โรคกระดูกพรุนเป็นภัยเงียบที่ไม่มีอาการแสดงชัดเจนในระยะแรก แต่ส่งผลร้ายแรงได้เมื่อเกิดกระดูกหักตามมา โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ที่โรงพยาบาลวิภาวดี เรามีบริการตรวจวัดความหนาแน่นของมวลกระดูกด้วยเทคโนโลยี Bone Mineral Density (BMD) Test ที่แม่นยำและปลอดภัย ช่วยให้สามารถวินิจฉัยโรคกระดูกพรุนได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น พร้อมวางแผนการป้องกันและรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Bone Mineral Density Test หรือ การตรวจวัดความหนาแน่นของมวลกระดูก เป็นการตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์พลังงานคู่ (Dual-Energy X-ray Absorptiometry หรือ DXA) ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐานในการประเมินความแข็งแรงของกระดูก โดยเครื่องจะวัดปริมาณแร่ธาตุในกระดูกบริเวณที่เสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหัก เช่น กระดูกสันหลัง สะโพก หรือข้อมือ เพื่อวินิจฉัยโรคกระดูกพรุน หรือประเมินความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหักในอนาคต
แผนกรังสีวินิจฉัย โรงพยาบาลวิภาวดี ให้บริการตรวจวัดความหนาแน่นของกระดูกทุกวัน โดยเครื่องวัดความหนาแน่นกระดูกที่ทันสมัยของ HOLOGIC ซึ่งเป็นชนิดใช้พลังรังสีเอกซ์ 2 ค่าพลังงาน (DXA) ทำให้สามารถตรวจกระดูกส่วนที่หนาๆได้ เช่น กระดูกสันหลัง กระดูกข้อสะโพก ทำไมเราจึงต้องวัดความหนาแน่นของกระดูก
**เครื่องวัดความหนาแน่นของกระดูกสามารถตรวจเช็คปริมาณความหนาแน่นของกระดูกได้ และทำให้สามารถวางแผนป้องกันและสามารถรักษาโรคกระดูกพรุนได้อย่างถูกต้อง**
คือภาวะที่กระดูกมีเนื้อกระดูกที่มีความหนาแน่นน้อย ทำให้มีโอกาสกระดูกแตกหัก หรือยุบตัวได้ กระดูกปกติจะมีโครงสร้างเส้นใย ที่มีโพรงเป็นตาข่ายในเนื้อกระดูก เมื่อเกิดกระดูกโพรงระหว่างเส้นใยจะใหญ่ขึ้น ทำให้เกิดการแตกของกระดูกได้ง่าย กระดูกจะไม่สามารถตั้งตรงได้ เช่น กระดูกสันหลัง เมื่อเกิดเป็นโรคกระดูกพรุนจะยุบตัวทำให้หลังงอผิดปกติ เสียบุคลิกภาพไป โรคกระดูกพรุนโดยทั่วไปมักพบในคนอายุมากประมาณ 50 ปีขึ้นไป และในสตรีวัยหมดประจำเดือน
• อายุมาก
• วัยหมดประจำเดือน
• ขาดแคลเซียม (Ca)
• การรักษาโรคบางชนิดด้วยฮอร์โมน หรือ Steroid
• มีประวัติครอบครัวเป็นโรคกระดูกพรุน
มีหลายวิธี แต่วิธีที่ง่ายที่สุด คือ ใช้เครื่องวัดความหนาแน่นกระดูก สามารถทราบผลได้ทันที เครื่องมือตรวจวัดความหนาแน่นกระดูกที่ทันสมัย มีรายละเอียดของเครื่องดังนี้
• สามารถตรวจ ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้เกือบทั้งหมด
• ใช้เวลาตรวจน้อย
• ภาพคมชัดและถูกต้องแม่นยำ
• ปริมาณรังสีต่ำ เพียงเท่ากับ เมื่อได้รับขณะอยู่บนเครื่องบินใครต้องตรวจบ้าง
• เมื่อคุณรู้สึกว่ากระดูกสันหลังผิดปกติ
• มีปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมน เช่น โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ (Hyperthyroid)
• ผู้หญิงที่มีระดับเอสโตรเจน (Estrogen) ต่ำ และวัยหมดประจำเดือน
• คนผอมมาก ๆ
• คนที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคกระดูกพรุน
• คนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย
• คนที่ดื่มเครื่องดื่มที่มี Alcohol เป็นประจำทำอย่างไรบ้าง ถ้าคุณเป็นโรคกระดูกพรุน
• แพทย์จะอธิบายวิธีการป้องกันและการรักษาที่ถูกต้อง
• การออกกำลังกายทุกวัน ร่างกายจะสร้างแคลเซียม และเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มี Alcohol และงดการสูบบุหรี่ จะช่วยลดอัตราการเกิดโรคกระดูกพรุน
• ไม่ต้องเตรียมตัวอะไร รับประทานอาหารได้ตามปกติ
• ถ้ากำลังให้ยา Thyroid โปรดแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ทราบ
• กำลังกินแคลเซียม โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบ
• ถ้ามีการตรวจทางรังสีด้วยแบเรียมมาก่อน ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อนัดตรวจ
• การตรวจระบบไตด้วยสารทึบรังสี ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อนัดตรวจ
• การตรวจร่างกายด้วยสารกัมมันตรังสี บริเวณใกล้กับกระดูกสันหลังส่วนเอว ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อนัด
ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคกระดูกพรุน
ผู้ที่มีน้ำหนักตัวน้อยหรือผอมเกินไป
ผู้ที่สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ หรือได้รับสเตียรอยด์ระยะยาว
ผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุหรือมีกระดูกหักโดยไม่ทราบสาเหตุ
ผู้ชายอายุ 70 ปีขึ้นไป หรือผู้หญิงอายุ 65 ปีขึ้นไป
✅ T-score มากกว่า -1 = มวลกระดูกปกติ
⚠️ T-score ระหว่าง -1 ถึง -2.5 = ความหนาแน่นกระดูกต่ำ (osteopenia)
❗ T-score น้อยกว่า -2.5 = โรคกระดูกพรุน (osteoporosis)
การทราบค่าดังกล่าวช่วยให้สามารถวางแผนป้องกันหรือรักษาได้ทันท่วงที ลดโอกาสเกิดกระดูกหักในอนาคต
โรงพยาบาลวิภาวดีให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพกระดูกโดยเฉพาะในผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยง ด้วยเครื่องตรวจ BMD รุ่นใหม่ที่มีความแม่นยำสูงและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านกระดูกและข้อ เราพร้อมให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดทั้งก่อนและหลังการตรวจ เพื่อให้คุณมีสุขภาพกระดูกที่แข็งแรง ห่างไกลโรคกระดูกพรุนในระยะยาว
นโยบายความเป็นส่วนตัว | นโยบาย คุกกี้
Copyright © Vibhavadi Hospital. All right reserved