Key Takeaway
การรักษาอาการไส้ติ่งอักเสบที่พบได้บ่อยและเป็นเหตุฉุกเฉินที่ต้องได้รับการผ่าตัดทันที แต่ก่อนเข้ารับการผ่าตัดไส้ติ่งควรเตรียมตัวอย่างไร รู้ความเสี่ยง และวิธีดูแลตัวเองหลังผ่าตัดให้ฟื้นตัวเร็ว รวมคำแนะนำจากโรงพยาบาลวิภาวดีเพื่อให้คุณพร้อมและปลอดภัยในทุกขั้นตอน
/1.jpg)
ไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis) คือภาวะที่ไส้ติ่งซึ่งเป็นอวัยวะเล็กๆ ต่อออกมาจากลำไส้ใหญ่ส่วนต้นอักเสบ มักเกิดจากการอุดตันภายในไส้ติ่งทำให้เชื้อแบคทีเรียเพิ่มจำนวนและก่อให้เกิดการติดเชื้อ ไส้ติ่งอักเสบมักแสดงอาการปวดท้องเฉียบพลันโดยเฉพาะบริเวณท้องด้านล่างขวา หากไม่ได้รับการรักษาไส้ติ่งสามารถแตกหรือทะลุ ทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายเข้าไปในช่องท้อง ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงหรือเยื่อบุช่องท้องอักเสบ ซึ่งอาจอันตรายถึงชีวิตได้ ไส้ติ่งอักเสบสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่พบได้บ่อยในวัยรุ่นและผู้ใหญ่วัยต้น
ไส้ติ่งอักเสบเกิดจากหลายสาเหตุที่ทำให้ไส้ติ่งเกิดการอักเสบและติดเชื้อ การทำความเข้าใจสาเหตุเหล่านี้ช่วยให้สามารถป้องกันและสังเกตอาการได้อย่างทันท่วงที
การอุดตันของช่องไส้ติ่งคือสภาพที่ช่องว่างภายในไส้ติ่งเกิดการตัน ทำให้ไส้ติ่งไม่สามารถระบายของเหลวและสิ่งต่างๆ ออกจากตัวเองได้ สิ่งกีดขวางนี้อาจเกิดจากสิ่งเหล่านี้
เมื่อเกิดการอุดตัน เชื้อแบคทีเรียที่มีอยู่ตามธรรมชาติในลำไส้ก็จะเจริญเติบโตภายในไส้ติ่งอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการอักเสบ บวม และความดันภายในไส้ติ่งเพิ่มขึ้นหากไม่ได้รับการรักษา ไส้ติ่งอาจแตกทำให้เชื้อแพร่กระจายไปยังช่องท้องและเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้
ปัจจัยเสี่ยงเสริมหมายถึงปัจจัยต่างๆ ที่อาจทำให้บุคคลมีโอกาสเกิดไส้ติ่งอักเสบมากขึ้น แม้ว่าจะไม่ได้เป็นสาเหตุโดยตรง แต่มีบทบาทเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดการอักเสบของไส้ติ่งได้ ปัจจัยเสริมหลักๆ ได้แก่
การเข้าใจปัจจัยเสี่ยงเสริมเหล่านี้ช่วยให้สามารถสังเกตตัวเองและป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น การรับประทานอาหารมีกากใยเพียงพอ หรือสังเกตอาการปวดท้องที่ผิดปกติตั้งแต่เนิ่นๆ
/2.jpg)
ไส้ติ่งอักเสบอาการแรกเริ่มไม่เฉพาะเจาะจง ทำให้สังเกตยากในระยะแรก แต่หากปล่อยทิ้งไว้ อาการจะทวีความรุนแรงและชัดเจนขึ้น การสังเกตอาการที่พบบ่อยช่วยให้สามารถเข้ารับการรักษาได้ทันเวลา
การวินิจฉัยไส้ติ่งอักเสบเริ่มจากการประเมินอาการและตรวจร่างกายอย่างละเอียด เนื่องจากอาการในระยะแรกอาจคล้ายกับโรคอื่นๆ แพทย์จึงใช้หลายวิธีร่วมกันเพื่อยืนยันการวินิจฉัย
การวินิจฉัยอย่างรวดเร็วและแม่นยำสำคัญมาก เพราะหากปล่อยไว้อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ไส้ติ่งแตกหรือการติดเชื้อในช่องท้อง
/3.jpg)
เมื่อวินิจฉัยว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบ แพทย์จะพิจารณาการรักษาโดยเร็วเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน การรักษาสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและสภาพร่างกายของผู้ป่วย
การให้ยาปฏิชีวนะมักใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการไส้ติ่งอักเสบไม่รุนแรง หรือมีข้อจำกัดทางสุขภาพที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ทันที ยาจะช่วยลดการติดเชื้อและควบคุมการอักเสบ โดยทั่วไปแพทย์จะให้ยาทางหลอดเลือดดำในโรงพยาบาลก่อน อาจต่อด้วยยารับประทานที่บ้าน อาการจะต้องได้รับการติดตามอย่างใกล้ชิด หากไม่ดีขึ้นหรือมีภาวะแทรกซ้อน อาจจำเป็นต้องผ่าตัดต่อ
การผ่าตัดแบบเปิดเป็นวิธีดั้งเดิมที่ใช้มานาน แพทย์จะทำแผลขนาดประมาณ 5-10 เซนติเมตรบริเวณท้องด้านล่างขวา จากนั้นตัดไส้ติ่งออกโดยตรง วิธีนี้เหมาะกับผู้ป่วยที่ไส้ติ่งแตกหรือมีการติดเชื้อรุนแรง เพราะสามารถทำความสะอาดภายในช่องท้องได้ชัดเจน ข้อเสียคือแผลใหญ่ เจ็บหลังผ่าตัดมากกว่า และฟื้นตัวช้ากว่าการส่องกล้อง
การผ่าตัดส่องกล้องไส้ติ่งเป็นวิธีผ่าตัดที่ใช้กล้องขนาดเล็กและเครื่องมือเฉพาะทางผ่านแผลเล็ก 2–3 จุดบริเวณหน้าท้อง แทนการผ่าตัดเปิดแผลใหญ่ แพทย์จะสอดกล้องเข้าไปในช่องท้องเพื่อดูไส้ติ่งและอวัยวะรอบๆ จากนั้นใช้เครื่องมือขนาดเล็กตัดและเอาไส้ติ่งออก วิธีนี้มีข้อดีคือทำให้เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว กลับบ้านได้เร็ว และรอยแผลเล็ก ลดความเสี่ยงการติดเชื้อและแผลเป็นใหญ่ แต่ในกรณีไส้ติ่งแตกหรือมีพยาธิสภาพซับซ้อน แพทย์อาจต้องเปลี่ยนเป็นการผ่าตัดเปิดแทน
ก่อนผ่าตัดไส้ติ่ง ผู้ป่วยควรเตรียมตัวให้ร่างกายและสภาพร่างกายพร้อม เพื่อให้การผ่าตัดปลอดภัยและลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน
หลังผ่าตัดไส้ติ่ง การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมจะช่วยให้แผลหายเร็ว ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ และกลับไปใช้ชีวิตปกติได้เร็วขึ้น
/4.jpg)
หลายคนอาจกังวลว่าผ่าตัดไส้ติ่งอันตรายไหม? การผ่าตัดไส้ติ่งเป็นขั้นตอนที่ปลอดภัยและทำเป็นประจำ แม้มีความเสี่ยงบางประการ ซึ่งควรสังเกตอาการและเข้าพบแพทย์ทันทีหากเกิดปัญหา
โดยรวมแล้วถ้าได้รับการผ่าตัดโดยแพทย์มากประสบการณ์และดูแลหลังผ่าตัดดี ความเสี่ยงรุนแรงเกิดได้น้อยมาก
/5.jpg)
ภาวะไส้ติ่งอักเสบถือเป็นเหตุฉุกเฉินที่ต้องได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วและปลอดภัย เข้ารับบริการที่ศูนย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลวิภาวดีให้บริการผ่าตัดไส้ติ่งทั้งแบบเปิด (Open Appendectomy) และแบบส่องกล้อง (Laparoscopic Appendectomy) โดยดำเนินการโดยศัลยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ครบครัน เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ปลอดภัย รวดเร็ว และฟื้นตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไส้ติ่งอักเสบคือภาวะที่ไส้ติ่งเกิดการอักเสบ มักเกิดจากการอุดตันภายใน ทำให้เชื้อแบคทีเรียเจริญและติดเชื้อ ผู้ป่วยมักมีอาการปวดท้องเฉียบพลันด้านล่างขวา คลื่นไส้ เบื่ออาหาร และไข้ หากไม่ได้รับการรักษาไส้ติ่งอาจแตกและเกิดการติดเชื้อรุนแรง การวินิจฉัยทำโดยซักประวัติ ตรวจร่างกาย และตรวจเลือดหรือภาพทางการแพทย์ การรักษามีทั้งใช้ยาปฏิชีวนะ สำหรับอาการไม่รุนแรง และการผ่าตัด ทั้งแบบเปิดและส่องกล้องเพื่อเอาไส้ติ่งออก หลังผ่าตัดควรพักผ่อน ดูแลแผล และรับประทานอาหารอ่อน
สนใจตรวจสุขภาพเพื่อประเมินความเสี่ยง หรือเข้ารับการรักษาผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบที่ศูนย์ศัลยกรรม ให้บริการผ่าตัดไส้ติ่งทั้งแบบเปิดและแบบส่องกล้องโดยศัลยแพทย์มากประสบการณ์ พร้อมเทคโนโลยีครบครัน เพื่อการรักษาที่ปลอดภัยและฟื้นตัวเร็ว ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย! ที่ โรงพยาบาลวิภาวดี หรือติดต่อได้ที่ โทร. 02-561-1111
เพื่อให้เข้าใจเกี่ยวกับการผ่าตัดไส้ติ่งมากขึ้น มาดูคำถามที่หลายคนมักสงสัยพร้อมคำตอบกัน
เวลาผ่าตัดไส้ติ่งขึ้นอยู่กับวิธีที่ใช้และความซับซ้อนของอาการ โดยทั่วไปการผ่าตัดแบบส่องกล้อง ใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที ส่วนการผ่าตัดแบบเปิด อาจใช้เวลานานขึ้นเล็กน้อย โดยแพทย์จะวางแผนให้ราบรื่นและปลอดภัยที่สุด
ระยะเวลาพักฟื้นในโรงพยาบาลขึ้นกับความรุนแรงและวิธีผ่าตัด การผ่าตัดส่องกล้อง ผู้ป่วยมักพัก 1-2 วัน ส่วนการผ่าตัดแบบเปิด อาจต้องนอน 2-4 วัน เพื่อสังเกตอาการและดูแลแผลให้ปลอดภัย แล้วการผ่าตัดไส้ติ่งแตกพักฟื้นกี่วัน ต้องพักฟื้นนานกว่าไส้ติ่งอักเสบปกติ ส่วนใหญ่ต้องพีกที่โรงพยาบาลประมาณ 5-10 วัน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อน เพราะร่างกายต้องฟื้นตัวจากการติดเชื้อและการอักเสบที่ลุกลาม
ควรงดอาหารแข็งและมื้อหนัก เพื่อป้องกันอาหารย้อนเข้าปอดระหว่างดมยาสลบ สามารถดื่มน้ำหรือของเหลวใสได้นิดหน่อยตามคำแนะนำแพทย์ หลังผ่าตัดไส้ติ่งควรกินอาหารย่อยง่ายและอ่อนๆ เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก น้ำซุป ผักต้ม ผลไม้ที่นิ่ม และโปรตีนเบาๆ เช่น ไก่ ปลา ไข่ เต้าหู้ ควรหลีกเลี่ยงอาหารมัน ของทอด และเผ็ดจัด เพื่อป้องกันท้องอืดหรือท้องผูก และช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น
ไส้ติ่งอักเสบสามารถเกิดในเด็กได้เช่นกัน และเด็กสามารถผ่าตัดไส้ติ่งได้อย่างปลอดภัย แพทย์จะปรับปริมาณยาสลบและอุปกรณ์ให้เหมาะกับวัยและน้ำหนักของเด็ก พร้อมดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดกระบวนการ
หลังผ่าตัดไส้ติ่งแล้วโอกาสกลับมาเป็นซ้ำแทบไม่มี เพราะไส้ติ่งถูกตัดออกแล้ว แต่การปฏิบัติตัวหลังผ่าตัด เช่น รักษาความสะอาดของแผลและติดตามอาการตามคำแนะนำแพทย์ จะช่วยลดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ได้
นโยบายความเป็นส่วนตัว | นโยบาย คุกกี้
Copyright © Vibhavadi Hospital. All right reserved