Key Takeaway
เมื่อการควบคุมอาหารและออกกำลังกายอาจยังไม่พอสำหรับบางคน การผ่าตัดกระเพาะอาหารจึงกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยลดน้ำหนักได้จริง ปลอดภัย และยั่งยืน โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะอ้วนเรื้อรังหรือโรคร่วมที่เสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพ บทความนี้จะพาไปรู้จักการผ่าตัดกระเพาะแบบเจาะลึก พร้อมประโยชน์ ข้อควรรู้ และการเตรียมตัวก่อน-หลังอย่างครบถ้วน
การผ่าตัดกระเพาะอาหาร (Bariatric Surgery) เป็นการรักษาที่ใช้วิธีการผ่าตัดเพื่อปรับเปลี่ยนขนาดหรือการทำงานของกระเพาะอาหารและทางเดินอาหารบางส่วน ทำให้ผู้เข้ารับการผ่าตัดรับประทานอาหารได้น้อยลง และร่างกายดูดซึมสารอาหารบางชนิดได้น้อยลงด้วย ซึ่งช่วยให้ลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ การผ่าตัดกระเพาะอาหารแตกต่างจากการลดน้ำหนักแบบทั่วไป เช่น การควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย หรือใช้ยา เพราะเป็นวิธีที่มีผลทางกายภาพโดยตรงต่อระบบย่อยอาหาร
ซึ่งวิธีนี้มักได้ผลลัพธ์ของการลดน้ำหนักที่ชัดเจนและรวดเร็วมากกว่าการลดน้ำหนักด้วยวิธีธรรมชาติ จุดประสงค์หลักของการผ่าตัดกระเพาะอาหารมีทั้งเพื่อลดน้ำหนักในผู้ที่มีภาวะอ้วนรุนแรง และเพื่อช่วยรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับความอ้วน เช่น เบาหวานความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หรือโรคหัวใจ โดยการผ่าตัดไม่เพียงแต่ช่วยลดน้ำหนัก แต่ยังสามารถปรับปรุงสุขภาพโดยรวมและลดความเสี่ยงจากโรคร้ายแรงได้อีกด้วย
ผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนักเหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคอ้วนสูงและต้องการวิธีลดน้ำหนักที่ได้ผลอย่างยั่งยืน สำหรับผู้ที่เหมาะจะทำ ได้แก่
การผ่าตัดกระเพาะอาหารมีประโยชน์หลายด้าน ทั้งช่วยลดน้ำหนักและปรับปรุงสุขภาพโดยรวม ดังนี้
ก่อนการผ่าตัดกระเพาะอาหาร การเตรียมตัวที่เหมาะสมมีความสำคัญเพื่อให้การผ่าตัดปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ดังนี้
การผ่าตัดกระเพาะอาหารมีหลายวิธี โดยแต่ละวิธีมีจุดเด่นและเหมาะกับผู้เข้ารับการผ่าตัดที่แตกต่างกัน ดังนี้
เป็นการตัดกระเพาะอาหารออกประมาณ 70-80% เหลือเพียงส่วนแคบเหมือนท่อ ทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลงและลดความหิว วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่มีดัชนีมวลกายสูงมาก (BMI ≥35) หรือมีโรคที่เกี่ยวข้องกับความอ้วน ผ่าตัดกระเพาะพักฟื้นกี่วันหากใช้วิธีนี้? ใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์
เป็นการสร้างกระเพาะอาหารขนาดเล็กและเชื่อมต่อกับลำไส้เล็กส่วนกลาง ทำให้ร่างกายดูดซึมแคลอรีน้อยลง วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่มี BMI สูงมากหรือมีโรคเบาหวานรุนแรง ผ่าตัดกระเพาะพักฟื้นกี่วันหากใช้วิธีนี้? ใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 2-4 สัปดาห์
คล้ายกับบายพาสแบบ Roux-en-Y แต่ขั้นตอนง่ายกว่า เชื่อมกระเพาะขนาดเล็กเข้ากับลำไส้เล็กเพียงจุดเดียว วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักแบบเห็นผลรวดเร็ว และมีโรคอ้วนรุนแรง ผ่าตัดกระเพาะพักฟื้นกี่วันหากใช้วิธีนี้? ใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1-3 สัปดาห์
เป็นการสอดบอลลูนซิลิโคนเข้าไปในกระเพาะอาหารผ่านทางปากและกลืนลงไป จากนั้นเติมน้ำเกลือหรือแก๊สให้บอลลูนขยาย วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักปานกลางหรือเริ่มต้นลดน้ำหนัก ผ่าตัดกระเพาะพักฟื้นกี่วันหากใช้วิธีนี้? ใช้เวลาพักฟื้นเพียงไม่กี่วัน
หลังการผ่าตัดกระเพาะอาหาร การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมมีความสำคัญต่อการฟื้นตัวและผลลัพธ์การลดน้ำหนัก ดังนี้
ก่อนตัดสินใจผ่าตัดกระเพาะอาหาร ควรเข้าใจข้อควรรู้และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้
โรงพยาบาลวิภาวดีให้บริการผ่าตัดกระเพาะอาหาร โดยแพทย์เฉพาะทาง และใช้เทคโนโลยีทันสมัย ช่วยลดขนาดกระเพาะ ทำให้ผู้ป่วยอิ่มเร็ว รับประทานอาหารน้อยลง ส่งผลให้น้ำหนักลดและสุขภาพดีขึ้น ก่อนผ่าตัด ผู้ป่วยจะเข้ารับการประเมินสุขภาพอย่างละเอียด เช่น ตรวจเลือด อัลตราซาวนด์ ส่องกล้องกระเพาะอาหาร และตรวจหัวใจ-ปอด เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม หลังผ่าตัด แพทย์และนักโภชนาการจะแนะนำการรับประทานอาหารและการดูแลตัวเอง เพื่อให้ผลลัพธ์การรักษาได้ผลดีที่สุ
การผ่าตัดกระเพาะอาหารเป็นวิธีลดน้ำหนักที่เหมาะกับผู้ที่ BMI สูง หรือมีโรคที่เกี่ยวข้องกับความอ้วน เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง มีหลายวิธีทั้งสลีฟ บายพาส มินิบายพาส และบอลลูนกระเพาะ แต่ละวิธีมีข้อดีและระยะพักฟื้นต่างกัน จุดประสงค์คือลดน้ำหนักและปรับปรุงสุขภาพ ก่อนผ่าตัดต้องตรวจร่างกาย ปรึกษาโภชนาการ และปรับพฤติกรรมเสี่ยง หลังผ่าตัดต้องควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย กินวิตามิน และติดตามแพทย์ พร้อมเข้าใจผลข้างเคียงที่อาจเกิด เช่น เลือดออก ติดเชื้อ กรดไหลย้อน ขาดสารอาหาร เพื่อผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพ
หากคุณสนใจข้อมูลเพิ่มเติมหรือปรึกษาเกี่ยวกับการผ่าตัดกระเพาะอาหาร สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โรงพยาบาลวิภาวดี หรือติดต่อได้ที่ โทร. 02-561-1111
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการผ่าตัดกระเพาะอาหาร มีดังนี้
ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับวิธีผ่าตัดและบริการเสริม เช่น การพักฟื้นและอาหารพิเศษ โดยทั่วไปอาจอยู่ในช่วงหลักแสนถึงหลายแสนบาท ควรสอบถามกับโรงพยาบาลโดยตรงเพื่อประเมินค่าใช้จ่ายที่ชัดเจน
การคุ้มครองขึ้นอยู่กับกรมธรรม์และเงื่อนไขของแต่ละบริษัท บางประกันอาจครอบคลุมเฉพาะกรณีโรคอ้วนที่มีภาวะแทรกซ้อน ควรตรวจสอบรายละเอียดและปรึกษากับบริษัทประกันก่อนตัดสินใจผ่าตัด
ผู้หญิงสามารถตั้งครรภ์ได้หลังการผ่าตัด แต่ควรรออย่างน้อย 12-18 เดือนหลังผ่าตัด เพื่อให้ร่างกายปรับตัวและน้ำหนักคงที่ พร้อมปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับโภชนาการและวิตามินที่จำเป็นระหว่างตั้งครรภ์
น้ำหนักอาจกลับมาเพิ่มได้หากไม่ควบคุมพฤติกรรมการกินและออกกำลังกาย การติดตามแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ปรับพฤติกรรมการกิน และออกกำลังกายต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาผลลัพธ์การลดน้ำหนักให้นานที่สุ
นโยบายความเป็นส่วนตัว | นโยบาย คุกกี้
Copyright © Vibhavadi Hospital. All right reserved