- ไซนัสอักเสบเกิดจากเยื่อบุโพรงอากาศรอบจมูกอักเสบและบวม จนเกิดการอุดตันและมีน้ำมูกคั่ง สาเหตุหลักมักมาจากการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือจากภูมิแพ้ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น โครงสร้างโพรงจมูกผิดปกติหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นควันมาก
- อาการไซนัสอักเสบมีอาการคัดจมูก น้ำมูกข้น ปวดหรือแน่นบริเวณใบหน้า หน้าผาก หรือรอบดวงตา และการรับกลิ่นลดลง ต่างจากภูมิแพ้จมูกที่มักมีน้ำมูกใส จาม คันจมูก และไม่มีอาการปวดใบหน้า ไซนัสอักเสบมักมีอาการหนักและยาวนานกว่า
- การรักษาไซนัสอักเสบขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค โดยเริ่มจากการใช้ยา เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาลดบวม ยาแก้แพ้ และการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ หากเป็นเรื้อรังหรือมีภาวะแทรกซ้อน แพทย์อาจแนะนำให้ทำการผ่าตัดส่องกล้องไซนัสเพื่อเปิดทางระบายน้ำมูกและลดการอักเสบ
ไซนัสอักเสบเป็นปัญหาสุขภาพที่หลายคนมองข้าม ทั้งอาการคัดจมูก น้ำมูกข้น หรือปวดศีรษะ อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคที่หากละเลย อาจกลายเป็นภาวะเรื้อรังได้ โรงพยาบาลวิภาวดีพร้อมดูแลโดยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านหู คอ จมูก ร่วมกับเทคโนโลยีการวินิจฉัยที่ทันสมัย เช่น CT Scan เพื่อให้ผลตรวจครอบคลุม และมีทางเลือกการรักษาตั้งแต่การใช้ยาไปจนถึงการผ่าตัดส่องกล้องไซนัส
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Sep%203%20(%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%AA)%20(2).jpg)
ไซนัสอักเสบคืออะไร?
ไซนัสอักเสบ (Sinusitis) คือ ภาวะที่เกิดจากการอักเสบของเยื่อบุภายในโพรงอากาศรอบจมูก หรือที่เรียกว่า “โพรงไซนัส” ซึ่งมีอยู่หลายตำแหน่ง ได้แก่ บริเวณหน้าผาก (Frontal sinus) โหนกแก้ม (Maxillary sinus) ระหว่างตา (Ethmoid sinus) และด้านหลังจมูก (Sphenoid sinus) โพรงเหล่านี้เชื่อมต่อกับช่องจมูกและทำหน้าที่ช่วยปรับอุณหภูมิและความชื้นของอากาศก่อนเข้าสู่ปอด รวมถึงลดน้ำหนักของกะโหลกศีรษะ
เมื่อเกิดการติดเชื้อจากไวรัส แบคทีเรีย หรือเชื้อรา เยื่อบุภายในไซนัสจะเกิดอาการบวม มีเมือกมากขึ้น และช่องทางระบายน้ำมูกอุดตัน ทำให้ของเหลวคั่งอยู่ในโพรงไซนัสเกิดแรงดันและอาการปวดแน่นบริเวณใบหน้า หน้าผาก หรือรอบดวงตา ร่วมกับอาการคัดจมูก น้ำมูกข้นหรือมีสีเขียว-เหลือง มีกลิ่นปาก เสียงขึ้นจมูก และบางรายอาจมีไข้หรืออ่อนเพลีย
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Sep%203%20(%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%AA)%20(3).jpg)
อาการของไซนัสอักเสบ
อาการของไซนัสอักเสบเกิดจากการอักเสบและการคั่งของน้ำมูกในโพรงไซนัส ส่งผลให้เกิดแรงดันและการระคายเคืองในบริเวณใบหน้าและจมูก ผู้ป่วยแต่ละรายอาจมีอาการแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและตำแหน่งของไซนัสที่อักเสบ โดยอาการที่พบได้บ่อย ได้แก่
- คัดแน่นจมูก หายใจไม่สะดวก เนื่องจากเยื่อบุโพรงจมูกบวมและมีน้ำมูกอุดตัน
- น้ำมูก เสมหะข้นผิดปกติ อาจมีสีเหลืองหรือเขียว บางครั้งไหลลงคอจนให้ระคายคอหรือไอเรื้อรังได้
- ปวดหรือแน่นบริเวณกระบอกตา ใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณโหนกแก้มหรือหน้าผาก
- การรับกลิ่นหรือรสชาติลดลง เพราะการอุดตันของช่องทางรับกลิ่นในโพรงจมูก
- อาการอื่นๆ ที่อาจพบร่วมด้วย เช่น ปวดศีรษะ (โดยเฉพาะตอนเช้าหรือเวลาก้ม) มีไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดหู หรือหูอื้อ อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า มีกลิ่นปาก
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Sep%203%20(%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%AA)%20(4).jpg)
อาการแทรกซ้อนของไซนัสอักเสบที่ควรไปพบแพทย์
อาการแทรกซ้อนของไซนัสอักเสบที่ควรไปพบแพทย์ เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าโรคอาจลุกลามหรือมีการติดเชื้อรุนแรง ซึ่งอาจกระทบต่ออวัยวะสำคัญใกล้เคียง เช่น ดวงตา หรือสมอง หากปล่อยไว้โดยไม่รักษาอย่างเหมาะสมอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนอันตรายได้ ดังนั้นหากมีอาการต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
- ไข้สูงและหนาวสั่น อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อรุนแรง
- ปวดหรือบวมรุนแรงรอบดวงตา โดยเฉพาะถ้ามีอาการบวมแดงหรือเจ็บเมื่อขยับตา
- ตามัวหรือมองเห็นภาพซ้อน อาจมีการอักเสบลุกลามไปยังเบ้าตา
- ปวดศีรษะรุนแรงและไม่หาย แม้พักผ่อนหรือใช้ยาแก้ปวดแล้ว
- บวมแดงหรือร้อนบริเวณหน้าผาก แก้ม หรือรอบดวงตา บ่งชี้ถึงการอักเสบหรือติดเชื้อที่แพร่กระจาย
- อาการอาเจียนร่วมกับปวดศีรษะมาก อาจเป็นสัญญาณของภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากการติดเชื้อไซนัส
- อาการไม่ดีขึ้นหลังใช้ยาหรืออาการเรื้อรังเกิน 12 สัปดาห์ ควรเข้ารับการตรวจเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุและแนวทางรักษาที่เหมาะสม
ไซนัสอักเสบเกิดจากอะไร?
ไซนัสอักเสบเกิดจากหลายปัจจัยที่ส่งผลให้เยื่อบุโพรงไซนัสอักเสบ บวม และมีการอุดตันของทางระบายน้ำมูก ซึ่งเอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อโรค การเข้าใจสาเหตุจะช่วยในการป้องกันและลดโอกาสการเกิดซ้ำของโรคไซนัสอักเสบได้ ดังนี้
- การติดเชื้อ โดยเฉพาะการติดเชื้อไวรัสจากไข้หวัด หรือในบางกรณีอาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา
- ภูมิแพ้หรือการระคายเคือง ทำให้เยื่อบุโพรงจมูกบวมและอุดตัน ส่งผลให้การระบายน้ำมูกไม่ดี
- ปัญหากายภาพของจมูกและไซนัส เช่น ผนังกั้นจมูกคด หรือมีก้อนเนื้อในโพรงจมูก (Nasal polyp) ที่ขัดขวางการระบายของไซนัส
- เป็นโรคภูมิแพ้เรื้อรัง การอักเสบเรื้อรังจากภูมิแพ้ทำให้เยื่อบุจมูกไวต่อสิ่งกระตุ้นมากขึ้น
- สูบบุหรี่หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีควัน ควันบุหรี่และมลภาวะทำลายเยื่อบุทางเดินหายใจและลดการทำงานของขนกวัด (Cilia) ที่ช่วยขับเมือก
- อายุมากกว่า 60 ปี (ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนลง) ทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ลดลง
- มีโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคเหล่านี้ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันและการฟื้นตัวของเยื่อบุไซนัส
- เคยมีไซนัสอักเสบซ้ำๆ ทำให้เยื่อบุโพรงไซนัสเปราะบางและมีแนวโน้มอักเสบได้ง่ายในอนาคต
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Sep%203%20(%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%AA)%20(7).jpg)
การวินิจฉัยไซนัสอักเสบ
- การซักประวัติและตรวจร่างกาย แพทย์จะสอบถามอาการ เช่น คัดจมูก น้ำมูกข้น ปวดใบหน้า ปวดศีรษะ หรือมีไข้ รวมถึงประวัติโรคภูมิแพ้และการติดเชื้อทางเดินหายใจ จากนั้นจะตรวจโพรงจมูกเพื่อดูการบวมของเยื่อบุ การมีหนอง น้ำมูก หรือก้อนเนื้อภายในจมูก
- การตรวจทางรังสี เช่น X-Ray หรือ CT Scan ช่วยให้เห็นตำแหน่งและความรุนแรงของการอักเสบ รวมถึงโครงสร้างโพรงไซนัสที่ผิดปกติ เช่น ผนังกั้นจมูกคด หรือมีก้อนเนื้อ
- การตรวจเสริมอื่นๆ เช่น ส่องกล้องตรวจโพรงจมูก (Nasal endoscopy) เพื่อดูภายในโพรงจมูกโดยตรง ตรวจสารคัดหลั่งจากไซนัสเพื่อตรวจหาเชื้อโรค ทดสอบภูมิแพ้ (Allergy test) ของไซนัสอักเสบที่เกิดจากภูมิแพ้ ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นสำคัญของโรคเรื้อรัง ตรวจเลือดเพิ่มเติม (ในบางกรณี) สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการซ้ำๆ หรือรุนแรง
- การวินิจฉัยแยกประเภท แพทย์จะพิจารณาว่าเป็นไซนัสอักเสบเฉียบพลัน (อาการไม่เกิน 4 สัปดาห์) หรือ ไซนัสอักเสบเรื้อรัง (อาการนานเกิน 12 สัปดาห์) เพื่อเลือกแนวทางการรักษา ทั้งด้านการใช้ยา การดูแลตนเอง หรือการรักษาด้วยการผ่าตัดในรายที่จำเป็น
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Sep%203%20(%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%AA)%20(5).jpg)
แนวทางการรักษาไซนัสอักเสบ
แนวทางการรักษาไซนัสอักเสบมีหลายวิธีขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ โดยเน้นให้การอักเสบลดลง การระบายน้ำมูกกลับมาทำงานได้ปกติ และป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ ในรายที่อาการไม่รุนแรงสามารถดูแลตนเองได้ แต่หากมีอาการเรื้อรังหรือมีภาวะแทรกซ้อน ควรได้รับการรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางหู คอ จมูก
การดูแลตัวเอง
- ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ เพื่อช่วยชะล้างน้ำมูก หนอง และสิ่งสกปรก ลดการอุดตันของโพรงไซนัส
- ประคบร้อนบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณหน้าผากและโหนกแก้ม เพื่อบรรเทาอาการปวดและลดแรงดันในไซนัส
- ดื่มน้ำมากๆ และพักผ่อนเพียงพอ เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวและระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้เต็มที่
- หลีกเลี่ยงสารระคายเคือง เช่น ฝุ่น ควันบุหรี่ เช่น ฝุ่น ควันบุหรี่ กลิ่นฉุน หรืออากาศแห้ง เพราะอาจทำให้เยื่อบุจมูกอักเสบมากขึ้น
การใช้ยา
- ยาลดอาการคัดจมูก (Decongestant) ช่วยให้จมูกโล่ง ลดการบวมของเยื่อบุโพรงจมูก
- ยาลดอาการแพ้ (Antihistamine) เหมาะสำหรับผู้ที่มีไซนัสอักเสบจากภูมิแพ้ ช่วยลดน้ำมูกและอาการคัดจมูก
- ยาปฏิชีวนะ ใช้ในกรณีที่แพทย์วินิจฉัยว่าเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไม่ควรใช้เองโดยไม่ปรึกษาแพทย์
- ยาแก้ปวด ลดไข้ เช่น พาราเซตามอล หรือไอบูโพรเฟน ช่วยบรรเทาอาการปวดใบหน้า ปวดศีรษะ และลดไข้
การรักษาเฉพาะทาง
- การผ่าตัดส่องกล้องไซนัส (Endoscopic Sinus Surgery) เพื่อเปิดทางระบายไซนัส เอาเนื้อเยื่อที่อักเสบหรือสิ่งอุดตันออก ช่วยให้หายใจสะดวกและลดการกลับเป็นซ้ำ
- การรักษาภูมิแพ้ร่วม เช่น การฉีดวัคซีนภูมิแพ้ (Allergy Immunotherapy) หรือควบคุมสิ่งกระตุ้น เพื่อป้องกันการอักเสบซ้ำ
- การรักษาภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อที่ลุกลามไปยังตา หรือสมอง ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลโดยแพทย์เฉพาะทางอย่างใกล้ชิด
วิธีป้องกันตัวเองจากไซนัสอักเสบ
วิธีป้องกันตัวเองจากไซนัสอักเสบทำได้โดยการดูแลสุขภาพทั่วไปให้แข็งแรง และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เยื่อบุโพรงจมูกอักเสบหรือระคายเคือง การป้องกันอย่างต่อเนื่องจะช่วยลดโอกาสเกิดไซนัสอักเสบซ้ำและทำให้ระบบทางเดินหายใจทำงานได้ดีขึ้น โดยสามารถทำตามคำแนะนำได้ดังนี้
- ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือเป็นประจำ เพื่อช่วยชะล้างเชื้อโรคและสิ่งสกปรกออกจากโพรงจมูก
- หลีกเลี่ยงฝุ่น ควันบุหรี่ และมลภาวะทางอากาศ เพราะเป็นตัวกระตุ้นให้เยื่อบุจมูกบวมและอักเสบได้ง่าย
- รักษาสุขอนามัยส่วนตัว เช่น ล้างมือบ่อยๆ และหลีกเลี่ยงการใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เพื่อลดการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย
- ดื่มน้ำให้เพียงพอและพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันและรักษาความชุ่มชื้นของเยื่อบุโพรงจมูก
- ควบคุมอาการภูมิแพ้ให้ดี โดยหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น เกสรดอกไม้ หรือขนสัตว์
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในอากาศเย็นจัดหรือเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิรวดเร็ว เพราะอาจกระตุ้นให้เยื่อบุจมูกอักเสบ
- รักษาโรคทางเดินหายใจให้หายขาดทุกครั้ง เช่น หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ เพื่อป้องกันการลุกลามเข้าสู่โพรงไซนัส
ไซนัสอักเสบห้ามกินอะไร?
หลากคนสงสัยว่าเป็นไซนัสอักเสบห้ามกินอะไร? หลังผ่าตัดไซนัสห้ามกินอะไร? เพื่อที่จะได้ดูแลตัวเองได้ถูกต้อง โดยอาหารบางชนิดกระตุ้นให้เป็นเยื่อบุจมูกอักเสบและบวมมากขึ้น ส่งผลต่อการฟื้นตัวของผู้ป่วยไซนัสได้ การหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้จึงช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อซ้ำและอาการกำริบ ไปดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ควรหลีกเลี่ยง
เป็นไซนัสอักเสบห้ามกินอะไร?
- อาหารรสจัด เค็ม เผ็ด หรือมันมาก เพราะอาจกระตุ้นให้เยื่อบุจมูกบวมและเพิ่มน้ำมูก
- อาหารแปรรูปหรือของทอด ซึ่งอาจทำให้ร่างกายอักเสบมากขึ้น
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกาแฟมากเกินไป เพราะมีผลทำให้ร่างกายขาดน้ำและเยื่อบุจมูกแห้ง
- อาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวานหรือเครื่องดื่มหวานมาก เพราะอาจลดประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกัน
หลังผ่าตัดไซนัสห้ามกินอะไร?
- อาหารแข็ง เคี้ยวยาก หรือมีเมล็ดเล็กๆ เช่น ถั่ว ผลไม้มีเมล็ด หรือขนมกรุบกรอบ เพราะอาจบาดเยื่อบุจมูกและแผลผ่าตัด
- อาหารร้อนจัดหรือเผ็ดจัด เพราะอาจกระตุ้นเลือดออกและเพิ่มการอักเสบ
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีนสูง ทำให้แผลฟื้นตัวช้าและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- อาหารที่ทำให้เกิดแก๊สหรืออืดท้องมาก เช่น ถั่วบางชนิด น้ำอัดลม เพราะการเบ่งหรือท้องอืดอาจเพิ่มแรงดันในโพรงไซนัส
โดยทั่วไปหลังผ่าตัดควรเน้นอาหารอ่อน ย่อยง่าย และดื่มน้ำมากๆ เช่น ซุป ผักต้ม ผลไม้ที่นิ่ม และน้ำเปล่า เพื่อช่วยให้แผลหายเร็วและลดความเสี่ยงการติดเชื้อ
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Sep%203%20(%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%AA)%20(6).jpg)
รักษาไซนัสอักเสบ ที่โรงพยาบาลวิภาวดี
การรักษาไซนัสอักเสบที่โรงพยาบาลวิภาวดี ให้บริการโดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านหู คอ จมูก พร้อมในการดูแลผู้ป่วยไซนัสอักเสบทั้งเฉียบพลันและเรื้อรัง พร้อมเทคโนโลยีการวินิจฉัยที่ทันสมัย เช่น CT Scan และกล้องส่องโพรงจมูกความละเอียดสูง ช่วยให้ตรวจพบความผิดปกติได้อย่างแม่นยำ การรักษาครอบคลุมตั้งแต่การให้ยาเพื่อควบคุมอาการและการอักเสบ ไปจนถึงการผ่าตัดส่องกล้องไซนัสที่ปลอดภัย เจ็บน้อย และใช้ระยะฟื้นตัวสั้นๆ ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมาหายใจโล่งและใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจอีกครั้ง
สรุป
ไซนัสอักเสบคือภาวะเยื่อบุโพรงอากาศรอบจมูกอักเสบ ทำให้เกิดอาการคัดจมูก น้ำมูกข้น ปวดใบหน้า และลดการรับกลิ่น การอักเสบอาจเป็นเฉียบพลันหรือเรื้อรัง สาเหตุหลักมาจากการติดเชื้อ ภูมิแพ้ หรือปัจจัยกระตุ้นอื่นๆ การวินิจฉัยต้องอาศัยการซักประวัติ ตรวจร่างกาย X-Ray หรือ CT Scan การส่องกล้องตรวจโพรงจมูก การรักษาประกอบด้วยการดูแลตัวเอง การใช้ยา และการรักษาเฉพาะทางในกรณีเรื้อรังหรือมีภาวะแทรกซ้อน การป้องกันควรหลีกเลี่ยงฝุ่น ควันบุหรี่ และควบคุมภูมิแพ้ให้ดี หลังผ่าตัดควรระวังอาหารแข็ง เผ็ด หรือร้อนจัด โรงพยาบาลวิภาวดีให้การรักษาครบวงจร ช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วและลดโอกาสเกิดซ้ำ
การตรวจหาความผิดปกติของไซนัสตั้งแต่เนิ่นๆ เป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้สามารถวินิจฉัยและรักษาไซนัสอักเสบได้ตั้งแต่ระยะแรก ลดความรุนแรงของอาการ และป้องกันภาวะแทรกซ้อน โรงพยาบาลวิภาวดีมีบริการตรวจและประเมินอย่างครบวงจร พร้อมวางแผนการรักษาที่เหมาะสม เพื่อให้ฟื้นตัวเร็วและลดโอกาสกลับมาเป็นซ้ำ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
การตรวจภูมิแพ้จำเป็นสำหรับผู้ป่วยไซนัสเรื้อรังหรือไม่?
จำเป็นในบางกรณี โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการไซนัสอักเสบเรื้อรังหรือกลับมาเป็นซ้ำบ่อย เพราะภูมิแพ้มักเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในโพรงจมูก การตรวจภูมิแพ้ช่วยให้ทราบสาเหตุและแผนการรักษาเพื่อลดโอกาสเกิดอาการซ้ำได้อย่างตรงจุด
ใครบ้างที่ควรเข้ารับการผ่าตัดส่องกล้องไซนัส?
ผู้ที่ควรได้เข้ารับการผ่าตัดส่องกล้องไซนัสคือผู้ที่มีอาการไซนัสอักเสบเรื้อรัง ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา หรือมีภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อลุกลามรอบดวงตาและสมอง มักได้รับคำแนะนำให้ผ่าตัดส่องกล้องไซนัส เพื่อเปิดทางระบายน้ำมูกและลดการอุดตันของโพรงไซนัส ช่วยให้หายใจสะดวกขึ้นและลดการอักเสบซ้ำในอนาคต
ไซนัสอักเสบต่างจากภูมิแพ้จมูกอย่างไร?
ไซนัสอักเสบเกิดจากการอักเสบของเยื่อบุโพรงไซนัสมักมีอาการคัดจมูก ปวดใบหน้า และมีน้ำมูกข้นสีเหลืองหรือเขียว ขณะที่ภูมิแพ้จมูกเกิดจากการตอบสนองของร่างกายต่อสารก่อภูมิแพ้ มีอาการจาม คันจมูก และน้ำมูกใส ทั้งสองโรคอาจเกิดร่วมกันได้และต้องรักษาให้เหมาะสมกับสาเหตุ
ไซนัสอักเสบสามารถรักษาหายขาดได้หรือไม่?
สามารถรักษาไซนัสอักเสบให้หายขาดได้ โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นแบบเฉียบพลัน แต่หากเป็นเรื้อรังผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง ปรับพฤติกรรม และรักษาปัจจัยกระตุ้น เช่น ภูมิแพ้หรือการติดเชื้อซ้ำ การรักษาอย่างถูกวิธีตั้งแต่ต้นจะช่วยลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำได้
ควรตรวจสุขภาพไซนัสหรือโพรงจมูกบ่อยเท่าไร?
ควรเข้ารับการตรวจเมื่อมีอาการผิดปกติ เช่น คัดจมูกเรื้อรัง ปวดใบหน้า หรือมีน้ำมูกข้นนานเกิน 2 สัปดาห์ สำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้หรือเคยมีประวัติไซนัสอักเสบ ควรตรวจสุขภาพโพรงจมูกปีละ 1 ครั้ง เพื่อเฝ้าระวังและรักษาความผิดปกติตั้งแต่ระยะเริ่มต้น