ผ่าตัดกระเพาะ

ผ่าตัดกระเพาะ: ลดน้ำหนัก ห่างไกลโรคอ้วน ปลอดภัย

Key Takeaway

  • ผ่าตัดกระเพาะคือการปรับขนาดหรือทางเดินอาหารเพื่อให้รับประทานอาหารได้น้อยลงและดูดซึมแคลอรีน้อยลง ช่วยลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพและปรับสุขภาพโดยรวม ต่างจากการลดน้ำหนักแบบธรรมชาติ เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพโดยตรง
  • ผ่าตัดกระเพาะเหมาะกับผู้ที่ผล BMI สูง โดยนำกระเพาะเล็กต่อลำไส้ และการใส่บอลลูนในกระเพาะ
  • ผ่าตัดกระเพาะมีหลายวิธี เช่น สลีฟ ตัดกระเพาะออกส่วนใหญ่ เหลือเพียงท่อแคบเพื่อลดความหิว บายพาสกระเพาะ โดยนำกระเพาะเล็กต่อลำไส้ ลดการดูดซึมแคลอรี มินิบายพาส ขั้นตอนง่ายกว่า ลดน้ำหนักรวดเร็ว และการใส่บอลลูนในกระเพาะ เพื่อให้รับประทานอาหารได้น้อยลง

เมื่อการควบคุมอาหารและออกกำลังกายอาจยังไม่พอสำหรับบางคน การผ่าตัดกระเพาะอาหารจึงกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยลดน้ำหนักได้จริง ปลอดภัย และยั่งยืน โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะอ้วนเรื้อรังหรือโรคร่วมที่เสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพ บทความนี้จะพาไปรู้จักการผ่าตัดกระเพาะแบบเจาะลึก พร้อมประโยชน์ ข้อควรรู้ และการเตรียมตัวก่อน-หลังอย่างครบถ้วน

ผ่าตัดกระเพาะคืออะไร ช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไร

ผ่าตัดกระเพาะคืออะไร ช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไร?

การผ่าตัดกระเพาะอาหาร (Bariatric Surgery) เป็นการรักษาที่ใช้วิธีการผ่าตัดเพื่อปรับเปลี่ยนขนาดหรือการทำงานของกระเพาะอาหารและทางเดินอาหารบางส่วน ทำให้ผู้เข้ารับการผ่าตัดรับประทานอาหารได้น้อยลง และร่างกายดูดซึมสารอาหารบางชนิดได้น้อยลงด้วย ซึ่งช่วยให้ลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ การผ่าตัดกระเพาะอาหารแตกต่างจากการลดน้ำหนักแบบทั่วไป เช่น การควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย หรือใช้ยา เพราะเป็นวิธีที่มีผลทางกายภาพโดยตรงต่อระบบย่อยอาหาร

ซึ่งวิธีนี้มักได้ผลลัพธ์ของการลดน้ำหนักที่ชัดเจนและรวดเร็วมากกว่าการลดน้ำหนักด้วยวิธีธรรมชาติ จุดประสงค์หลักของการผ่าตัดกระเพาะอาหารมีทั้งเพื่อลดน้ำหนักในผู้ที่มีภาวะอ้วนรุนแรง และเพื่อช่วยรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับความอ้วน เช่น เบาหวานความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หรือโรคหัวใจ โดยการผ่าตัดไม่เพียงแต่ช่วยลดน้ำหนัก แต่ยังสามารถปรับปรุงสุขภาพโดยรวมและลดความเสี่ยงจากโรคร้ายแรงได้อีกด้วย

ผ่าตัดกระเพาะอาหารลดน้ำหนัก เหมาะกับใครบ้าง

ผ่าตัดกระเพาะอาหารลดน้ำหนัก เหมาะกับใครบ้าง?

ผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนักเหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคอ้วนสูงและต้องการวิธีลดน้ำหนักที่ได้ผลอย่างยั่งยืน สำหรับผู้ที่เหมาะจะทำ ได้แก่

  • ผู้ที่มีดัชนีมวลกาย (BMI) สูงเกินเกณฑ์ และเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง
  • ผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล หรือกลับมาอ้วนซ้ำ
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วน เช่น เบาหวาน ความดันสูง หรือไขมันในเลือดสูง
  • ผู้ที่มีสุขภาพจิตปกติและมีวุฒิภาวะเพียงพอในการตัดสินใจรักษา
  • ผู้ที่ได้รับการประเมินและคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนัก
  • อายุระหว่าง 18-65 ปี (แต่สามารถพิจารณานอกช่วงอายุได้กรณีเฉพาะ)

 

ประโยชน์ของการผ่าตัดกระเพาะอาหาร

ประโยชน์ของการผ่าตัดกระเพาะอาหาร

การผ่าตัดกระเพาะอาหารมีประโยชน์หลายด้าน ทั้งช่วยลดน้ำหนักและปรับปรุงสุขภาพโดยรวม ดังนี้

  • ลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
  • ช่วยควบคุมโรคที่เกี่ยวข้องกับความอ้วน เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง
  • ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคหลอดเลือด
  • ปรับปรุงคุณภาพชีวิต เช่น การเคลื่อนไหวง่ายขึ้น นอนหลับดีขึ้น และมีพลังงานมากขึ้น
  • ช่วยเพิ่มความมั่นใจและสุขภาพจิตที่ดีขึ้น
  • ลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคอ้วนระยะยาว

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดกระเพาะ

ก่อนการผ่าตัดกระเพาะอาหาร การเตรียมตัวที่เหมาะสมมีความสำคัญเพื่อให้การผ่าตัดปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ดังนี้

  • การตรวจร่างกายและจิตใจ ประเมินสุขภาพร่างกายและจิตใจเพื่อให้แน่ใจว่าผู้เข้ารับการผ่าตัดพร้อมทั้งทางกายและใจ
  • การปรึกษาโภชนาการ วางแผนการกินอาหารที่เหมาะสมก่อนและหลังการผ่าตัด
  • การปรับพฤติกรรมการกินก่อนผ่าตัด ลดอาหารบางชนิดหรือปรับปริมาณอาหารเพื่อช่วยให้ร่างกายปรับตัว
  • ปรับพฤติกรรมเสี่ยงก่อนผ่าตัด เลิกสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ให้น้อยลง และจัดการโรคประจำตัวให้ควบคุมได้

 

การผ่าตัดกระเพาะอาหารมีกี่วิธี

การผ่าตัดกระเพาะอาหารมีกี่วิธี?

การผ่าตัดกระเพาะอาหารมีหลายวิธี โดยแต่ละวิธีมีจุดเด่นและเหมาะกับผู้เข้ารับการผ่าตัดที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. ผ่าตัดกระเพาะแบบสลีฟ (Sleeve Gastrectomy)

เป็นการตัดกระเพาะอาหารออกประมาณ 70-80% เหลือเพียงส่วนแคบเหมือนท่อ ทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลงและลดความหิว วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่มีดัชนีมวลกายสูงมาก (BMI ≥35) หรือมีโรคที่เกี่ยวข้องกับความอ้วน ผ่าตัดกระเพาะพักฟื้นกี่วันหากใช้วิธีนี้? ใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์

ข้อดี

  • ลดน้ำหนักได้เร็วและชัดเจน
  • ไม่ต้องมีการต่อทางเดินอาหารซับซ้อน
  • ลดความหิวเนื่องจากฮอร์โมนที่กระตุ้นความหิวลดลง

2. ผ่าตัดแบบบายพาสกระเพาะ (Roux-en-Y Gastric Bypass)

เป็นการสร้างกระเพาะอาหารขนาดเล็กและเชื่อมต่อกับลำไส้เล็กส่วนกลาง ทำให้ร่างกายดูดซึมแคลอรีน้อยลง วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่มี BMI สูงมากหรือมีโรคเบาหวานรุนแรง ผ่าตัดกระเพาะพักฟื้นกี่วันหากใช้วิธีนี้? ใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 2-4 สัปดาห์

ข้อดี

  • ลดน้ำหนักได้มากและยั่งยืน
  • ช่วยควบคุมโรคเบาหวานได้ดี
  • ลดความเสี่ยงต่อโรคอ้วนและโรคหัวใจ

3. ผ่าตัดแบบมินิบายพาส (Mini Gastric Bypass)

คล้ายกับบายพาสแบบ Roux-en-Y แต่ขั้นตอนง่ายกว่า เชื่อมกระเพาะขนาดเล็กเข้ากับลำไส้เล็กเพียงจุดเดียว วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักแบบเห็นผลรวดเร็ว และมีโรคอ้วนรุนแรง ผ่าตัดกระเพาะพักฟื้นกี่วันหากใช้วิธีนี้? ใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1-3 สัปดาห์

ข้อดี

  • ขั้นตอนผ่าตัดสั้นกว่า
  • ลดน้ำหนักได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
  • ลดความเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวข้องกับความอ้วน

4. ใส่บอลลูนในกระเพาะ (Intragastric Balloon)

เป็นการสอดบอลลูนซิลิโคนเข้าไปในกระเพาะอาหารผ่านทางปากและกลืนลงไป จากนั้นเติมน้ำเกลือหรือแก๊สให้บอลลูนขยาย วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักปานกลางหรือเริ่มต้นลดน้ำหนัก ผ่าตัดกระเพาะพักฟื้นกี่วันหากใช้วิธีนี้? ใช้เวลาพักฟื้นเพียงไม่กี่วัน

ข้อดี

  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลใหญ่
  • ลดน้ำหนักได้โดยไม่เสี่ยงต่อการผ่าตัดใหญ่
  • สามารถนำบอลลูนออกได้หลัง 6-12 เดือน

การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดกระเพาะ

หลังการผ่าตัดกระเพาะอาหาร การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมมีความสำคัญต่อการฟื้นตัวและผลลัพธ์การลดน้ำหนัก ดังนี้

  • ช่วงพักฟื้นหลังผ่าตัดกระเพาะ พักผ่อนเพียงพอ หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
  • ปรับพฤติกรรมการกินหลังผ่าตัด รับประทานอาหารทีละน้อย บ่อยครั้ง เลือกอาหารที่ย่อยง่าย และเคี้ยวให้ละเอียด
  • การออกกำลังกายที่เหมาะสม เริ่มจากทำกิจกรรมเบาๆ เช่น เดินช้า ยืดเหยียด หรือทำงานบ้านเล็กน้อย เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัว และค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้น 
  • การกินยาและอาหารเสริม รับประทานวิตามินและแร่ธาตุตามที่แพทย์สั่ง เพื่อป้องกันการขาดสารอาหาร
  • ดูแลสุขภาพจิตและอารมณ์ ปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย จัดการความเครียด และขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญหากจำเป็น
  • การติดตามผลกับแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ตรวจสุขภาพ ตรวจน้ำหนัก และประเมินผลการลดน้ำหนักตามเวลาที่แพทย์กำหนด

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการผ่าตัดกระเพาะ

ก่อนตัดสินใจผ่าตัดกระเพาะอาหาร ควรเข้าใจข้อควรรู้และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้

  • ความเสี่ยงจากการผ่าตัด มีโอกาสเกิดเลือดออก ติดเชื้อ หรือแผลไม่หายดี
  • ภาวะแทรกซ้อนทางเดินอาหาร อาจเกิดกรดไหลย้อน อาเจียน หรือท้องอืดได้
  • การขาดสารอาหาร ร่างกายอาจดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุได้น้อยลง ต้องกินเสริมอย่างต่อเนื่อง
  • ผลข้างเคียงระยะสั้น ปวดแผล คลื่นไส้ หรืออ่อนเพลียหลังผ่าตัด
  • ผลข้างเคียงระยะยาว การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินอาจทำให้เกิดภาวะขาดโปรตีน หรือท้องเสียเรื้อรังในบางราย
  • ต้องปรับวิถีชีวิต ต้องควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย และติดตามสุขภาพกับแพทย์อย่างต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและยั่งยืน

ผ่าตัดกระเพาะที่โรงพยาบาลวิภาวดี

โรงพยาบาลวิภาวดีให้บริการผ่าตัดกระเพาะอาหาร โดยแพทย์เฉพาะทาง และใช้เทคโนโลยีทันสมัย ช่วยลดขนาดกระเพาะ ทำให้ผู้ป่วยอิ่มเร็ว รับประทานอาหารน้อยลง ส่งผลให้น้ำหนักลดและสุขภาพดีขึ้น ก่อนผ่าตัด ผู้ป่วยจะเข้ารับการประเมินสุขภาพอย่างละเอียด เช่น ตรวจเลือด อัลตราซาวนด์ ส่องกล้องกระเพาะอาหาร และตรวจหัวใจ-ปอด เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม หลังผ่าตัด แพทย์และนักโภชนาการจะแนะนำการรับประทานอาหารและการดูแลตัวเอง เพื่อให้ผลลัพธ์การรักษาได้ผลดีที่สุ

สรุป

การผ่าตัดกระเพาะอาหารเป็นวิธีลดน้ำหนักที่เหมาะกับผู้ที่ BMI สูง หรือมีโรคที่เกี่ยวข้องกับความอ้วน เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง มีหลายวิธีทั้งสลีฟ บายพาส มินิบายพาส และบอลลูนกระเพาะ แต่ละวิธีมีข้อดีและระยะพักฟื้นต่างกัน จุดประสงค์คือลดน้ำหนักและปรับปรุงสุขภาพ ก่อนผ่าตัดต้องตรวจร่างกาย ปรึกษาโภชนาการ และปรับพฤติกรรมเสี่ยง หลังผ่าตัดต้องควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย กินวิตามิน และติดตามแพทย์ พร้อมเข้าใจผลข้างเคียงที่อาจเกิด เช่น เลือดออก ติดเชื้อ กรดไหลย้อน ขาดสารอาหาร เพื่อผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพ

หากคุณสนใจข้อมูลเพิ่มเติมหรือปรึกษาเกี่ยวกับการผ่าตัดกระเพาะอาหาร สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โรงพยาบาลวิภาวดี หรือติดต่อได้ที่ โทร. 02-561-1111

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการผ่าตัดกระเพาะอาหาร มีดังนี้

ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดกระเพาะเท่าไร?

ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับวิธีผ่าตัดและบริการเสริม เช่น การพักฟื้นและอาหารพิเศษ โดยทั่วไปอาจอยู่ในช่วงหลักแสนถึงหลายแสนบาท ควรสอบถามกับโรงพยาบาลโดยตรงเพื่อประเมินค่าใช้จ่ายที่ชัดเจน

ประกันสุขภาพคุ้มครองการผ่าตัดกระเพาะอาหารหรือไม่?

การคุ้มครองขึ้นอยู่กับกรมธรรม์และเงื่อนไขของแต่ละบริษัท บางประกันอาจครอบคลุมเฉพาะกรณีโรคอ้วนที่มีภาวะแทรกซ้อน ควรตรวจสอบรายละเอียดและปรึกษากับบริษัทประกันก่อนตัดสินใจผ่าตัด

หลังผ่าตัดกระเพาะอาหารสามารถตั้งครรภ์ได้ไหม?

ผู้หญิงสามารถตั้งครรภ์ได้หลังการผ่าตัด แต่ควรรออย่างน้อย 12-18 เดือนหลังผ่าตัด เพื่อให้ร่างกายปรับตัวและน้ำหนักคงที่ พร้อมปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับโภชนาการและวิตามินที่จำเป็นระหว่างตั้งครรภ์

น้ำหนักจะกลับมาเพิ่มได้อีกไหมหลังผ่าตัด?

น้ำหนักอาจกลับมาเพิ่มได้หากไม่ควบคุมพฤติกรรมการกินและออกกำลังกาย การติดตามแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ปรับพฤติกรรมการกิน และออกกำลังกายต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาผลลัพธ์การลดน้ำหนักให้นานที่สุ

รีวิวจากคนไข้

“ภูมิใจที่ได้ดูแลคุณ”

สอบถามรายละเอียดและนัดหมายล่วงหน้าที่

02-561-1111

02-058-1111


ทีมแพทย์ผ่าตัดกระเพาะ