มะเร็งลำไส้ใหญ่

  • มะเร็งลำไส้ใหญ่คือโรคที่เกิดจากการเจริญเติบโตผิดปกติของเซลล์ในลำไส้ใหญ่ อาการที่พบ เช่น ถ่ายผิดปกติ ปวดท้องเรื้อรัง มีเลือดในอุจจาระ และน้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • สาเหตุของมะเร็งลำไส้ใหญ่เกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน เช่น อายุ พันธุกรรม ติ่งเนื้อในลำไส้ การรับประทานอาหารไขมันสูง ใยอาหารต่ำ และพฤติกรรมไม่ออกกำลังกาย
  • มะเร็งลำไส้ใหญ่แบ่งเป็น 4 ระยะ ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงลุกลาม รักษาด้วยการผ่าตัด เคมีบำบัด ฉายรังสี หรือการรักษาแบบมุ่งเป้า ตามความรุนแรงของโรคและการวินิจฉัยของแพทย์

มะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นหนึ่งในโรคร้ายที่สามารถลุกลามโดยไม่แสดงอาการเด่นชัดในระยะแรก หากไม่ได้รับการตรวจคัดกรองหรือใส่ใจสัญญาณเตือนตั้งแต่ต้น ก็อาจทำให้การรักษาเป็นไปอย่างยากลำบาก การรู้เท่าทันปัจจัยเสี่ยงว่ามะเร็งลําไส้ใหญ่เกิดจากอะไร? เข้าใจมะเร็งลําไส้ใหญ่อาการระยะแรก และตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้สามารถรับมือกับโรคนี้ได้อย่างทันท่วงที

บทความต่อไปนี้จะพาคุณทำความเข้าใจเกี่ยวกับมะเร็งลำไส้ใหญ่อย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุ อาการ การแบ่งระยะของโรค แนวทางการวินิจฉัยและการรักษา รวมถึงทางเลือกการรักษากับโรงพยาบาลวิภาวดีที่มุ่งมั่นดูแลสุขภาพของคุณอย่างมืออาชีพและครอบคลุมทุกด้าน

มะเร็งลำไส้ใหญ่คืออะไร?

มะเร็งลำไส้ใหญ่คืออะไร?

มะเร็งลำไส้ใหญ่ (Colorectal Cancer) คือโรคที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์เยื่อบุภายในลำไส้ใหญ่หรือทวารหนัก ซึ่งเซลล์เหล่านี้มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและควบคุมไม่ได้ จนก่อเป็นก้อนเนื้อร้ายหรือเนื้องอกมะเร็ง หากไม่ได้รับการรักษา มะเร็งลําไส้ใหญ่อาจมีอาการที่สามารถลุกลามเข้าสู่อวัยวะใกล้เคียง หรือลามไปยังส่วนอื่นของร่างกายผ่านระบบน้ำเหลืองหรือกระแสเลือดได้

มะเร็งลำไส้ใหญ่เกิดจากติ่งเนื้อที่ผนังลำไส้ ซึ่งในระยะแรกมักไม่แสดงอาการใดๆ แต่สามารถพัฒนาเป็นมะเร็งได้เมื่อเวลาผ่านไป การตรวจพบและตัดติ่งเนื้อออกตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นวิธีสำคัญในการป้องกันโรคนี้

อาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่

อาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่

มะเร็งลําไส้ใหญ่อาการจะค่อยๆ แสดงออกอย่างช้าๆ และอาจคล้ายกับอาการของโรคทางเดินอาหารทั่วไป อย่างไรก็ตามหากอาการเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย โดยอาการที่พบบ่อย ได้แก่

  • ถ่ายอุจจาระผิดปกติ เช่น ท้องผูกสลับท้องเสีย หรือถ่ายไม่สุดติดต่อกันหลายวัน
  • ลักษณะอุจจาระเปลี่ยนไป เช่น อุจจาระมีลักษณะแบนหรือเล็กลงผิดปกติ
  • มีเลือดปนในอุจจาระ อาจเป็นเลือดสดหรือเลือดแห้ง สีคล้ำ
  • ปวดท้องเรื้อรัง แน่นท้อง จุกเสียด หรือมีแก๊สในกระเพาะผิดปกติ
  • รู้สึกปวดถ่ายตลอดเวลา แม้ถ่ายออกไปแล้วก็ยังรู้สึกไม่สุด
  • น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย โลหิตจาจากการเสียเลือดเรื้อรังโดยไม่รู้ตัว

มะเร็งลำไส้ใหญ่เกิดจากอะไร?

มะเร็งลำไส้ใหญ่เกิดจากอะไร?

สาเหตุของมะเร็งลำไส้ใหญ่อาจยังไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัดในทุกกรณี แต่มีหลายปัจจัยที่มะเร็งลําไส้ใหญ่เกิดจากความเสี่ยงดังต่อไปนี้

  • อายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป
  • มีติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ ซึ่งอาจพัฒนาเป็นมะเร็งหากไม่ได้รับการรักษา
  • ประวัติครอบครัว หากมีคนในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือมีภาวะผิดปกติทางพันธุกรรมบางอย่าง
  • รับประทานอาหารไขมันสูง ใยอาหารต่ำ โดยเฉพาะเนื้อแดงและเนื้อแปรรูป
  • ไม่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  • น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน
  • สูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
  • มีประวัติโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง เช่น โรคโครน (Crohn's disease) หรืออัลเซอเรทีฟโคลิติส (Ulcerative colitis)

มะเร็งลำไส้ใหญ่ มีทั้งหมดกี่ระยะ

มะเร็งลำไส้ใหญ่ มีทั้งหมดกี่ระยะ

มะเร็งลำไส้ใหญ่แบ่งออกเป็น 4 ระยะตามความรุนแรงและการลุกลามของเซลล์มะเร็ง ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

  • ระยะที่ 1 มะเร็งลําไส้ใหญ่อาการในระยะแรกจะมีเซลล์มะเร็งที่เริ่มก่อตัวบนเยื่อบุด้านในของลำไส้ใหญ่และลุกลามเข้าสู่ชั้นกล้ามเนื้อ แต่ยังไม่แพร่กระจายไปต่อมน้ำเหลืองหรืออวัยวะอื่น
  • ระยะที่ 2 มะเร็งลุกลามลึกขึ้นผ่านผนังลำไส้หรืออาจทะลุถึงเนื้อเยื่อรอบๆ แต่ยังไม่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลือง
  • ระยะที่ 3 มะเร็งแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียง แต่ยังไม่ลามไปยังอวัยวะอื่น
  • ระยะที่ 4 มะเร็งลุกลามไปยังอวัยวะอื่นของร่างกาย เช่น ตับ ปอด หรืออวัยวะที่อยู่ห่างไกล ถือเป็นระยะที่รุนแรงที่สุด

วิธีตรวจวินิจฉัยมะเร็งลำไส้ใหญ่

วิธีตรวจวินิจฉัยมะเร็งลำไส้ใหญ่

การตรวจวินิจฉัยมะเร็งลำไส้ใหญ่มีหลายวิธี โดยแพทย์จะพิจารณาเลือกตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล ซึ่งวิธีที่ใช้บ่อย ได้แก่

  • การตรวจอุจจาระ (Fecal Occult Blood Test: FOBT)ตรวจหาเลือดที่ปนในอุจจาระ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของมะเร็งระยะเริ่มต้น
  • การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy)ใช้กล้องขนาดเล็กตรวจดูภายในลำไส้ใหญ่โดยตรง หากพบติ่งเนื้อสามารถตัดส่งตรวจชิ้นเนื้อได้ทันที
  • การตรวจชิ้นเนื้อ (Biopsy)เมื่อตรวจพบความผิดปกติ แพทย์จะตัดชิ้นเนื้อจากลำไส้ส่งตรวจทางพยาธิวิทยาเพื่อยืนยันการเป็นมะเร็ง
  • เอกซเรย์หรือซีทีสแกนช่องท้อง (CT Scan)ใช้ประเมินการลุกลามของโรค หรือดูว่ามีการกระจายไปยังอวัยวะอื่นหรือไม่
  • การตรวจเลือดหาสารบ่งชี้มะเร็ง (CEA Test)ช่วยติดตามผลการรักษาและตรวจสอบการกลับมาเป็นซ้ำของโรค

การรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่

การรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่

การรักษามะเร็งลําไส้ใหญ่ขึ้นอยู่กับระยะอาการของโรค สภาพร่างกายของผู้ป่วย และดุลยพินิจของแพทย์ โดยมีวิธีการรักษาหลักๆ ดังนี้

  • การผ่าตัด เป็นวิธีหลักในการรักษา โดยการตัดส่วนของลำไส้ที่มีเนื้องอกออก พร้อมกับต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียง
  • การให้เคมีบำบัด ใช้ยาเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง เหมาะสำหรับมะเร็งระยะลุกลาม หรือใช้ร่วมกับการผ่าตัด
  • การฉายรังสี ใช้ร่วมกับเคมีบำบัดในกรณีที่มะเร็งอยู่ในตำแหน่งทวารหนัก เพื่อช่วยลดขนาดก้อนมะเร็งก่อนผ่าตัด
  • การรักษาแบบมุ่งเป้า ใช้ยาเฉพาะเจาะจงที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยมักใช้ในผู้ป่วยระยะลุกลาม
  • การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด เป็นทางเลือกสำหรับผู้ป่วยบางกลุ่มที่มีลักษณะทางพันธุกรรมเฉพาะ

การรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ ที่โรงพยาบาลวิภาวดี

การรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ ที่โรงพยาบาลวิภาวดี

โรงพยาบาลวิภาวดีให้ความสำคัญกับการดูแลผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่อย่างรอบด้าน ตั้งแต่การตรวจคัดกรอง วินิจฉัย ไปจนถึงการรักษาโดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านระบบทางเดินอาหารและมะเร็งวิทยา พร้อมเครื่องมือที่ทันสมัย และมีแผนการรักษาที่ออกแบบเฉพาะบุคคล นอกจากนี้ยังมีโปรโมชันและสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ป่วย การเลือกเข้ารับการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ที่โรงพยาบาลวิภาวดีมีข้อดีที่หลากหลาย ได้แก่

  • โรงพยาบาลได้มาตรฐานระดับสากล ISO 9001:2008 และผ่านการรับรองคุณภาพจาก Hospital Accreditation (HA)
  • มีศูนย์เฉพาะทางสำหรับโรคระบบทางเดินอาหารและมะเร็ง พร้อมการดูแลแบบสหสาขาวิชาชีพ
  • ตรวจวินิจฉัยและรักษาโดยทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์สูง
  • ใช้เทคโนโลยีการรักษาทันสมัย เช่น กล้องส่องลำไส้ การผ่าตัดผ่านกล้อง การให้เคมีบำบัดและการฉายรังสีที่แม่นยำ
  • มีบริการดูแลฉุกเฉินสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการเฉียบพลัน พร้อมรองรับสิทธิประกันสุขภาพที่หลากหลาย
  • ห้องพักผู้ป่วยสะอาด สงบ เป็นส่วนตัว ช่วยให้ผู้ป่วยพักฟื้นได้อย่างเต็มที่

สำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับการตรวจหรือรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ สามารถติดต่อโรงพยาบาลวิภาวดีได้ที่ 51/3 ถ.งามวงศ์วาน เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์นัดหมาย 02-561-1111 หรือ 02-058-1111 สำหรับตัวแทนประกันชีวิต ติดต่อผ่าน LINE: @vibhainsurance

สรุป

มะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นโรคที่สามารถป้องกันและรักษาได้หากตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มต้น มะเร็งลำไส้ใหญ่มีอาการที่ควรสังเกต ได้แก่ การขับถ่ายผิดปกติ มีเลือดปนในอุจจาระ ปวดท้องเรื้อรัง หรือรู้สึกอ่อนเพลียโดยไม่ทราบสาเหตุ ปัจจัยเสี่ยงสำคัญ เช่น อายุ พฤติกรรมการกิน และประวัติครอบครัว การตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด เช่น การส่องกล้อง ตรวจชิ้นเนื้อ และการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ จึงเป็นสิ่งจำเป็น

โรงพยาบาลวิภาวดีให้บริการตรวจคัดกรอง วินิจฉัย และรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่โดยทีมแพทย์เฉพาะทาง พร้อมเทคโนโลยีทันสมัย ห้องพักได้มาตรฐาน และสิทธิประกันครอบคลุมหลายรูปแบบ

FAQ

หลายคนมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสาเหตุของมะเร็งลำไส้ใหญ่ อาการในแต่ละระยะ และแนวทางการรักษา ในส่วนนี้ได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อย พร้อมคำตอบกระชับ เข้าใจง่าย เพื่อให้สามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจดูแลสุขภาพได้อย่างถูกต้อง

สาเหตุของมะเร็งลำไส้ใหญ่

มะเร็งลำไส้ใหญ่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในลำไส้ที่ผิดปกติ ร่วมกับปัจจัยเสี่ยง เช่น อายุ พันธุกรรม การรับประทานเนื้อแดง ไขมันสูง และการไม่ออกกำลังกาย

มะเร็งลำไส้ใหญ่แต่ละระยะ อาการต่างกันอย่างไร

มะเร็งลำไส้ใหญ่อาการระยะแรกจะไม่แสดงชัดเจน แต่ระยะลุกลามจะเริ่มมีอาการถ่ายผิดปกติ มีเลือดปนในอุจจาระ ปวดท้อง น้ำหนักลด และอ่อนเพลียมากขึ้นตามลำดับ

มะเร็งลำไส้ใหญ่รักษาอย่างไร?

การรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่หลักๆ ประกอบด้วยการผ่าตัด เคมีบำบัด ฉายรังสี และการรักษาแบบมุ่งเป้าหรือภูมิคุ้มกัน ขึ้นอยู่กับระยะของโรคและสุขภาพของผู้ป่วยด้วย

“ภูมิใจที่ได้ดูแลคุณ”

สอบถามรายละเอียดและนัดหมายล่วงหน้าที่

02-561-1111

02-058-1111


ทีมแพทย์มะเร็งลำไส้ใหญ่