อุบัติเหตุเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิด โดยเฉพาะอุบัติเหตุเกี่ยวกับเอ็นไขว้หน้า ที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน อุบัติเหตุเอ็นไขว้หน้าขาดเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ บทความนี้จะพาไปสังเกตอาการเอ็นไขว้หน้าขาด วิธีตรวจวินิจฉัย พร้อมวิธีรักษา เพื่อป้องกันอันตรายจากภาวะเข่าเสื่อมในอนาคต
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Nov%2012%20(%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%94)%20(1).jpg)
เอ็นไขว้หน้า (Anterior cruciate ligament: ACL) คือเส้นเอ็นหลักชนิดหนึ่งที่อยู่ในข้อเข่า เป็นเส้นเอ็นที่อยู่ลึกในส่วนกลางของข้อเข่า ทำหน้าที่ยึดป้องกันไม่ให้เกิดอาการเข่าหมุน ทำให้เข่ามีการเคลื่อนไหวที่มั่นคง เมื่อเกิดอาการเอ็นไขว้หน้าขาดจะมีเลือดออกภายในข้อ ผู้ป่วยจะเคลื่อนไหวได้ลำบาก มีอาการเจ็บเข่า เข่าบวม ไม่สามารถงอเข่าได้
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Nov%2012%20(%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%94)%20(2).jpg)
สำหรับระดับความเจ็บของอาการเอ็นไขว้หน้าขาดนั้น สามารถแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้
ระดับที่ 1 ระดับต้นอาการเอ็นไขว้หน้าขาดระดับต้น เอ็นได้รับความเสียหายเล็กน้อย ข้อเข่ายังทรงตัวได้อยู่
ระดับที่ 2 ระดับกลางเอ็นไขว้หน้ามีการฉีกขาดออกบางส่วน หัวเข่าเริ่มมีอาการบวม รู้สึกเจ็บเข่ามากยิ่งขึ้น
ระดับที่ 3 ระดับรุนแรงเอ็นไขว้หน้าขาดออกทั้งหมด มีเลือดออกภายใน ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บมากขึ้นจนไม่สามารถเดิน หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ต่อได้
ทั้งนี้ ผู้ป่วยบางรายอาจไม่รู้สึกเจ็บมากขนาดนั้นเมื่อเอ็นไขว้หน้าขาดไประยะหนึ่งโดยที่ยังไม่ได้รับการรักษา จะรู้สึกว่าหัวเข่าหลวม หรือรู้สึกปวดเข่าจนไม่สามารถออกกำลังกายได้เท่าเดิมแค่นั้น
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Nov%2012%20(%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%94)%20(3).jpg)
อาการเอ็นไขว้หน้าขาดที่สามารถสังเกตได้ มักมีอาการดังต่อไปนี้
มีอาการปวดเข่า หรือในบางรายอาจมีอาการปวดมาก จนส่งผลต่อการเคลื่อนไหว
หัวเข่าบวมหลังจากเกิดอุบัติเหตุภายในไม่ถึง 1 ชั่วโมง
รู้สึกเหมือนมีเสียงลั่นอยู่ภายในขา
ไม่สามารถเดินลงน้ำหนักได้เต็มที่
รู้สึกข้อเข่าหลวม หรือรู้สึกไม่มั่นคงขณะทำกิจกรรมต่างๆ
เอ็นไขว้หน้าขาดเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นระหว่างการเล่นกีฬา หรือเกิดจากอุบัติเหตุ เช่น สะดุดล้ม หกล้ม ก็อาจทำให้เอ็นฉีกขาดได้ โดยสามารถแบ่งสาเหตุหลักของการเกิดเอ็นไขว้หน้าขาดได้ ดังนี้
โดยเฉพาะกีฬาที่ต้องออกแรงปะทะ เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล จะมีความเสี่ยงของการเกิดเอ็นไขว้หน้าขาดได้ง่ายกว่ากีฬาทั่วไป เนื่องจากมีการใช้กล้ามเนื้อขาในการเคลื่อนไหว เมื่อเกิดการบิดหมุนของหัวเข่าที่รุนแรง หรือเกิดหกล้ม ก็อาจทำให้เกิดอาการเอ็นไขว้หน้าขาดได้
อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ตลอด โดยอุบัติเหตุที่ทำให้เอ็นไขว้หน้าฉีกขาดนั้นมักมาจากอุบัติเหตุในชีวิตประจำวัน เช่น การเดินแล้วหยุดกะทันหัน การเดินแล้วเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว การสะดุดล้ม ตกบันได หรือแม้แต่การเดินชนกัน ล้วนทำให้เกิดการกระแทกบริเวณหัวเข่าจนเอ็นฉีกขาดได้
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Nov%2012%20(%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%94)%20(4).jpg)
อุบัติเหตุเอ็นไขว้หน้าขาดสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย ทั้งนี้ กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่อาจเกิดอาการเอ็นไขว้หน้าขาด มีดังนี้
นักกีฬาเป็นกลุ่มที่ต้องใช้แรงมากกว่าปกติ โดยเฉพาะผู้ที่เล่นกีฬาที่ต้องใช้แรงปะทะ เช่น นักกีฬาฟุตบอล นักกีฬาบาสเกตบอล จะมีความเสี่ยงเป็นเอ็นไขว้หน้าขาดมากกว่ากีฬาแบบอื่น เนื่องจากต้องออกแรงขาอยู่ตลอดเวลา
ผู้หญิงจะมีความเสี่ยงเป็นเอ็นไขว้หน้าขาดมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากสรีระร่างกายที่แตกต่างกัน ข้อเข่าของผู้หญิงจะมีมุมมากกว่า และมีความแข็งแรงของกล้ามเนื้อน้อยกว่าผู้ชาย
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Nov%2012%20(%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%94)%20(5).jpg)
เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วรู้สึกเจ็บบริเวณหัวเข่า เข่าบวม ควรทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเดินทางไปโรงพยาบาล ดังนี้
ให้ผู้ป่วยนอนอยู่กับที่ พยายามขยับให้น้อยที่สุด
ทำการประคบเย็นที่บริเวณหัวเข่า
หลังจากประคบเย็นสักพักจนรู้สึกดีขึ้น ให้ลองขยับหัวเข่า ลองงอเข่า และค่อยๆ เหยียดขา
สังเกตว่ามีอาการเจ็บบริเวณอื่นเพิ่มเติมอีกหรือไม่
หากมีอาการเจ็บรุนแรง ให้ดามขาด้วยไม้พร้อมพันผ้ายึดไว้ให้แน่น
หากข้อเข่าผิดรูป บิดเบี้ยว งดการดัด หรืองอเข่าต่างๆ ด้วยตัวเอง
ให้รีบเดินทางไปโรงพยาบาลให้รวดเร็วที่สุด
สำหรับขั้นตอนการวินิจฉัยอาการเอ็นไขว้หน้าขาด แพทย์จะเริ่มสอบถามอาการ และทำการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม ดังนี้
สอบถามอาการโดยทั่วไป เช่น มีสาเหตุอะไรถึงทำให้ปวดเข่า เกิดอุบัติเหตุมาหรือไม่?
แพทย์จะทำการตรวจสอบบริเวณเข่าว่ามีอาการอักเสบมากน้อยขนาดไหน
ทำการตรวจเพิ่มเติมด้วยการเอกซเรย์ หรือสแกนด้วยคลื่นสนามแม่เหล็ก (MRI)
แพทย์แจ้งผลการวินิจฉัยให้กับผู้ป่วย พร้อมเสนอแนวทางการรักษาที่เหมาะสม
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Nov%2012%20(%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%94)%20(6).jpg)
ในปัจจุบันมีวิธีการรักษาอาการเอ็นไขว้หน้าขาด 2 รูปแบบหลักๆ ดังนี้
โดยทั่วไปแล้ว อาการเอ็นไขว้หน้าขาดไม่สามารถรักษาหายได้ด้วยตัวเอง ต้องเข้ารับการผ่าตัดถึงจะสามารถหายขาดได้ ดังนั้น การรักษาแบบไม่ผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้สูงวัยที่ไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวมาก โดยจะเป็นการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของตัวเอง เช่น หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวเยอะ หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาที่ต้องใช้แรงขา เป็นต้น
วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่ยังอายุน้อย หรือผู้ที่ต้องการให้ร่างกายกลับมาเคลื่อนไหวได้ตามปกติ โดยศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดด้วยการส่องกล้องบริเวณข้อเข่า เพื่อเย็บซ่อมบริเวณเส้นเอ็นที่เสียหาย โดยจะมีบาดแผลเป็นรูเล็กๆ ที่สามารถสังเกตได้ประมาณ 2 - 3 รู
ทั้งนี้ วิธีการผ่าตัดแบบส่องกล้องเป็นการรักษาที่ดีที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นการผ่าตัดเล็ก มีบาดแผลเพียงเล็กน้อย และใช้เวลาฟื้นตัวได้เร็ว ผู้ป่วยจะต้องใช้ไม้เท้าประคองหลังผ่าตัดเป็นระยะเวลาประมาณ 1 เดือน จากนั้นอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ
สำหรับวิธีป้องกันการเกิดภาวะเสี่ยงเอ็นไขว้หน้าขาด แนะนำให้ปฏิบัติ ดังนี้
เตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือร่างกายก่อนออกกำลังกายแนะนำให้ใส่สนับเข่าก่อน เพื่อประคองบริเวณหัวเข่า
เตรียมความพร้อมก่อนออกกำลังกายทุกครั้งแนะนำให้ยืดกล้ามเนื้อก่อน เพื่อให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย มีความยืดหยุ่น
ฝึกยืดกล้ามเนื้อ สร้างสมดุลของหัวเข่าอย่างสม่ำเสมอแนะนำให้ฝึกบริหารกล้ามเนื้อหัวเข่าด้วยการยืดตัว เช่น ฝึกงอเข่าข้างหนึ่ง จากนั้นเหยียดขาอีกข้างหนึ่ง แล้วจึงโน้มตัวไปข้างหลัง สลับกับข้างหน้า ยืดให้สุดจนรู้สึกตึงบริเวณด้านหลังต้นขาข้างที่เหยียด ควรฝึกยืดอย่างน้อย 5 - 7 วินาที จากนั้นทำซ้ำสลับข้างไปเรื่อยๆ อีก 6 - 10 ครั้ง
หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมในวันที่ฝนตกหนักเพื่อลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุ
/Vibhavadi%20Hospital%20-%20Nov%2012%20(%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%94)%20(7).jpg)
ที่โรงพยาบาลวิภาวดีมีบริการการผ่าตัดรักษาอาการเอ็นไขว้หน้าขาดด้วยการส่องกล้อง ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูงตลอดระยะเวลาการรักษา โดยเฉพาะการผ่าตัดส่องกล้องเอ็นไขว้หน้าข้อเข่า (Arthroscopic ACL Knee)
เพื่อให้การรักษาสามารถทำได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ สามารถนัดหมายได้อย่างสะดวกผ่านเว็บไซต์ของโรงพยาบาลวิภาวดีและสามารถตรวจสอบรายละเอียดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้ที่นี่และสำหรับผู้ที่ต้องการใช้สิทธิ์ประกันผู้ป่วย สามารถสอบถามค่าใช้จ่าย และค่าผ่าตัดประมาณการได้ที่แผนกผู้ป่วยในโทรศัพท์: 02-561-1111 ต่อ 4137,4139นอกจากนี้ยังมีช่องทางสำหรับการติดต่อของตัวแทนประกันชีวิตต่างๆ ทางLine ID: @vibhainsurance
อาการเอ็นไขว้หน้าขาด เป็นอาการที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้เคลื่อนไหวได้ยาก เข่าไม่สามารถงอได้ ดังนั้น เมื่อเกิดอุบัติเหตุบริเวณเข่าแล้วมีอาการเจ็บอย่างรุนแรง ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาทันที ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่มีปัญหาข้อเข่า มีอาการบาดเจ็บเรื้อรัง หรือรู้สึกปวดเข่าบ่อยเกินกว่าปกติ สามารถติดต่อทีมแพทย์เฉพาะทางด้านข้อเข่าที่โรงพยาบาลวิภาวดีเรามีทางเลือกที่หลากหลายในการรักษา
หรือใครอยากจะตรวจสุขภาพประจำปี ก็ลองดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพของทางโรงพยาบาลวิภาวดีได้เลย โดยสามารถเข้าไปเลือกซื้อแพ็กเกจที่เหมาะสม หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-561-1111
ทางโรงพยาบาลวิภาวดีได้รวบรวมคำถามที่เกี่ยวข้องกับอาการเอ็นไขว้หน้าขาดเอาไว้ให้แล้ว ดังนี้
ได้ ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการให้เข่ากลับมาใช้งานได้เหมือนปกติ แนะนำให้เข้ารับการผ่าตัดจะเหมาะสมกว่า เนื่องจากการผ่าตัดซ่อมเอ็นไขว้หน้าขาดเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก เจ็บน้อยกว่าผ่าตัดใหญ่ และใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน
อาการเอ็นไขว้หน้าขาดสามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการผ่าตัดเท่านั้น ไม่สามารถรักษาหายได้ด้วยตัวเอง เนื่องจากเป็นภาวะที่เอ็นฉีกขาดออกจากกัน
สามารถกลับมาเล่นกีฬาได้เหมือนปกติประมาณ 1 ปีหลังจากการผ่าตัดแก้ไขเอ็นไขว้หน้าขาดแล้ว ทั้งนี้ระยะเวลาการฟื้นฟูร่างกายก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วยเช่นกัน
สามารถเดินได้ เพียงแต่จะมีอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่า ทั้งนี้หากเกิดภาวะข้อเข่าเคลื่อนร่วมด้วย แนะนำให้เข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาจะดีที่สุด
เอ็นไขว้หน้าขาดสามารถรักษาให้ดีขึ้นได้ประมาณ 1 เดือน โดยที่ผู้ป่วยต้องใช้ไม้เท้าและสนับเข่า และหลังจากผ่าตัดอีก 3 เดือน จะสามารถเดินเร็วขึ้นได้ ทั้งนี้ระยะเวลาการหายขาดจะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนด้วย
สอบถามรายละเอียดและนัดหมายล่วงหน้าที่
02-561-1111
02-058-1111
แผนกศัลยกรรมและออร์โธปิดิกส์ เปิดทำการ 08.00 - 19.00 น. ทุกวัน
ติดต่อสอบถามนัดหมายได้ที่ 0-2561-1111 , 0-2058-1111 ต่อ 4142-3
นโยบายความเป็นส่วนตัว | นโยบาย คุกกี้
Copyright © Vibhavadi Hospital. All right reserved