อาการปวดท้องเป็นอาการที่ใครหลายคนล้วนเคยเป็นแน่นอน แต่อาการปวดท้องอาจไม่ใช่แค่อาการปวดท้องธรรมดา เพราะมะเร็งกระเพาะอาหารเป็นโรคที่ไม่มีอาการในระยะแรกๆ แต่จริงๆ แล้วโรคมะเร็งกระเพาะอาหารเป็นโรคที่คร่าชีวิตคนไทยเป็นอันดับต้นๆ บทความนี้จะพาคุณรู้จักอาการของมะเร็งกระเพาะอาหารตั้งแต่ระยะแรก พร้อมแนวทางลดความเสี่ยงก่อนโรคลุกลาม และวิธีรักษาเพื่อดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน
โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร (Gastric Cancer/Stomach Cancer) คือโรคที่มีอาการเริ่มต้นคล้ายกับโรคกระเพาะอาหารอักเสบหรืออาหารไม่ย่อย โดยความเสี่ยงของโรคจะเพิ่มขึ้นตามอายุ โดยพบมากในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และมักเกิดในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป
การวินิจฉัยโรคมะเร็งกระเพาะอาหารสามารถทำได้ด้วยการส่องกล้องกระเพาะอาหารพร้อมตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ หากพบในระยะที่สามารถผ่าตัดได้ โอกาสที่กระเพาะอาหารจะหายขาดจากมะเร็งก็สูง แต่ส่วนใหญ่มักพบเจอเมื่อเชื้อมะเร็งลุกลามแล้ว
สำหรับอาการของโรคมะเร็งกระเพาะอาหารที่อาจสังเกตได้ ในระยะแรกอาจสับสนกับโรคกระเพาะทั่วไป โดยมีสัญญาณเตือนถึงมะเร็งกระเพาะอาหาร ได้แก่
แต่หากโรคมะเร็งกระเพาะอาหารเริ่มลุกลามมากขึ้น จะมีอาการอื่นๆ เพิ่มเติม ดังนี้
แม้สาเหตุของมะเร็งกระเพาะอาหารยังไม่แน่ชัด แต่เชื่อว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมของเซลล์เยื่อบุผนังกระเพาะอาหาร ทำให้เซลล์แบ่งตัวผิดปกติและควบคุมไม่ได้ จนกลายเป็นเซลล์มะเร็ง ซึ่งสามารถเกิดได้ทุกส่วนของกระเพาะอาหาร และลุกลามไปยังอวัยวะอื่น เช่น ตับ ตับอ่อน ปอด ลำไส้ รังไข่ และต่อมน้ำเหลือง
การแบ่งระยะอาการของโรคมะเร็งกระเพาะอาหารจะดูจากตำแหน่งและการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง โดยแบ่งออกเป็นระยะแรกถึงระยะที่ 4 ดังนี้
ปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร มีหลายปัจจัยร่วมกัน ซึ่งสามารถส่งผลให้เกิดมะเร็งได้ดังนี้
การตรวจวินิจฉัยมะเร็งในกระเพาะอาหารมีขั้นตอนการวินิจฉัยหลักๆ ดังนี้
มะเร็งกระเพาะอาหารสามารถรักษาให้หายได้ไหม? สามารถรักษาให้หายได้ โดยแพทย์จะพิจารณาาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วย ตามอาการ ระยะของโรค สภาพร่างกาย และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษามะเร็งกระเพาะอาหาร ดังนี้
การรักษามะเร็งกระเพาะอาหารวิธีนี้แพทย์มักแนะนำเพื่อจำกัดและควบคุมมะเร็งไม่ให้ลุกลาม เป็นการตัดเนื้อร้ายออก พิจารณาตามเงื่อนไขของคนไข้ และบางส่วนของกระเพาะอาหารอาจถูกตัดออกไปด้วย โดยวิธีผ่าตัดมีหลายรูปแบบ ดังนี้
การรักษามะเร็งด้วยการฉายรังสีบำบัด เป็นการฉายแสงพลังงานสูงเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
การรักษามะเร็งกระเพาะอาหารด้วยเคมีบำบัด เป็นการบรรเทาอาการผู้ป่วยที่อยู่ในระยะลุกลาม เพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งไม่ให้ลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายและไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
การรักษาวิธีนี้จะมุ่งเป้าไปที่โปรตีนเฉพาะบนเซลล์มะเร็ง เช่น HER2 หรือ VEGFR2 ซึ่งพบในมะเร็งกระเพาะอาหารบางชนิด โดยตัวยาแบบมุ่งเป้าเข้าไปทำลายเฉพาะเซลล์มะเร็งที่มีโปรตีนตัวดังกล่าว ด้วยการขัดขวางกลไกของตัวรับโปรตีนในเซลล์โดยตรง ไม่สามารถเติบโตและแบ่งตัวได้ ไม่ส่งผลกระทบต่อเซลล์ปกติ ทั้งยังช่วยลดผลข้างเคียงจากการรักษาแบบทั่วไป
วิธีนี้เป็นการรักษาที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้สามารถจดจำและทำลายเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยาจะยับยั้งโปรตีนบางชนิดที่เซลล์มะเร็งสร้างขึ้น เพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันกลับมาทำหน้าที่ในการต่อต้านเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูกลับมาต่อต้านเซลล์มะเร็งในกระเพาะอาหารได้
ถึงแม้อาการของมะเร็งกระเพาะอาหารในระยะแรกจะทำให้สับสนกับอาการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร แต่เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร มีวิธีดังนี้
หากกำลังมองหาโรงพยาบาลในการตรวจสุขภาพหรือรักษามะเร็งกระเพาะอาหาร รวมถึงโรคในระบบทางเดินอาหารอื่นๆโรงพยาบาลวิภาวดีพร้อมให้บริการแบบครบวงจร ทั้งบริการซักประวัติ ตรวจวินิจฉัย และทำการรักษาอย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพด้วยแพทย์เฉพาะทางด้านระบบทางเดินอาหาร นี่คือเหตุผลสำคัญที่ควรเลือกไว้วางใจการรักษาที่นี่
การตรวจคัดกรองมะเร็งกระเพาะอาหารที่โรงพยาบาลวิภาวดีจะมีบริการตรวจหาเชื้อ Helicobactor Pylori ซึ่งเป็นเชื้อที่ทำให้กระเพาะอาหารเกิดการอักเสบเรื้อรัง เป็นแผลในกระเพาะอาหาร เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหารมากขึ้น โดยใช้วิธีการตรวจทางลมหายใจ (Urea Breath Test) เพื่อประกอบการตรวจวินิจฉัยต่อไป
การรักษามะเร็งกระเพาะอาหารโดยโรงพยาบาลวิภาวดีจะเริ่มตั้งแต่การตรวจหาเชื้อ Helicobactor Pylori การส่องกล้องทางเดินอาหาร ส่วนต้น (Esophagogastroduodenoscopy) ตัดชิ้นเนื้อในกระเพาะอาหารเพื่อนำไปตรวจทางพยาธิวิทยา และรักษามะเร็งกระเพาะอาหาร ทางเดินอาหารด้วยการผ่าตัดและให้ยาในการรักษา
โรงพยาบาลวิภาวดีมีแพทย์ผู้เฉพาะทางในด้านทางเดินอาหารที่มากไปด้วยประสบการณ์การรักษาโรคระบบทางเดินอาหาร มะเร็งกระเพาะอาหาร และโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร พร้อมให้คำแนะนำ ตรวจวินิจฉัย และรักษาอย่างตรงจุด
โดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญ พร้อมดูแลผู้ป่วยแต่ละรายด้วยแนวทางที่เหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและสุขภาพที่ดีในระยะยาว
หากคุณต้องการติดต่อโรงพยาบาลวิภาวดี เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยอาการเจ็บป่วยเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร กระเพาะอาหาร หรือตรวจคัดกรองมะเร็งกระเพาะอาหาร สามารถสอบถามรายละเอียดและนัดหมายล่วงหน้าที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-058-1111, 02-561-1111 ต่อ 4525 หรือ 4534 ในเวลาทำการวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07:00-20:00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08:30-19:30 น.
มะเร็งกระเพาะอาหารรักษาหายไหม? หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการรักษาโรคนี้ หรือต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม สามารถเข้ามาติดต่อสอบถามกับโรงพยาบาลวิภาวดีได้โดยตรง ทางโรงพยาบาลมีโปรแกรมตรวจวินิจฉัยและรักษามะเร็งกระเพาะอาหารที่หลากหลาย ออกแบบให้เหมาะสมกับอาการของผู้ป่วยแต่ละราย เพื่อการดูแลที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ
มะเร็งกระเพาะอาหารเป็นมะเร็งที่ระยะแรกเริ่มด้วยด้วยอาการคล้ายกับโรคกระเพาะหรืออาหารไม่ย่อย มักพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และคนที่มีอายุเกิน 40 ปี มีสาเหตุที่ไม่แน่ชัดในปัจจุบัน อาจมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Helicobacter pylori ซึ่งเป็นเชื้อสามารถพัฒนาไปเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้ รวมถึงอาการกรดไหลย้อน แผลในกระเพาะ โดยการวินิจฉัยสามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน เช่น การส่องกล้องทางเดินอาหาร การใช้ CT Scan ฯลฯ ในการรักษามีหลายวิธีโดยแพทย์จะรักษาตามระยะความรุนแรงของโรค โดยมีทั้งการผ่าตัด การฉายรังสี เคมีบำบัด การใช้ยามะเร็งแบบมุ่งเป้า และใช้ภูมิคุ้มกันบำบัด
หากสังเกตอาการผิดปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร รู้สึกปวดท้อง หรือต้องการรับการตรวจคัดกรองมะเร็งกระเพาะอาหารสามารถตรวจรักษาได้ที่โรงพยาบาลวิภาวดีพร้อมด้วยโปรแกรมการรักษาโรคที่ครอบคลุม และคำวินิจฉัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างปลอดภัย ตรงจุด
วันนี้เราได้รวบรวมคำถามและข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร พร้อมคำตอบสำหรับสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับมะเร็งกระเพาะอาหาร เพื่อสุขภาพการย่อยอาหารที่ดี
สำหรับมะเร็งกระเพาะอาหารระยะสุดท้าย การรักษาจะเน้นไปที่การประคับประคองเพื่อลดความทุกข์ทรมานและบรรเทาอาการ โดยทั่วไปมักมีระยะเวลาในการใช้ชีวิตต่อประมาณ 6-12 เดือน แต่ในบางรายที่ได้รับการดูแลและรักษาอย่างเหมาะสมอาจอยู่ได้นานกว่านั้น
โรคในระบบทางเดินอาหารมักมีอาการที่คล้ายกันในระยะแรกๆ เช่น ปวดท้อง จุกแน่น ท้องอืด อาหารไม่ค่อยย่อย คลื่นไส้ และเบื่ออาหาร ทำให้มักถูกมองข้ามคิดว่าเป็นโรคทั่วไป จึงควรสังเกตอาการผิดปกติอย่างต่อเนื่องและพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด
แผลในกระเพาะอาหารเกิดจากเยื่อบุกระเพาะถูกกรดและน้ำย่อยทำลาย มาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Helicobacter pylori และการใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs เช่น แอสไพริน หากแผลเกิดจากเชื้อดังกล่าว และกลายเป็นแผลเรื้อรังหรืออักเสบบ่อยๆ จะเพิ่มความเสี่ยงในการพัฒนาเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหารสูงขึ้นถึง 3-6 เท่า
การตรวจคัดกรองมะเร็งกระเพาะอาหารด้วยการส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนบน เป็นวิธีที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพสูง สามารถตรวจสอบความผิดปกติก่อนเกิดเป็นมะเร็งได้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่คนในครอบครัวมีประวัติเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร ควรเข้ารับการตรวจทุก 3 ปี
นโยบายความเป็นส่วนตัว | นโยบาย คุกกี้
Copyright © Vibhavadi Hospital. All right reserved