่ Papillary, Follicular, Medullary และ Anaplastic แต่ละชนิดมีความรุนแรงและแนวทางรักษาต่างกัน อาการที่สังเกตได้ เช่น ก้อนแข็งที่คอ เสียงแหบ หรือกลืนลำบาก การรักษาหลักคือผ่าตัด ต่อด้วยการใช้ไอโอดีนกัมมันตรังสี ฮอร์โมนทดแทน รังสี หรือเคมีบำบัด ขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของโรค การป้องกันและลดความเสี่ยงทำได้โดยรับประทานไอโอดีนพอเหมาะ หลีกเลี่ยงรังสี ตรวจสุขภาพต่อมไทรอยด์ และสังเกตอาการผิดปกติอย่างสม่ำเสมอ
ตรวจวินิจฉัยและรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์ที่ศูนย์มะเร็ง ตรวจอัลตราซาวด์ เจาะตรวจชิ้นเนื้อ ผ่าตัดต่อมไทรอยด์ โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการได้ที่ โรงพยาบาลวิภาวดี หรือติดต่อได้ที่ โทร. 02-561-1111
รวมคำถามยอดนิยมเกี่ยวกับมะเร็งต่อมไทรอยด์ การวินิจฉัย และการรักษา เพื่อให้คุณเข้าใจและดูแลตัวเองได้ดียิ่งขึ้น
หลังการผ่าตัดต่อมไทรอยด์บางส่วนหรือทั้งหมด ผู้ป่วยมักต้องรับประทานฮอร์โมนไทรอยด์ทดแทน (Levothyroxine) เพื่อทดแทนฮอร์โมนที่ต่อมไทรอยด์ผลิตไม่ได้ตามปกติ การใช้ยานี้อาจต้องทานตลอดชีวิต แต่แพทย์จะปรับขนาดยาตามอายุ น้ำหนัก และผลตรวจเลือดเป็นระยะ
การเจาะชิ้นเนื้อด้วยเข็มบาง (Fine Needle Aspiration – FNA) เป็นวิธีมาตรฐานในการวินิจฉัยความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ มีความปลอดภัยสูง ความเสี่ยงมักน้อย เช่น เลือดออกเล็กน้อยหรือเจ็บบริเวณที่เจาะ แพทย์จะใช้เทคนิคอัลตราซาวด์ช่วยนำเข็ม ทำให้แม่นยำและปลอดภัย
การแบ่งระยะของมะเร็งต่อมไทรอยด์ ใช้ระบบ TNM (Tumor, Node, Metastasis) เพื่อประเมิน โดยขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง อายุของผู้ป่วย ขนาดของก้อนมะเร็ง และการแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองหรืออวัยวะอื่นๆ
ได้ แม้มะเร็งต่อมไทรอยด์ในระยะแรกมักไม่มีอาการชัดเจน บางคนตรวจพบเพียงก้อนเล็กๆ ขณะตรวจสุขภาพหรืออัลตราซาวด์คอ การตรวจคัดกรองโดยแพทย์เฉพาะทางจึงสำคัญ โดยเฉพาะคนที่มีความเสี่ยงสูง เช่น มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์
นโยบายความเป็นส่วนตัว | นโยบาย คุกกี้
Copyright © Vibhavadi Hospital. All right reserved