เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย หรือภาวะโลกร้อน

เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย หรือภาวะโลกร้อน

นพ. ภาคิน โลวะสถาพร

แผนกอายุรกรรมทั่วไป



        ฤดูกาลเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพภูมิศาสตร์ คงปฏิเสธไม่ได้นะครับว่า กระแสโลกร้อนนี้มาแรงจริงๆ ก็ฝีมือพวกเราทุกคนนั่นแหละครับ จะโทษใครก็ไม่ได้ เพราะชีวิตประจำวันของเรานั้น เราเป็นผู้ที่บริโภคทรัพยากรบนโลกมากที่สุด เราในที่นี้หมายถึงทุกคนนะครับ จะบอกว่า ผมใช้ทรัพยากรน้อยกว่าคนโน้นคนนี้ก็ไม่ได้ เพราะเราทุกคนก็ใช้ทรัพยากรสะสมกันมาตั้งแต่เกิด ไม่จำเป็นต้องเกี่ยงกันนะครับ ลองพิจารณาดีๆนะครับ ว่าใช้อะไรบ้าง ตั้งแต่เราตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอน หรือตั้งแต่เกิดมาจนกระทั่งเสียชีวิต ลองคิดดูเล่นๆนะครับ ในหนึ่งวันประชากรไทยเกือบ 70 ล้านคน จะใช้ทรัยยากรไปเทาไหร่ และจะสร้างขยะมูลฝอยเท่าไหร่ ในโลกนี้มีประชากรประมาณ 7,000 ล้านคน จะใช้ทรัพยากร มหาศาลเพียงใด เห็นไหมครับ มันสำคัญมาก
 
        เข้าเรื่องสุขภาพการแพทย์ดีกว่า ในช่วงระยะที่ผ่านมา ผมสังเกตว่า จะมีคนไข้ที่มีอาการไข้สูง ปวดเมื่อยตัว ปวดศีรษะ ภายใน 1-2 วัน และเพิ่มปริมาณมากขึ้น แทบจะเรียกได้ว่า 60-70 % ของคนไข้ที่มาตรวจเลยทีเดียวครับ ไม่แน่ใจว่าจะเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนด้วยหรือเปล่า โดยทั่วไปคนไข้ที่มีอาการ ไข้สูงมาภายใน 1-2 วันแรก ก็จะมีได้หลายสาเหตุนะครับ แล้วแต่ว่าจะมีอาการร่วมไปทางใด เช่น บางคนปัสสาวะแสบขัด ก็อาจจะเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบหรือกรวยไตอักเสบ ก็เป็นได้ บางคน ใอ เจ็บคอ ตรวจพบต่อมทอลซินบวมแดงเป็นหนอง ก็วินิจฉัยว่าต่อมทอลซินอักเสบ หรือบางคนเพิ่งเข้าป่ามาเมื่อ สองถึงสามสัปดาห์มาก่อน ก็อาจเป็นไข้มาลาเรียก็เป็นได้ ก็ยกตัวอย่างมาให้เห็นกันชัดๆนะครับในหลายๆกรณี คนไข้มาด้วยไข้เฉียบพลัน ปวดศรีษะ ปวดเมื่อยตัว ปวดเอว เบื่ออาหารและคลื่นไส้ แบบนี้ก็ยากที่จะวินิจฉัยโรคเฉพาะเจาะจงครับ ก็ต้องอาศัยข้อมูลระบาดวิทยาว่า ช่วงนี้มีโรคใดที่ระบาดกันบ้าง อย่างช่วงนี้ก็สงสัย ไข้หวัดใหญ่ มากที่สุดนะครับ ซึ่งอาการก็เป็นได้ดังที่กล่าวมาแล้ว สังเกตว่าคนไข้ที่มาหาส่วนใหญ่มักจะอยู่ในวัยทำงาน ไม่ค่อยได้พักผ่อน นอนดึก ตื่นเช้า หลายคนมีโอกาสออกกำลังกายน้อยมาก ในเมื่อร่างกายกำลังอ่อนเพลีย ประกอบกับเชื้อโรคกำลังเจริญเติบโตดีในสภาพอากาศแบบนี้ ก็ทำให้ผู้ที่รับเชื้อเข้าไปมีโอกาส เป็นโรคได้มากหรือบ่อยขึ้น 

        ครั้นถ้าเราเป็นแล้วจะรักษาอย่างไร สิ่งสำคัญที่สุด คือการต้องพักผ่อนให้มากที่สุด เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นภูมิคุ้มกันโรค เพื่อต่อสู้กับโรค เป็นเพราะว่า เชื้อไข้หวัดนี้เป็นเชื้อไวรัส เราไม่มียาฆ่าเชื้อโดยตรง ต้องอาศัยภูมิคุ้มกันของเรานะครับ และรับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการ การดื่มน้ำสะอาด ถ้าผู้ป่วยมีอาการอ่อนเพลียมาก ก็ต้องมารักษาตัวในโรงพยาบาลต่อไป เพราะฉะนั้นหากเราไม่ต้องการให้เป็นไข้หวัด ก็ควรพยายามหลีกเลี่ยงสัมผัสกับผู้ที่มีอาการ ใส่หน้ากากปิดจมูกไว้ ล้างมือสม่ำเสมอ อยู่ในสถานที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก และไม่อยู่ในที่ๆมีผู้คนแออัดมากเกินไป รวมถึงการทำให้ร่างกายเรามีสุขภาพดีอยู่เสมอ เช่น การออกกำลังกาย การพักผ่อน และการรับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะอนามัยครับ 

        ไม่ว่าจะเป็นเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย หรือภาวะโลกร้อน คุณก็ต้องดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ที่สำคัญอย่าลืม ช่วยกันประหยัดพลังงาน เพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อนกันด้วยนะครับ