เอกซเรย์เต้านม (Mammogram)

ปัจจุบันโรคมะเร็งในสตรีสำหรับประเทศไทย พบว่ามะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับสองรองจากมะเร็งปากมดลูก และมีแนวโน้มจะพบมากขึ้นทุกปี

ทำไมต้องตรวจเอกซเรย์เต้านม?

มะเร็งเต้านม เป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 2 ของผู้หญิงไทย รองจากมะเร็งปากมดลูก และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี การตรวจคัดกรองด้วย เอกซเรย์เต้านม (Mammogram) ช่วยให้ตรวจพบความผิดปกติตั้งแต่ระยะเริ่มต้น เพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้


ความสำคัญของการตรวจ Mammogram

การตรวจแมมโมแกรมคือการเอกซเรย์เต้านมโดยตรง เพื่อค้นหาก้อนเนื้อ หรือความผิดปกติที่ยังไม่สามารถคลำได้ด้วยตนเอง โดยเฉพาะในผู้หญิงอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงสูง


สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งเต้านม

ปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้

  • ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 35 ปี

  • เคยมีประวัติมะเร็งเต้านม

  • ประจำเดือนมาเร็ว หรือหมดช้า

  • มีญาติสายตรง (แม่ พี่สาว น้องสาว ลูกสาว) เป็นมะเร็งเต้านม

  • ไม่มีบุตร หรือมีบุตรคนแรกหลังอายุ 30 ปี

ปัจจัยที่สามารถควบคุมได้

  • ได้รับรังสีบริเวณหน้าอกบ่อยครั้ง

  • ดื่มแอลกอฮอล์ตั้งแต่อายุน้อย

  • ใช้ยาคุมกำเนิดนานกว่า 4 ปี ก่อนตั้งครรภ์

  • ขาดการออกกำลังกาย

  • น้ำหนักเกิน

  • ให้นมบุตรรวมกันน้อยกว่า 3 เดือน


วิธีป้องกันมะเร็งเต้านม

  • ปัจจุบันยังไม่มีวิธีป้องกันที่เฉพาะเจาะจง

  • ทางที่ดีที่สุดคือ “การตรวจคัดกรอง” เพื่อค้นหาในระยะเริ่มต้น ซึ่งสามารถรักษาให้หายได้


แนวทางการตรวจคัดกรองที่แนะนำ

สำหรับสตรีทั่วไป

  • อายุ 20–40 ปี: ตรวจเต้านมด้วยตนเองทุกเดือน, ตรวจโดยแพทย์ทุก 3 ปี

  • อายุ 40 ปีขึ้นไป: ตรวจเต้านมด้วยตนเองทุกเดือน, ตรวจโดยแพทย์ปีละครั้ง และทำแมมโมแกรมทุก 1–2 ปี

สำหรับสตรีกลุ่มเสี่ยง

  • ตรวจเต้านมด้วยตนเองทุกเดือน

  • ตรวจโดยแพทย์ทุกปี

  • ถ่ายภาพแมมโมแกรมทุก 1–2 ปี ตามคำแนะนำแพทย์


การเตรียมตัวก่อนตรวจเอกซเรย์เต้านม

  • งดเครื่องดื่มหรือยาที่มีคาเฟอีนก่อนตรวจ

  • ห้ามใช้แป้ง โลชั่น หรือสเปรย์ระงับกลิ่นตัวบริเวณหน้าอกและรักแร้ เนื่องจากอาจส่งผลต่อภาพเอกซเรย์


ตรวจแมมโมแกรมควบคู่กับอัลตร้าซาวด์

ในกรณีที่ภาพเอกซเรย์ไม่ชัดเจน แพทย์อาจแนะนำให้ทำ อัลตร้าซาวด์เต้านม (Breast Ultrasound) เพื่อแยกความแตกต่างระหว่าง ก้อนเนื้อ (solid mass) กับ ถุงน้ำ (cystic mass)

❗ หมายเหตุ: อัลตร้าซาวด์ไม่สามารถใช้ตรวจ microcalcification ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกมะเร็งระยะเริ่มต้นได้


จุดเด่นของการตรวจ Mammogram ที่โรงพยาบาลวิภาวดี

  • ใช้เครื่องแมมโมแกรมระบบดิจิทัลคุณภาพสูง

  • ภาพคมชัด ช่วยให้แพทย์วินิจฉัยได้แม่นยำ

  • ลดการใช้รังสีเมื่อเทียบกับเครื่องรุ่นเก่า

  • แพทย์รังสีผู้ชำนาญการให้คำแนะนำอย่างละเอียด

  • เชื่อมต่อกับระบบ PACS เพื่อเก็บภาพและประวัติการตรวจอย่างปลอดภัย


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: ตรวจแมมโมแกรมเจ็บไหม?

A: อาจรู้สึกเจ็บหรือไม่สบายเล็กน้อยช่วงกดเต้านม แต่ใช้เวลาไม่นานและไม่เป็นอันตราย

Q: ควรตรวจช่วงไหนของรอบเดือน?

A: แนะนำให้ตรวจช่วง 7–10 วันหลังหมดประจำเดือน ซึ่งเต้านมจะไม่บวมหรือเจ็บ

Q: ใช้เวลานานไหมกว่าจะรู้ผล?

A: โดยทั่วไปสามารถทราบผลภายใน 1–2 วันทำการ